เขื่อนสิริกิติ์ : น้ำเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในชีวิตเรามากที่สุด เพราะร่างกายมนุษย์เรานั้นประกอบด้วยน้ำมากกว่า 60 เปอร์เซนต์ ในโลกใบนี้ของเราก็เช่นกันมีน้ำเป็นองค์ประกอบมากกว่า 3 ใน 4 ของโลกแต่ส่วนใหญ่เราไม่สามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ได้ เมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการต่าง ๆ ขึ้นมากมาย ก็สามารถสร้างสิ่งที่จะเก็บกักน้ำไว้แล้วนำมาใช้ประโยชน์ในด้านต่าง ๆ เพื่อสนองความจำเป็นในการดำเนินชีวิต นั่นคือเกิดเป็น “เขื่อน” นั่นเอง
| |
| น้ำให้ชีวิต....."เขื่อนสิริกิติ์" ให้ความหวังเกษตรกรไทย |
| |
| ...............บรรยากาศอันสุขสงบ............... |
วัตถุประสงค์ของการสร้างเขื่อนต่าง ๆ นั้น ก็แตกต่างกันไป บางแห่งสร้างเพื่อการเกษตร บ้างเป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า ฯลฯ แต่บางครั้งเขื่อนเดียวก็สร้างประโยชน์มากกว่าหนึ่งอย่าง สำหรับเขื่อนที่ทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.thongteaw.com) ของเราจะพาทุกท่านไปรู้จักนั้น เป็นเขื่อนที่มีคุณูปการมากมายหลายด้านเลยทีเดียวนั่นคือ “เขื่อนสิริกิติ์”
| |
| ....................วิถีชาวบ้านในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์.................... |
เขื่อนสิริกิติ์ เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ เปรียบเทียบจากความสามารถในการเก็บกักน้ำไว้ได้นั้น เขื่อนสิริกิติ์ใหญ่เป็นอันดับสามรองจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนศรีนครินทร์ ประโยชน์จากเขื่อนสิริกิติ์นั้นมีมากมายหลายอย่างทั้งเป็นเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้า ช่วยระบบชลประทาน เกษตรกรรม ป้องกันน้ำท่วม บริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนยังเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่สำคัญ นอกจากประโยชน์ทางด้านต่าง ๆ ที่กล่าวไปแล้ว เขื่อนสิริกิติ์ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่เงียบสงบและมีบรรยากาศที่สวยงามอีกด้วย เชิญทุกท่านติดตามทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเราเข้าเยี่ยมชมเขื่อนสิริกิติ์กันเลยคะ
| |
| ใครชอบออกรอบก็หอบถุงกอล์ฟมาเลย ! |
เขื่อนสิริกิติ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจภายในเขื่อนและเป็นจุดเด่นของเขื่อนสิริกิติ์เลยก็คงหนีไม่พ้น ทัศนียภาพอันงดงามของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนในเวลาพระอาทิตย์ส่องแสงสว่างกระทบผิวน้ำสะท้อนเป็นประกายสวยในเหมือนอัญมณีเปล่งรัศมีความงาม (แม้อากาศจะร้อนไปหน่อย)
| |
| ...............สะพานแขวนข้ามลำน้ำใหญ่............... |
| |
| "สวนสุมาลัย" อันสวยงาม กับ "ประติมากรรมแสงสว่าง" ซึ่งตั้งอยู่กลางสวน |
ระหว่างที่กำลังรอช่วงเย็นมาถึง ทุกท่านสามารถฝากกระเพาะอาหารกับร้านจำหน่ายอาหารตามสั่งที่เรียงรายกันอยู่บริเวณสันเขื่อน มีทั้งข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาน้ำจืดสด ๆ นำมาปรุงในแบบที่ชอบรับประทานกันอย่างอิ่มหนำสำราญ (แต่ต้องจ่ายตังค์นะคะ) หรือเดินลงบันไดบริเวณสันเขื่อน จะเห็นเรือนำเที่ยวที่จะพาทุกท่านไปเที่ยวชมบรรยากาศอ่างเก็บน้ำ หรือจะเดินไปตามทางเดินท้ายร้านอาหารเป็นจนสุดถนนที่ปลายน้ำ บริเวณนี้จะมีเรือของชาวประมงมาจอดรับส่งของ และมีนักท่องเที่ยวมาตกปลา เมื่อความร้อนแรงค่อย ๆ ลดลง ยามเย็นที่รอคอยก็มาถึงพระอาทิตย์กลมโตแสงเย็นตาเคลื่อนต่ำลับเหลี่ยมภูเขาเหลือแต่เพียงแสงสีทองส่องประกายที่ค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด
| |
| ยามตะวันลาลับดับแสงลง.....เธอก็คงเริ่มง่วงจนหน้าบูด (ไม่ง่วง..ก็..หิว เป็นกิจวัตร !?) |
นอกจากบรรยากาศสวยงามในช่วงเวลาต่าง ๆ กันของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนแล้ว ยังมีจุดชมวิวจากที่สูงบนภูเขาบริเวณหน้าเขื่อนเป็นที่ประดิษฐาน "พระพุทธสิริสัตตราช" หรือ "หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์" (องค์จำลอง) ชาวบ้านเชื่อกันว่าหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์มีพุทธานุภาพช่วยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ยังความชุ่มชื่นให้แก่พื้นแผ่นดิน จึงได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาเพื่อถวายในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 72 พรรษา
| |
| ....................ตกปลากลางแสงสนธยา หาเลี้ยงปากท้อง.................... |
เช้าวันถัดมาทีมงานท่องเที่ยวดอทคอมของเรายังอยู่ภายในเขื่อนสิริกิติ์ แวะชมความงามของ "สวนสุมาลัย" และ "ประติมากรรมแสงสว่าง"ที่ทางการไฟฟ้าฯ สร้างขึ้นในศุภมงคลสมัยที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์มีพระชนมายุครบ 5 รอบ ในบริเวณของสวนสุมาลัยนั้นเต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิด สีสันสดใส จัดในรูปแบบสวนสวย และสะพานแขวนที่เชื่อมระหว่างสองฝั่งเข้าไว้ด้วยกัน
| |
คิดจะท่องเที่ยว จ.อุตรดิตถ์.....คิดถึง "เขื่อนสิริิกิติ์" เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในดวงใจ |
| |
| ....................เย็นย่ำค่ำลงตรงสันเขื่อน.................... |
ประติมากรรมแสงสว่างเป็นรูปดอกบัวพ้นน้ำเปรียบดังพระสติปัญญานำพาศิลปาชีพไทยสู่ความเจริญประจักษ์สู่สายตาของคนทั้งโลก (ขอบคุณข้อมูลความหมายจากป้ายของการไฟฟ้า ฯ บริเวณหน้าประติมากรรม) ก่อนที่ทางทีมงานของเราจะเดินทางต่อเลยขับรถแวะไปชมสนามกอล์ฟของเขื่อนและจึงออกเดินทางมุ่งสู่จุดหมายถัดไป
| |
| รอพ่อตกปลา.....จนกว่าจะสิ้นแสงทอง |
การเดินทาง : ตั้งอยู่ที่บ้านผาซ่อม ต.ผาเลือด อ.ท่าปลา จากตัวเมืองอุตรดิตถ์ ไปตามทางหลวงหมายเลข 1045 (เขื่อนสิริกิติ์-ท่าปลา) ถึงเขื่อนสิริกิติ์ ระยะทาง 58 กม. หรือนั่งรถโดยสารจากกรุงเทพฯ ไปลงที่อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ และต่อรถโดยสารสายอุตรดิตถ์-ฟากท่า-บ้านโคก รถจะจอดที่หอนาฬิกา ถ.สำราญรื่น หรือจะเหมารถแท็กซี่จากสถานีรถไฟอุตรดิตถ์ก็ได้
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
The LC-60LE640U is part of our high-definition AQUOS® LED TV line. This 60" Class model features our 1080p edge lit LED panel, delivering natural, vibrant picture quality. And with built-in Wi-Fi and our SmartCentral user interface, you’ll have access to today’s most popular apps and movies on demand.