เที่ยวไทเป 1: เข้าเมือง ซื้อซิม Maji Square
สนามบินเถาหยวน ได้อารมณ์ดอนเมืองเนอะ ซื้อซิมมือถือ ออกจากเกตมา ให้มองหาป้ายที่มีคำว่า Telecommunications
อะไรสักอย่าง จำได้ว่าออกมาแล้วเลี้ยวซ้าย แล้วก็ซ้ายอีกที จะเห็นแผงบริษัทมือถือเรียงกันเป็นตับ พร้อมกับนักท่องเที่ยวจำนวนพอสมควร ต่อคิวกันซื้อ
ซิมแบบ Pre-paid ที่ไต้หวันถูกมาก คือ unlimited internet นี่ตกวันละแค่ราว 100 บาท! เขาจะมีแพ็คเกจ 3-5-7-10 วันอะไรว่าไป เราก็เลือกเอาตามระยะเวลาที่ไป ระหว่างต่อแถวพนักงานจะมาขอพาสปอร์ตไปซีรอกซ์ พอไปถึงหน้าเคาน์เตอร์ พนักงานก็จะปฎิบัติหน้าที่อย่างว่องไว ไถเอกสารมาให้เซ็น ขอมือถือเราไปเปลี่ยนซิมให้ ไม่พอยังเอาซิมเก่าเราแปะไว้บนซองซิมใหม่อย่างว่องไวราวลิงกัง สุดจ้อด!!! สรุปว่าต่อแถว 5-10 นาที อยู่หน้าเคาน์เตอร์ราว 5 นาที ไม่เกินนี้ก็เสร็จเรียบร้อย ของเราเลือก unlimited data 3 วัน ราคา 300NT พนักงานแกะซิมเดิมเอามาแปะบนกล่องซิมใหม่ให้อย่างไวว่อง (ซิมขาวๆ เลข 3 นั่นไง) แพ็คเกจดูง่ายดายมาก มีให้ไม่กี่อัน เราก็เลือกตามจำนวนวันที่อยู่ สังเกตว่ายิ่งอยู่นานยิ่งถูก ตั๋วรถบัสเข้าเมืองไป Taipei Main Station ก็ให้ดูป้ายอีกเช่นเคย เดินไม่ไกลจากตรงที่ซื้อซิมมือถือ ตรงดิ่งสู่เคาน์เตอร์หมายเลข 4 ซื้อตั๋วรถสาย 1961 จากนั้นเดินออกจากตัวอาคารไปยืนรอที่ป้ายตามสายรถได้เลย สิริรวมตั้งแต่ก้าวเท้าออกจากเครื่อง + รับกระเป๋าที่เบลต์ + ซื้อซิม + ซื้อตั๋ว จนถึงตอนนั่งรถบัน ใช้เวลาไปทั้งหมดไม่ถึง 50 นาที
สุดยอดมาก รถบัสใช้เวลาราว 1.15 ชม. ก็ถึงสถานี Taipei Main Station ก่อนหน้านี้เคยสงสัยว่าทำไมเราไม่นั่ง express train จากสนามบินไปสถานี Taipei main station ล่ะ คุณบูก็ให้คำตอบง่ายๆ ว่า มันเหมือน airport express ไทยอ่ะ เป็นคำตอบที่ทำให้เก็ตสะเด๊ะ ณ จุดนั้น ไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมเลยจริงๆ ตรงเคาน์เตอร์ขายตั๋ว จะมีเวลารถคันถัดไปให้ดู ซึ่งมีบ่อยมาก แล้วเราก็เดินไปต่อแถว จังหวะนี้พนักงานจะเข้ามาแปะสติกเกอร์ให้กระเป๋าเดินทางของเรา แล้วยื่นหางตั๋วให้ถือไว้ เอาไว้เป็นหลักฐานตอนรับกระเป๋าที่ปลายทาง ซื้อตั๋ว Easy Card เป็นตั๋วที่ควรค่าแก่การซื้อเก็บไว้คนละใบ จะคืนตอนกลับก็ได้รับเงินที่เหลือในบัตรคืน (ยกเว้นค่ามัดจำหลักสิบบาท) ตั๋วนี้ใช้ขึ้นรถไฟใต้ดิน รถเมล์ รถเมล์เล็ก และจ่ายของตาม 7-eleven ได้ด้วย นอกจากในไทเปแล้ว ยังเอาไปใช้เมืองอื่นได้เช่นกัน (คุยกับคนที่อยู่ Taichung เค้าบอกว่าได้) การจะซื้อ Easy Card ต้องซื้อที่ตู้จำหน่ายเท่านั้น ตรงเคาน์เตอร์เขาไม่ขาย (แต่ดันรับเติมเงิน?? มันอัลไลT^T) แต่มันก็ไม่ได้ซื้อยากเย็นอะไรนะ instruction การซื้อตั๋วชัดเจน เพียงแค่เราขี้เกียจวุ่นวายเรื่องเงินทอน ระหว่างคุณบูกดซื้อตั๋ว เราก็ไปสแตมป์เล่นตรงใกล้ๆ เคาน์เตอร์ มาไทเปมันสนุกตรงได้อารมณ์ญี่ปุ่น และมีสแตมป์วางตรงนั้นตรงนี้ให้เราไปหยิบมาแปะสมุดฟรีๆ นี่แหละ มาแล้ว Easy Card เฮา พร้อมเติมเงินเพิ่มเฮียบฮ้อย แฮ่
หนุกๆๆ Farmers Market Yuanshan Station exit 1 จริงๆ แล้วจุดหมายแรกของเราคือ Maji Square ซึ่งตั้งใจจะไปกินเบเกิลร้าน Good Cho และเดินดูของน่ารักงุ้งงิ้งในนั้น ซึ่งเขาว่ากันว่า วันอาทิตย์จะเป็นวันที่ร้านรวงเปิดแยะที่สุด แต่ๆๆๆ เราโชคดีมากกกกก ที่ไปตรงวันเค้าจัดงานฟาร์มเมอร์ส มาร์เก็ต ตรงลานหน้า Taipei Expo Park พอดี (Maji Square อยู่หลัง Taipei Expo Park) งานแบบนี้ไม่ว่าจะจัดที่ไหนในโลกก็สนุกเนาะ! และไต้หวันเอง ก็เป็นประเทศที่เน้นเกษตรกรรมเป็นรอง จากการเป็นแหล่งผลิตไอซี และชิพต่างๆ ที่ซุกซ่อนอยู่ในมือถือของพวกเราทุกคนนั่นแล ดังนั้นเขาจึงมีผลิตผลพวกผักผลไม้ในประเทศแยะ ไม่พอยังส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะ ชา ที่ขึ้นชื่อมากๆ ดังนั้นในฟาร์มเมอร์สมาร์เก็ตนี้ เลยมีชาให้เลือกหลากแบบ หลายสไตล์สุดๆ จะว่าไปงานก็คล้าย OTOP ที่อิมแพ็คบ้านเรานะ (แต่ขนาดเล็กกว่า) คือมีผักหญ้า ผลไม้สดจำหน่าย ปะปนกับอาหารปรุงสุก เช่น Taipei Sausage, ข้าวโพดต้ม มันต้ม น้ำอ้อยสด ผลไม้ปอกสำเร็จ ฯลฯ คือถ้าหิวๆ แวะมาที่นี่รับรองอิ่มได้สบายๆ ไม่พอมุมนึงยังมีเวทีสร้างความบันเทิง มีคุณลุงมาเป่าแซกเป็นเพลงธีมโดเรมอน มีการประกวด ฯลฯ สรุปความได้คร่าวๆ ว่า
พวกเราสนุกกับไทเปตั้งแต่ stop แรกที่มาเลยก็ว่าได้ เราพยายามซื้อทุกสิ่งที่กินได้ โดยไม่ต้องหอบหิ้วอะไรมากมาย เพราะวันนี้ยังอีกยาว (สงสารไหล่ + กลัวเน่า) สิ่งที่กินเข้าไปคือ ลูกชิ้น, Taipei sausage, น้ำอ้อย สาลี่ฉ่ำหวาน ข้าวโพดต้ม มะเขือเทศ และลูกชิ้น จริงๆแล้ววิญญาณแม่บ้านอินเนอร์สั่งให้ซื้อ มะเขือเทศเชอร์รี่ ไปสัก 2 กล่อง เพราะ หวานอร่อยมาก!! ที่ฮ่องกงขายกล่องเล็กๆ = 200 บาท! มาที่นี่ขายกันหลักสิบบาท ได้กล่องบะเลิ่มเทิ่ม! และรู้สึกช่วงนี้จะเป็นหน้ามันด้วย เพราะคนขายกันแยะเลย แต่บูบอกเรายังไม่กลับบ้านนะลูก อดใจไว้ ฮืออออ T^T ทางเข้า Farmers Market อันนี้ถ่ายจากบนสถานีรถไฟฟ้า (ยืดคอเป็นยีราฟเลย) ที่ขาดไม่ได้แน่ๆ ก็คือชาสารพัดชนิดและรูปแบบ แผงนี้ชอบมะเขือเทศเค้าอ่ะ ตูดมันแหลมๆ เหมือนโมโมทาโร่ กระจาดนึง 50 บาท! แต่เราคงกินไม่หมดอ่ะ เลยขอซื้อครึ่งเดียว
แม่ค้านิ่งไปแป๊บนึงก่อนหยิบออกมาให้ฟรี 2 ลูก
น้ำตาจะไหล ทำไมเค้าใจดีกันจัง ปล.แต่มะเขือแบบนี้ไม่ค่อยอร่อย คือเน้นเนื้อมากกว่ารส ต้องมะเขือเทศเชอร์รี่แบบมีขั้วติดนะ
อรอ่ยมากกกกกกกกกกกกกกกกก ทัดเทียมมะเขืออิตาลีเลยขอบอก อะไรที่อาศัยความสะดวกและง่าย กลายเป็นภาพที่น่ามองและดูเท่โดยไม่ต้องพยายาม ลุงกับป้าเมาท์อะไรกันไม่รู้ เรื่องข้าวโพดนี่แหละ ข้าวโพดสดๆ ต้ม หวานฉ่ำ จัดไป 1 ฝัก (10 NT) แผงนี้อยากกินแอปเปิลมาก! ลูกมันเล็กดูท่ารสจะจัดอร่อย แต่ถุงนึงแยะแบกไม่ไหว T^T เลยซื้อสาลี่หวานฉ่ำแบบปอกแล้วมากล่องนึง เดินไปกินไป (60NT) น้ำอ้อยหวานอร่อย ชื่นใจมากกกก ถ้าไม่กลัวปวดฉี่กลางทาง จะเบิ้ลอีกสักแก้ว (50NT) อ่านต่อจนจบได้ที่ www.adaytripdiary.com : )
Create Date : 29 มีนาคม 2558 |
Last Update : 29 มีนาคม 2558 14:45:33 น. |
|
3 comments
|
Counter : 4207 Pageviews. |
|
|