วันอาทิตย์ที่19 ตุลาคม
เช้านี้เราตื่นตั้งแต่ตีห้าครึ่งตามเสียงนาฬกาปลุกที่ตั้งไว้ตั้งแต่เมื่อคืน อากาศยามเช้าวันนี้ค่อนข้างหนาวเสียงอีกาส่งเสียงร้องปลุกหมู่มวลสหายวิหคเพื่อบินออกหากินในเช้าวันใหม่ถือเป็นบรรยากาศยามเช้าที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคย เพราะปกติอาศัยในเมืองใหญ่แทบไม่มีแม้เสียงไก่ขันฝืนอาบน้ำท้าความหนาวเหน็บก่อนออกเดินทางเพราะรู้สึกว่าถ้าได้อาบน้ำยามเช้ามันจะทำให้รู้สึกสดชื่นสบายตัวถึงแม้ว่าจะหนาวขนาดไหนก็ไม่หวั่น เดินออกจากห้องน้ำ เห็นนักท่องเที่ยวทยอยกันแบกเป้เช็คเอาท์ออกจาก guesthouse เพื่อเดินทางต่อแต่เช้าแต่ละคนดูสภาพก็รู้ว่าไม่มีใครอาบน้ำกันเลย เห็นจะมีแต่เรานี่แหละที่บ้าอาบน้ำคนเดียวเห็นคนอื่นทยอยกันออกไปแล้ว เราจะมัวโอ้เอ้ร่ำไรคงไม่ได้การ เห็นทีต้องรีบเสียแล้วเพราะเดี๋ยวไม่ทันรถ เช็คเอาท์ออกจากที่พักตอนหกโมงนิด ๆ เดินมุ่งหน้าสู่ถนน Kantipath จุดขึ้นรถสำหรับเดินทางไปยังเมืองโปขราจุดหมายต่อไปสำหรับการเดินทางทริปนี้
บรรยากาศยามเช้าตรู่เช่นนี้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปโปขรา ต่างก็แบกเป้ทยอยกันเดินไปยังจุดขึ้นรถนักท่องเที่ยวบางคนที่ประสงค์จะไป trekking ก็ติด porter หรือลูกหาบไปด้วย ส่วนเรานัดเจอลูกหาบที่โปขรางานนี้จึงต้องแบกเป้ด้วยตัวเองจนหลังโก่งอีกตามเคย ตามทางเดินเห็นคนจรจัดกำลังนอนเรียงแถวบริเวณหน้าอาคารแห่งหนึ่งทั้งสุนัขทั้งคนนอนขดตัวใต้ผ้าห่มเก่า ๆ ดูเป็นภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่งในสายตาของนักเดินทางขาจรทั่วไปแต่สำหรับชาวเนปาลีเองแล้ว ดูพวกเค้าจะคุ้นชินกับภาพเหล่านี้ต่างคนต่างก็เดินผ่านไปโดยไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก
รถทัวร์จากหลายบริษัทจอดเรียงรายตลอดแนวริมถนนเราเดินถามหารถทัวร์ของบริษัท Open Heart ก็ได้รับคำตอบว่าให้เดินไปเรื่อย ๆเดินมาจนเกือบจะเป็นคันหน้าสุดที่จะออกเดินทาง ในที่สุดก็เจอ เจ้าหน้าที่ขอดูตั๋วจากนั้นก็จัดการนำเป้ของเราขึ้นไปเก็บบนหลังคารถซึ่งมีสัมภาระของนักท่องเที่ยวและของชาวเนปาลีเองวางเรียงรายอยู่ข้างบนจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พาไปนั่งยังที่นั่งที่จองไว้ งานนี้เราได้นั่งแถวที่สองเป็นที่นั่งเดี่ยวด้านซ้ายมือ สภาพรถก็คงเทียบไม่ได้กับรถปรับอากาศชั้นสองบ้านเราไม่มีแอร์ มีแต่พัดลม แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีถมถืดแล้ว เพราะอย่างน้อยก็ไม่มีตั๋วยืนเหมือนรถโดยสารปรับอากาศชั้นสองที่เมืองไทย
สำหรับรถโดยสารที่จะเดินทางไปยังโปขรานั้นรถของทุกบริษัทจะวิ่งให้บริการเพียงวันละหนึ่งเที่ยวเท่านั้น และจะเริ่มออกเดินทางในเวลาเดียวกันคือประมาณเจ็ดโมงถึงเจ็ดโมงครึ่งแต่นักท่องเที่ยวควรจะไปให้ถึงก่อนอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง ส่วนบริการของบริษัทไหนดีกว่ากันนั้นคงต้องวัดดวงกันเอาเอง แต่เท่าที่เราใช้บริการมาทั้งขาไปและขากลับก็ไม่มีอะไรแตกต่างกัน พอได้เวลาประมาณเจ็ดโมงครึ่งรถทุกขบวนก็เริ่มเคลื่อนล้อนำผู้โดยสารมุ่งหน้าสู่โปขราเมืองเล็ก ๆต้นทางสำหรับการปีนเขาหิมาลัย |