บทที่ 7 (ท่อนหลัง)
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ บรรยากาศภายในอาคารผู้โดยสารดูวุ่นวายผู้คนเดินขวักไขว่ไปมาด้วยความรีบเร่ง บ้างลากกระเป๋าใบใหญ่ บ้างเข็นรถเข็นสัมภาระต่างไม่มีใครสนใจใครมากนัก จะมีก็แค่ชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่งที่ยืนอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่ดูโดดเด่นด้วยรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูใบหน้าสะอาดสะอ้าน ชวนมอง
ดวงตาใต้แว่นสายตานั้นกวาดมองป้ายไฟรอบอาคาร ตัวอักษรภาษาไทยที่เห็นบ่งบอกว่านี่คือบ้านที่คิดถึง นี่คือสถานที่พักร้อนอย่างแท้จริงไม่มีที่แห่งไหนที่อยากไปเท่าที่นี่อีกแล้ว การกลับมาครั้งนี้เขามาในฐานะผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟียไม่ใช่คนที่ถือปืนมีลูกน้องเดินประกบหน้าหลังสร้างบารมีให้คนกลัวเกรง ชื่อของเขาในเวลานี้คือ 'กวิน ธาดาโสภณ' ชื่อที่ไม่ได้ใช้มานาน แต่วันนี้ผู้ชายคนนี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์เพราะเอรอนได้จับตัว เควิน รีฟส์มาสลัดคราบใหม่
อดีต ราวหนึ่งอาทิตย์ก่อน...
ถ้านายน้อยจะเป็นเชฟกวินเพื่อไปบ้านริมน้ำก็ต้องมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์กันใหม่
เอรอนเสนอความคิดเห็น โดยต้าฟงสนับสนุนเพราะเป็นประโยชน์สำหรับการรักษาความปลอดภัยเมื่อเควินตกลง เขาถูกพาไปยังสตูดิโอใหญ่โตหรูหราแห่งหนึ่ง ที่นั่นทีมงานสไตลิสต์มืออาชีพรออยู่ พวกนั้นใช้เวลาไม่นานในการเปลี่ยนนักธุรกิจมาเฟียให้กลายเป็นชายหนุ่มคนใหม่ที่ทำเอาคนสนิทอย่างเอรอนและต้าฟงถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นเจ้านายเดินออกมาจากห้องแต่งตัวครั้งแรก
มองอย่างนั้นหมายความว่าไงการมองเอรอนทำให้เป้าสายตาต้องถามอย่างนั้น เริ่มไม่มั่นใจตัวเองทั้งที่ก่อนหน้าเหล่าสไตลิสต์ที่เข้ามารุมเขาต่างยกนิ้วชื่นชมว่าหล่อเนี๊ยบ ดูดีถึงขั้นมีการชวนเข้าวงการนายแบบกันเลยทีเดียว ว่าไง ฉันดูไม่ดีเหรอ
หันไปถามต้าฟงที่มีอาการเดียวกับเอรอนรอคำตอบครู่หนึ่ง แต่ลูกน้องสองคนยังไม่ว่าอะไร
ตอบมาตามตรงฉันดูแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ
เอรอนส่ายหน้าเนือยๆ แต่ยังไม่พูดอะไรสีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดหาคำพูดเหมาะๆ มาบรรยายความรู้สึก ถ้าเดินสวนกันกลางทาง ผมคงไม่รู้ว่านี่คือนายน้อยมิราเคิลฯ
ก็ใช่ไง? นายอยากให้เป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอเอรอนพยักหน้ารับหงึกๆ ทำไมนายต้องทำหน้าเหมือนมีอะไรติดคออย่างนั้นด้วยมันดูแย่?
ไม่ครับ ดีมากต่างหากไม่เสียแรงที่จ้างสไตลิสต์แพงๆ มาปรับลุคซ์ให้ใหม่ บอกพลางเดินหมุนรอบตัวนายมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า แต่งแบบนี้ใครก็ดูไม่ออกว่านี่คือนักธุรกิจมาเฟีย...นายน้อยดูเหมือนพวกนายแบบเท่ๆ สไตล์ไอดอลเกาหลี อะไรทำนองนั้น...นายว่ามั้ยต้าฟง
คนถูกถามพยักหน้า แต่ฉันชอบแบบเดิมมากกว่า
ทำไม ทั้งเอรอนและนายน้อยถามเป็นเสียงเดียวกันหันไปจ้องรอคำตอบ
ผมไม่อยากเป็นบอดี้การ์ดไอดอลต้าฟงบอกหน้าตาย ก่อนจะหันไปพูดกับเอรอน นายนึกภาพฉันเดินตามนายน้อยที่แต่งตัวลุคซ์นี้ดูสิ
เอรอนนิ่วหน้าคิดตาม นายคงเหมือนพวกเป็นการ์ดซุปตาร์ ส่วนฉันก็คงเป็นทนายซูปตาร์ด้วย
ใช่มั้ยล่ะดูไม่เวิร์คก็ตรงนี้นี่แหล่ะ
นั่นน่ะสิ ทั้งสองเออออกันเองก่อนจะหันมามองคนที่ถูกเอ่ยถึงพลางส่ายหน้า ทำเอาคนถูกวิจารณ์ของขึ้นเล็กๆอยากจะต่อว่า แต่เมื่อมองตัวเองในกระจก ก็เลือกที่จะเงียบไปพินิจตัวเองเปรียบเทียบกับอดีต ถามตัวเองอีกครั้งว่าอยากเป็นแบบไหน ผู้ชายภาพลักษณ์อบอุ่น อ่อนโยน ดูสุขุมเป็นผู้ใหญ่ด้วยแว่นทันสมัยผมที่มักถูกเซตตั้งเข้าทรงเนี๊ยบ วันนี้ถูกเซตต่างไปสิ้นเชิง ทำให้หน้าดูเปลี่ยน
พวกนายจะว่ายังไงก็ช่างแต่นี่คือกวิน ธาดาโสภณ...คือฉัน ถ้ายังคิดจะอยู่ด้วยกัน ก็ทำใจไว้ซะ!
วันนั้นต้าฟงและเอรอนอาจคิดว่านายแค่พูดประชดแต่ความจริงคือเควินคิดอย่างนั้นจริงๆ เขาเฝ้าฝันมาโดยตลอดว่าอยากเป็นผู้ชายธรรมดาคนนั้นคนที่เหมือนหายตัวไปเมื่อสิบกว่าปีก่อน คนที่วันนี้เขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเพื่อทำตามสัญญา นั่นคือปกป้องเด็กผู้หญิงที่เขาเคยเป็นหนี้ชีวิตคนที่เขากำลังจะเดินทางไปหา คนที่เขาอยากมีตัวตนในสายตาเธออยากใช้ความสามารถที่เฝ้าฝึกฝนมาทำอาหารเพื่อเธอทำในส่วนที่ชรินทร์ตั้งใจแต่ไม่มีโอกาสได้ทำ
ไปเถอะครับคนของเราเอารถมารอเรียบร้อยแล้ว ต้าฟงเข้ามารายงานผู้เป็นนาย มีอะไรรึเปล่าครับ
เอ่ยถามเมื่อเดินนำไปแต่ผู้เป็นนายยังคงยืนอยู่ที่เดิมแถมยังทำสีหน้าบ่งบอกว่าไม่พอใจชัดเจน ซึ่งถึงแม้ปรับลุคซ์ใหม่แล้วแต่แววตาเอาเรื่องที่มองเขาดูจะยังคงรักษาระดับความดุไว้อย่างไม่มีขาดตกบกพร่อง
ฉันบอกนายแล้วใช่มั้ยว่าครั้งนี้ฉันต้องการความเป็นส่วนตัว
ครับ ผมรู้นายน้อยบอกผมเรื่องนี้ตั้งแต่ขึ้นเครื่อง ต้าฟงยังทำมึนไม่เข้าใจผมกำชับลูกน้องเรียบร้อย รับรองว่าทุกคนจะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดถ้าใครขัดคำสั่งผมจะเล่นให้หนัก
งั้นก็เล่นงานตัวนายด้วย!เพราะนายยังเดินตามหลังฉัน!
ผมต้องไปส่งนายน้อยที่บ้านริมน้ำดูว่าทุกอย่างเรียบร้อย แล้วพวกผมจะหายตัวไปถ้านายน้อยไม่เรียกจะไม่เข้าใกล้เด็ดขาด พอใจมั้ยครับ
สีหน้าและแววตาที่มองมาบ่งบอกว่าไม่ได้พอใจสักนิด
ขอร้องนะครับ อาจารย์เทียนสั่งมาผมไม่ทำตามไม่ได้ ต้าฟงรู้ว่าถ้ายกชื่อของเทียนคงมาอ้าง ผู้เป็นนายจะอ่อนลงแล้วคราวนี้ก็จริง นายน้อยยอมเดินตามเขาไปที่รถอย่างเสียไม่ได้
อ้อ...เอรอนส่งข้อมูลอัพเดทเรื่องคุณหนูหยางมาแล้วนะครับช่วงนี้เธออยู่ที่เมืองไทย ตอนนี้เธอรู้แล้วว่านายน้อยอยู่ที่เมืองไทย
รู้ได้ยังไง?
นายใหญ่คงบอกเจ้าสัวหยางน่ะครับ แล้วเจ้าสัวหยางคงอยากได้นายน้อยเป็นเขยไวๆเลยจัดการเป็นพ่อสื่อให้ นัดเดทคุณหนูหยางให้นายน้อยในอีกสามวันข้างหน้า
ห๊า...
นายน้อยต้องไปเป็นคู่ควงคุณหนูหยางในงานแต่งงานลูกค้าคนสำคัญของเจ้าสัวหยาง
ทำไมฉันต้องไป
นายใหญ่สั่งมาครับนี่การ์ดเชิญ... การ์ดสีแดงถูกยื่นออกมา โดยที่คนจะรับยังคงตั้งตัวไม่ทันอย่าปฏิเสธเลยครับ นี่เป็นโอกาส ทำให้นายใหญ่อารมณ์ดีไว้จะเป็นประโยชน์กับนายน้อยนะครับนึกถึงคุณหนูเบลล์ไว้ให้มากๆ...ไม่รับผมเก็บการ์ดเชิญไว้ให้ละกัน แต่เรื่องโทร.ไปคอนเฟิร์มกับคุณหนูหยางนายน้อยต้องทำเองนะครับเบอร์โทร.ผมจัดการให้เรียบร้อยแล้ว...โอเคนะครับ?
การนิ่งคือการตอบรับที่ต้าฟงเคยชินเขาทำเพียงยกไหล่เบาๆ แล้วก็เป็นฝ่ายเปลี่ยนเรื่องคุย
ส่วนเรื่องนักการเมืองที่ช่วยพี่น้องซินเยียร์ได้ข้อมูลเบื้องต้นมาว่านายวิชัย อินธรณ์ เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้ ภาพลักษณ์เป็นนักการเมืองมือสะอาดตอนนี้ทางนั้นยังไม่เคลื่อนไหวหรือประกาศตัวจะเป็นศัตรูกับเรานอกจากตามสืบเรื่องของมิราเคิลฯ เหมือนพยายามจะเจาะหาวิธีเล่นงานพวกเราอยู่
พวกนั้นจะไม่ได้อะไรนอกจากทำเรื่องขวางหูขวางตานิค พาตัวเองและครอบครัวไปหาที่ตายโดยไม่รู้ตัวฉันต้องหยุดพวกเขา
ต้าฟงพยักหน้าเห็นดีด้วยตอนนี้ผมสั่งให้คนของเราสืบเรื่องคนรอบตัวของรัฐมนตรีวิชัย ตัวท่านดูมือสะอาดแต่หลังบ้านท่านมีกลิ่นตุๆ โชยมาเหมือนกันครับ ถ้าได้อะไรคืบหน้าผมจะรีบรายงาน
เควินพยักหน้าแล้วซินเยียร์สองพี่น้องนั่นล่ะ ตอนนี้เป็นไงบ้าง ใช้ชีวิตอยู่ที่ไหน
อยู่ที่บ้านรัฐมนตรีวิชัยนั่นแหล่ะครับคนพี่ปรับปรุงตัวดีขึ้นเข้าไปช่วยงานเป็นทีมงานติดตามรัฐมนตรีส่วนคนน้องก็เข้าเรียนต่อได้ตามปกติแล้วครับ หลังจากพักไปสองปี
สองปี...งั้นคงเรียนรุ่นเดียวกับน้องเบลล์เควินจำรายละเอียดของครอบครัวนี้ได้แม่นไม่เปลี่ยนหวังว่าคงไม่มีเหตุบังเอิญมาเซอร์ไพร์สพวกเราหรอกนะ
โลกคงไม่กลมอย่างนั้นหรอกครับแล้วเด็กคนนั้นไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับคุณหนูเบลล์
นั่นสินะ... ต่อให้พูดอย่างนั้นแต่ความกังวลก็สะท้อนผ่านสีหน้า
ผมว่านายน้อยยังไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอกครับที่นายน้อยต้องคิดให้มากตอนนี้คือเรื่องของคุณหนูหยางมากกว่าต่อให้เจ้าสัวหยางจะช่วย ก็ยังวางใจไม่ได้ ผมดูข้อมูลที่เอเจย์ส่งมาให้อย่างละเอียดแล้ว การเอาชนะใจเธอคงไม่ง่ายเธอไม่เคยมีข่าวว่าคบกับผู้ชายคนไหน ทั้งที่มีคนมากมายหมายปอง ไม่แม้แต่จะมีข่าวออกเดทกับใครที่ไหนว่ากันว่าเธอเป็นผู้หญิงหัวโบราณ ค่อนข้างหวงเนื้อหวงตัว ห่วงความเป็นส่วนตัวด้วย
เท่าที่ฉันเจอ ก็ดูเธอปกติดีนี่เควินเคยเจอเหมยฮัวบ้างสองสามครั้งตามงาน ทักทายกันตามมารยาทเธอเป็นผู้หญิงที่สวยสง่า มาดแบบนางพญา ตามงานต่างๆ เธอจะตกเป็นเป้าสายตาของแขกนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอจะเป็นชาคริตเสียมากกว่าที่เข้าไปพูดคุยจนสนิทสนมล่าสุดถึงขั้นชวนมาเป็นแขกในงานวันเกิดพัชรินทร์ ท่าทางสนิทสนมนั่นทำให้เขาคิดว่าพี่ชายบุญธรรมกำลังพูดคุยคบหากับเหมยฮัว
ฉันดูไม่ผิด ชาคริตรู้สึกดีๆกับเหมยฮัว กำลังพยายามสานสัมพันธ์ เควินมั่นใจสิ่งที่ตัวเองเห็นแต่ปฏิเสธเพราะนั่นคือสิ่งที่นิคอยากได้ยิน
นายน้อยน่าจะชินได้แล้วนะครับก็รู้อยู่ว่าคุณชาคริตพร้อมจะทำทุกอย่างให้นายใหญ่พอใจแถมยังออกตัวว่าจะช่วยเป็นพ่อสื่อให้นายน้อยด้วยนี่ครับ คราวนี้ก็อยู่ที่นายน้อยแล้วล่ะว่าจะเอายังไงหรือต้องรอให้คุณหนูเบลล์อนุญาตก่อน
คนถูกถามหันมองควับกลับมามองเพราะถูกจี้ใจดำแล้วนั่นทำให้เขาเห็น คู่รักทอมดี้กำลังโผเข้ากอดกันกลมก่อนจะผละออกแล้วจุ๊บปากกันโดยไม่สนใจสายตาชาวบ้านสาวดี้หุ่นนางแบบแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดดูแพงด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมในขณะที่สาวมาดทอมแต่งตัวสไตล์ผู้ชายสำอาง แต่ดูเอวบางร่างน้อย ตัดผมซอยสั้นท่าทางกระฉับกระเฉงคล่องแคล้วจากภาพที่เห็นประเมินได้ว่าสาวทอมคงมารับคู่รักดี้ที่เพิ่งลงเครื่องมา
เหมยฮัว? นั่นคือสิ่งที่เควินหลุดปากเมื่อเห็นหน้าสาวทอม
ครับ? ต้าฟงหันมาถาม แต่ไม่ได้รับคำตอบจึงหันมองตามสายตาผู้เป็นนายตรงจุดนั้นมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก บ้างโผกอดกัน บ้างเดินไปมาเขาไม่แน่ใจผู้เป็นนายกำลังมองดูอะไร เมื่อกี้นายว่าอะไรนะครับผมได้ยินนายเรียกชื่อคุณหนูหยาง?
นายว่านั่นใช่เหมยฮัวมั้ยต้าฟงหันมองตาม ผู้หญิงสองคนที่ยืนกอดกันอยู่นั่นน่ะ
คุณหนูหยาง? ไม่ใช่มั้งครับนาย เธอไม่ได้ดูเปรี้ยวขนาดนั้น
ฉันไม่ได้หมายถึงผู้หญิงชุดแดง...อีกคนน่ะ
ทอม? ต้าฟงหันมาถามย้ำ เมื่อผู้เป็นนายพยักหน้า เป็นไปไม่ได้!? แล้วไกลขนาดนี้นายแน่ใจได้ยังไงครับ
ฉันเห็นตั้งแต่เธอเดินผ่านหน้าไปเมื่อกี้
งั้นนายรอตรงนี้สักครู่นะครับเพื่อความแน่ใจต้าฟงจะเข้าไปดูให้แน่ใจซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่คู่ทอมดี้ก็เดินออกจากจุดนั้น ไปที่ทางออก
ขอโทษครับ ขอทางหน่อยครับความที่รีบจะตามให้ทัน ทำให้ไปชนผู้หญิงคนหนึ่งจนข้าวของที่เธอถือมาตกพื้นขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ...
กว่าจะช่วยเก็บของขึ้นมาได้เงยหน้ามาอีกทีก็ไม่เห็นหลังคู่รักทอมดี้นั่นแล้ว
เควินเองก็มองไม่ทัน นึกเสียดายคลาดกันจนได้ หรืออาจจะแค่คนหน้าเหมือน
แต่นายเป็นคนที่ค่อนข้างจำหน้าคนได้แม่นนะครับต้าฟงมั่นใจเรื่องนี้
คนทอมนั่นไม่ได้แต่งหน้าฉันเองก็ไม่เคยเห็นเหมยฮัวตอนไร้เครื่องสำอาง แต่ดูคล้ายมาก
เป็นไปได้มั้ยครับว่าอาจจะเป็นญาติคุณหนูหยางมีแม่เป็นคนไทยด้วย
ก็เป็นไปได้หรือไม่อาจจะไม่เกี่ยวอะไรกันเลย ฉันอาจจะคิดเรื่องเหมยฮัวมากเกินไปเห็นใครหน้าคล้ายหน่อยก็คิดว่าเป็นเธอ
แต่มันแย่ก็ตรงดันไปเห็นทอมเป็นคุณหนูหยางนี่สิผมว่ามันเหมือนลางร้ายยังไงไม่รู้...
เควินนิ่วหน้าคิดไม่ต่างกับต้าฟงแต่ก็รู้ว่าป่วยการที่จะไปคิดถึงเรื่องนี้เพราะเขามีเรื่องอื่นให้ต้องคิดให้ต้องกังวลมากกว่ายิ่งเมื่อรถเคลื่อนออกไปจากสนามบิน มุ่งหน้าสู่บ้านริมน้ำใจเขาก็จดจ่ออยู่แต่กับเรื่องของ ชลิตา ครั้นจะโทรศัพท์ไปหาพิมพ์พรก็เช้าเกินไปได้แต่บอกตัวเองให้ใจเย็น...
ใกล้มากแล้วค่ะ นายน้อยมาแล้วนะ
คุณglodensun:
พอดีรีไรท์เก็บรายละเอียด เก็บช่วงเวลาใหม่ค่ะ เลยหยุดไป ^^