จงให้ความสำคัญต่อสิ่งที่ถูกต้อง มากกว่าสิ่งที่ถูกใจ
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
16 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
ถุงมือประหลาด ตอนที่ ๑๙

นวนิยายสืบสวน สอบสวน ของนักสืบพราน เล่มที่ ๒ โดย ๔๔๑๑
เรื่องที่ ๕
เรื่อง ถุงมือประหลาด

ตอนที่ ๑๙

พ.ต.อ. พจน์ พิทักษ์พล กำลังเดินกลับไปกลับมาในห้องทำงาน สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล ขณะที่ พราน เกรียง และ กัลยา เปิดบังตาผ่านเข้าไป สารวัตรพจน์ มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้นเมื่อหันกลับมามองเห็นหน้า พราน และคณะ เขาก้าวเท้าเข้ามาหา และเชิญนั่งที่เก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน และพูดว่า
“ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ผมเสียใจจริงๆ พราน ”

พราน นั่งลงตามคำเชิญ พูดขึ้นว่า
“ ป่วยการที่จะไปนึกถึงเรื่องความผิดพลาด ผมคิดว่า เรามาพิจารณาว่า จะทำอย่างไรต่อไปดีกว่า เวลานี้ ลัดดา อยู่ที่ไหนครับ ”

“ อยู่ในที่ๆ ปลอดภัย ”

“ วางใจได้ ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะ
“ คราวนี้ ผมกำชับเป็นมั่นเป็นเหมาะ ถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก ไม่ใครก็ใครคงจะติดตะรางกันบ้าง ” เขาพูดอย่างหัวเสีย
“ คุณวิธีแก้ไขอย่างไรบ้าง พราน ”

พราน นั่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า
“ มันต้องแล้วแต่ว่า คุณผจญ จะได้ใครมาบ้าง ”

สารวัตรพจน์ ส่ายศีรษะ
“ ถึงได้มา ผมก็ยังมองไม่เห็นว่า เราจะทำอะไรกับเขาได้ จะเอาหลักฐานอะไรไปยืนยัน ”

“ ยังไม่หมดหนทาง เพราะผมได้คิดอะไรไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ถ้าเผื่อเกิดอะไรขึ้น ”

สารวัตรพจน์ ยืนนิ่งกลางห้อง หันมามองดู พราน เขม็ง
“ ก็บอกมาซี... คุณยังรออะไรอยู่ ”

พราน พูดด้วยเสียงเรียบๆ
“ ผมรอ คุณผจญ ”

มีเสียงเคาะที่บังตา นายสิบตำรวจนอกเครื่องแบบคนหนึ่ง เปิดบังตาเข้ามา
สารวัตรพจน์ หันขวับไปพูดว่า
“ มีอะไรบ้าง เกลี้ยง ? ”

“ ผมได้มาคนหนึ่ง เขามาเคาะประตูเรียก ลัดดา ผมเลยเอาตัวมาตามคำสั่ง ”

“ ลื้อมาด้วยกันทั้งคู่เรอะ ”

“ เปล่าครับ ผมมาคนเดียวกับคนที่จับมาได้ หมู่กรีสน์ ยังอยู่ที่บ้านครับ ”

“ ดีมาก อั๊วนึกว่า พวกลื้อจะโง่กันไปเสียหมด ” เสียง สารวัตรพจน์ ยังไม่คลายความหัวเสีย
“ เขาชื่ออะไร ”

“ นายชิต ครับ ”

สารวัตรพจน์ หันมาทาง พราน คล้ายกับจะตั้งคำถาม

พราน สั่นศีรษะ

“ เอาตัวเข้ามา ”
สารวัตรพจน์ หันไปสั่ง

ตำรวจผู้นั้นกลับออกไปสักครู่ ก็นำตัวชายคนหนึ่งเข้ามา ชายผู้นี้ รูปร่างผอมสูง อายุประมาณสามสิบ แววตาบอกชัดว่า เป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ

พราน พิจารณารูปร่าง และเครื่องแต่งกายที่ค่อนข้างจะเรียบร้อยของเขาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเฉยอยู่

สารวัตรพจน์ พูดขึ้นว่า
“ คุณชื่อ ชิต รึ ”

“ ครับ ”
ชายผู้นั้นประสานมือไว้ตรงหน้าขา แล้วก้มตัวตอบอย่างนอบน้อม

“ คุณไปที่บ้านนั้นทำไม ”

“ ผมไปหา ลัดดา เขาครับ ” ชิต ตอบด้วยท่าทางเดิม

“ ใครใช้ให้ไป ”

“ เปล่าครับ... ผมจะไปรับเขาไปเที่ยว ”

“ รับเขาไปเที่ยว ” สารวัตรพจน์ ทวนคำยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“ เวลานี่น่ะหรือ... รู้ไหมว่า เวลาเท่าไร ”

“ ไม่ทราบครับ ผมไม่มีนาฬิกา ”

“ไม่ทราบ... เพิ่งจะสามทุ่มเท่านั้น รับไปเที่ยวอะไรกัน ทำไมไม่ไปรับเขาที่ ลิโด้ ”

“ ผมคิดว่า เขายังไม่ไปทำงานครับ ”

“ บ้านคุณ อยู่ที่ไหน ”

“ ถนนเพชรบุรี ครับ ”

“ อาชีพอะไร ”

“ ค้าขาย ”

“ ขายอะไร ”

“ มี... ” ชิต ทำท่านึก “ เป็นนายหน้าบ้าง ติดต่อวิ่งเต้นขายของ ซื้อของ ให้กับห้างต่างๆ บ้าง ครับ ”

สารวัตรพจน์ หันมาทาง พราน ถามว่า
“ คุณจะว่าอย่างไร ”

พราน กำลังสูบบุหรี่ พ่นควัน คล้ายกับไม่ได้สนใจต่อคำพูดโต้ตอบระหว่าง สารวัตรพจน์ กับ ชิต เขาหันมาพูดว่า
“ ปล่อยเขาไปเถอะครับ ”

“ปล่อย ? ”

“ ครับ... ปล่อย ” พราน พูดหน้าตาเฉย

สารวัตรพจน์ ขยับจะพูดอะไรออกมา แต่แล้วชะงักไว้ เขามองดู พราน ซึ่งสบตาเขานิ่งอยู่ จึงหันไปทางตำรวจผู้คุมตัวเข้ามา พูดว่า
“ ปล่อยไป ”

ชิต ยกมือไหว้ สารวัตรพจน์ แล้วหันมาไหว้ พราน ก่อนที่จะตำรวจออกไปนอกห้อง

“ ผมนี่ จะบ้าหรือยังไง... คิดอะไรไม่ใคร่ออก ... ไม่เป็นตัวของตัวเองเสียเลย วันนี้ ”

พราน หัวเราะเบาๆ
“ ผมเพิ่งเคยเห็น สารวัตร หัวเสียวันนี้เอง ระวังนะครับ ความหัวเสียทำให้ความคิดขาดหายไปด้วย ผมว่า ขณะนี้ ท่านสารวัตร เป็นตัวของตัวเองเต็มที่อยู่แล้ว เห็นไหมครับ เพียงแค่นี้ ยังทำให้เราเข้าใจตัวเราผิดไปได้ ”

สารวัตรพจน์ ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น พูดเสียงเรื่อยๆ ว่า
“ ทำไม ”

“ ก็ ท่านสารวัตร กำลังต้องการคนช่วยคิดอยู่ ลืมเสียแล้วหรือครับ ท่านสารวัตร กำลังทำตัวเป็นคนให้ผมคอยช่วยให้ความคิด ผมบอกให้ปล่อย ท่านสารวัตรก็สั่งปล่อย ก็ถูกแล้ว ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะก๊าก
“ คุณก็ตลกเป็นเหมือนกัน ถ้ายังงั้น ผมสั่งถอนคนของผมที่บ้าน ลัดดา เสีย ไม่ดีกว่าหรือ ”

“ อีกชั่วโมงครึ่ง ถ้าไม่มีใครมาที่นั่น ก็ถอนได้ ”

“ นี่ พราน ” สารวัตรพจน์ ชะโงกตัวข้างหน้า
“ คุณจะบอกผมเสียทีเดียวได้หรือว่า คุณคิดอะไรของคุณไว้ ”

“ ผมบอกแล้วว่า ผมรอ คุณผจญ ”

สารวัตรพจน์ ทิ้งหลังลงพิงพนักเก้าอี้ตามเดิม มองดู พราน อย่างสงสัย แล้วสั่นศีรษะช้าๆ
“ ก็นั่งรอกันอยู่อย่างนี้ ไม่ต้องทำอะไร คุณรู้ไหมว่า ผมกำลังใจร้อนยังกับไฟอยู่ เวลานี้ ”

“ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำอะไรเวลานี้ ทำใจให้เย็นลงเสียก่อนก็ได้ ”
พราน พูด ขยี้บุหรี่ลงบนที่เขี่ยบุหรี่

“ เวลานี้ ถ้าเราทำอะไรไปผิดจังหวะ อาจเสียผลทั้งหมด การที่ท่านสารวัตร ปล่อยตัวนายชิตไปนั่น เป็นการสร้างจังหวะขึ้นแล้วล่ะครับ ”

“ ผมสงสัยว่า เขาต้องมาจากใครคนหนึ่ง ”

“ ผมก็สงสัยอย่างท่านสารวัตร ”

“ อ้าว... แล้วปล่อยเขาไปทำไม ”

“ จังหวะครับ... ท่านสารวัตร... จังหวะ... ต้องระวัง ”
พราน พูดยิ้มๆ
“ เวลานี้ ศพนายวิรัตน์ อยู่ที่ไหนครับ ”

สารวัตรพจน์ มองดู พราน อยู่ครู่หนึ่ง จึงพูดว่า
“ เก็บไว้ที่วัดดอน ”

“ ไม่มีญาติ ? ”

“ ไม่มีญาติ ”

“ พรุ่งนี้ ผมต้องขอแรงท่านสารวัตร ให้ช่วยนำใครคนหนึ่ง ซึ่งเป็นญาติ ไปดูสักหน่อย ”

“ จะมีประโยชน์อะไร ”

“ ท่านสารวัตรไม่มี แต่ผมมี ”
เขาหันไปทางกัลยา
“ กัลยา คุณจำหมายเลขโทรศัพท์ของคุณหญิงราชพิเชษฐ์ ได้ไหม ”

กัลยา เปิดกระเป๋าถือ หยิบสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆ ขึ้นมา พูดว่า
“ อยู่นี่ค่ะ... จะต่อไปไหมคะ ”

พราน พยักหน้า

สารวัตรพจน์ หัวเราะ ขณะที่ กัลยา กำลังหมุนเลขโทรศัพท์อยู่ พราน หรี่ตาให้ สารวัตรพจน์ ขณะที่รับหูโทรศัพท์จาก กัลยา แล้วพูดลงในโทรศัพท์ว่า
“ ฮัลโหล... คุณหญิงหรือครับ... นี่ ผม พราน พูด...มีธุระซิครับ ผมพบตัวนายรัตน์แล้วครับ... ต้องอยู่ให้คุณหญิงพบซิครับ ใจเย็นๆ ไว้ก่อนได้ครับ คุณหญิง แกไม่ไปไหนหรอกครับ ... ต้องอยู่ให้คุณหญิงพบซิครับ...อ๋อ... ก็ต้องหลังจากที่คุณหญิงจ่ายเงินค่าสืบสวนให้ผมครบเรียบร้อยแล้ว... ไม่ใช่ ไม่ไว้วางใจ แต่มันเป็นทำเนียบของสำนักงาน... สองหมื่น แพงไหมครับ... รวดเร็วทันใจ เห็นไหมครับ ผมว่าแล้วว่า... เขาจะอยู่ในที่ๆ ปลอดภันและสงบเงียบ ไม่มีใครรบกวนเขาแน่ๆ... ครับ พรุ่งนี้ ๙.๐๐ น. ตรง คุณหญิงไปพบผมที่สำนักงาน พร้อมด้วยเช็คสั่งจ่ายสองหมื่นบาท ผมจะจัดการให้คุณหญิงพบเขาทันที... ขอบคุณครับ... สวัสดีครับ ”

พราน วางหูโทรศัพท์ หันมาทาง กัลยา
“ พรุ่งนี้... คุณเอาเช็คเข้าบัญชี แล้วก็ให้ใครพาคุณหญิงมาพบท่านสารวัตรได้เลยทีเดียว ”

“ แล้วผมล่ะ ” สารวัตรพจน์ แบมือ

“ ท่านสารวัตร มีเงินเดือนกิน ผมไม่มี ก็ผมทำเรื่องนี้ให้เปล่าๆ แล้วยังไงครับ ”
พราน พูด ขณะหย่อนกายลงนั่ง

สารวัตรพจน์ หัวเราะชอบใจ
“ คุณนี่... ไปได้รอบตัวจริงๆ พับผ่า... ในขณะที่กำลังยุ่งๆ สมองอยู่อย่างนี้ ยังอุตส่าห์คิดถึงเรื่องนี้ได้ ”

พราน ยิ้มละไม
“ มันเป็นอาชีพของผม ช่วยไม่ได้ ว่าแต่ว่า ผมขอถามอะไรท่านสารวัตร จริงๆ สักอย่าง มันเป็นเรื่องเล็กน้อยก็จริงอยู่ แต่มันค่อนข้างจะสำคัญ ถ้าผมได้รู้ ”

“ อะไร ”

“ ท่านสารวัตร รู้ได้อย่างไรว่า ผมได้รับถุงมือข้างนั้น ”

“ คุณเคยถามผมมาครั้งหนึ่งแล้ว ”

“ ใช่... แต่ ท่านสารวัตร ยังไม่ได้ให้คำตอบกับผม ในตอนนี้ ผมได้ลำดับเรื่องราวต่างๆ เข้ากันได้หมดแล้ว ถ้าผมเดาได้ถูกว่า ท่านสารวัตร รู้มาได้อย่างไร ก็จะทำให้การลำดับเรื่องในตอน อื่นๆ ไม่ผิด ”

“ คุณเดาได้ว่าอย่างไร ”
สารวัตรพจน์ ตั้งคำถาม แทนคำตอบ มองดู พราน เฉยอยู่

พราน ยิ้ม
“ ผมเดาไว้ว่า ท่านสารวัตร จะต้องได้รู้จากทางโทรศัพท์ โดยผู้หญิงเป็นผู้พูด และผู้หญิงคนนั้นไม่ยอมบอกว่าเป็นใคร พูดมาจากไหน แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้ระบุชื่อ นายโรจน์ และนายวิรัตน์ ในการพูดนั้นด้วย ”

สารวัตรพจน์ ยันข้อศอกทั้งสองข้างที่ท้าวแขนเก้าอี้ มือทั้งสองประสานกันที่ปลายคาง มองดู พราน ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าช้า ๆ

“ เวลาประมาณเท่าไรครับ ”
พราน ถามต่อไป

“ ราวๆ เกือบสองยามของคืนวันนั้น ” สารวัตรพจน์ ตอบ ในกิริยาอาการเดิม

พราน ยิ้ม เอนหลังลงพิงพนักเก้าอี้
“ ขอบคุณมากครับ ”

มีเสียงเคาะบังตา ร.ต.อ. ผจญ ก้าวเท้าเข้ามา มีชายคนหนึ่งตามหลังมาด้วย พร้อมกับตำรวจในเครื่องแบบอีกคนหนึ่งที่คุมมาข้างหลัง

สารวัตรพจน์ มีสีหน้าแช่มชื่นขึ้น พูดขึ้นว่า
“ สวัสดี... อำไพ เราได้พบกันอีก ”

ชายคนนั้น ซึ่งชื่อ อำไพ ปราดมาที่โต๊ะทำงาน
“ ท่านสารวัตร ไปเอาตัวผมมาทำไมอีก ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะอย่างอารมณ์เย็น
“ เรามีเรื่องจะต้องคุยกันสักเล็กน้อย นั่งลงก่อนซิ อำไพ... ”

อำไพ ทรุดตัวลงนั่ง พลางเหลียวมองดู พราน เกรียง และ กัลยา อย่างฉงน

พราน จับสังเกตุลักษณะท่าทางของ อำไพ ซึ่งเป็นคนในวัยเกือบสี่สิบ และมีท่าทางคล่องแคล่ว เขาหันไปยิ้มกับ ผจญ ซึ่งยืนอยู่ข้างๆ

ท่าทีของ ผจญ อ่อนโยนลงกว่าเดิม เขายิ้มให้กับ พราน แล้วหันไปลากเก้าอี้อีกตัวหนึ่งมานั่งลงข้างๆ

อำไพ หันไปทาง สารวัตรพจน์ พูดว่า
“ มีเรื่องอะไรอีกหรือครับ ”

สารวัตรพจน์ เลื่อนกระป๋องบุหรี่ให้ อำไพ ซึ่งหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบมวนหนึ่งด้วยมืออันสั่นเทา แล้วเงยหน้าขึ้นมองดู สารวัตรพจน์
“ คุณอยู่ที่ไหน และไปไหนมาบ้าง ในวันนี้ ”

สารวัตรพจน์ ถามขึ้นด้วยสีหน้าเรียบๆ

อำไพ แสดงสีหน้าเบื่อหน่าย
“ ทำไม ท่านสารวัตร จะต้องมายุ่งกับผม ผมจะไปที่ไหน ทำอะไร มันเรื่องของผม ผมกำลังสนุกอยู่ที่สโมสร คุณผจญ ก็เอาตัวผมมา ตำรวจเขาชอบรังควานความสงบของประชาชนกันอย่างนี้เองหรือครับ ”

สารวัตรพจน์ หัวเราะ
“ อ้อ... คุณกำลังอยู่ที่สโมสรหรือครับ... คุณไปที่นั่นตั้งแต่เมื่อไร ”

“ ผมเพิ่งไป... ผมหนีเขามา... ”
อำไพ ตอบเสียงสูง
“ ผมไปฆ่าคนมา แล้วก็ทำเป็นไปอยู่ที่สโมสร มีพยานรู้เห็นตอนที่ผมฆ่าเขาด้วย พอใจไหมครับ... ขังผมซี ”

สารวัตรพจน์ ไม่เอาใส่ใจต่อน้ำเสียงเยาะเย้ยนั้น ยังคงหัวเราะเบาๆ อย่างใจเย็น
“ อย่าทำเป็นฉุนเฉียวไปน่า... อำไพ... ผมเพียงแต่ต้องการทราบความจริง เพื่อจะทำประโยชน์ ให้กับความสงบสุขของประชาชนเท่านั้น ”

“ ทำประโยชน์... เชอะ ! ”

อำไพ เค้นเสียง หันหน้าไปรอบๆ ห้อง เขาหยุดอยู่ที่ พราน
“ แล้วนี่ใคร... เจ้าทุกข์ หรือผู้กล่าวโทษผม ”

พราน ยิ้ม ก่อนที่จะพูดสวนขึ้นมาทันที
“ จะว่า ผมเป็นเจ้าทุกข์ก็ได้ เพราะความจริง มันเป็นเรื่องที่ผมกำลังเป็นทุกข์อยู่เหมือนกัน ”

“ คุณเป็นใคร ” อำไพ เลิกคิ้วถาม

“ ลืมเสียแล้วหรือ... คุณอำไพ... ”
พราน หัวเราะเบาๆ
“ เราเคยพบกันครั้งหนึ่งที่สโมสรกิมซัว คุณกำลังเป็นเจ้ามืออยู่ ในขณะที่ผมไปพบผู้จัดการสโมสร คุณจะให้ผมเล่าด้วยไหมว่า ผมได้ยืนสังเกตุดูวิธีการออกไปของคุณอยู่ และเห็นอะไรบ้าง ตอนนั้น คุณวิรัตน์ ก็ยังมีชีวิตอยู่ เขาเป็นลูกค้าคนหนึ่ง ซึ่งทำเป็นไม่รู้จักกับคุณ แล้วก็... ”

“ ท่านสารวัตร จะทำอย่างไรต่อไป ”
อำไพ หันมาทาง สารวัตรพจน์ ทันที ก่อนที่ พราน จะพูดจบ

“ คุณยังไม่ได้ตอบคำถามของผมอย่างตรงไปตรงมา ที่ผมถามว่า คุณไปไหนมาบ้างในวันนี้ ”

“ ผมคิดว่า ผมไม่จำเป็นจะต้องตอบ ”
อำไพ พูดห้วนๆ
“ ถ้าท่านสารวัตรสงสัยอะไรผม ก็ขังผมได้... แต่ระวังเรื่องทำให้เสื่อมเสียอิสรภาพ ”

พราน หัวเราะแทรกขึ้นมา และพูดว่า
“ ผมบอกแล้วว่า ท่านสารวัตร จะไม่ได้รับความร่วมมือจากเขา ผมบอกว่า ปล่อยให้เขาไปพูดกับผมที่สำนักงาน จะดีกว่า ก็ไม่เชื่อ เห็นไหมครับ ”

“ ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณเหมือนกัน ”
อำไพ หันขวับมาทาง พราน

พราน หัวเราะเบาๆ อีกครั้ง เขาเอื้อมมือมาหยิบเศษกระดาษบนโต๊ะมาแผ่นหนึ่ง แล้วหยิบดินสอมาเขียนอะไรบนเศษกระดาษนั้น ส่งให้ อำไพ ดูแต่ผู้เดียว

อำไพ ทอดสายตาอ่านข้อความในกระดาษนั้น แล้วเหลือบตาขึ้นมองดู พราน ครู่หนึ่ง ยกบุหรี่ขึ้นอัดควัน แล้วมองตามควันบุหรี่ ทำกิริยาไม่รู้ไม่ชี้

พราน ยัดเศษกระดาษนั้นลงในกระเป๋าเสื้อ แล้วลุกขึ้นยืน พูดว่า
“ ผมมีอะไรจะพูดกับ คุณผจญ สักเล็กน้อย เชิญท่านสารวัตร ใช้ความพยายามกับ คุณอำไพ ต่อไปเถอะครับ แล้วคอยดูว่า สำเร็จไหม ”

เขาหันหลังเดินออกไป พร้อมกับพยักหน้าไปทาง ผจญ ซึ่งลุกขึ้นติดตามมา เกรียง กับ กัลยา เดินตามออกไปด้วย

ตรงไปที่ห้องทำงานของ ร.ต.อ. ผจญ พราน ปราดไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ดึงกระดาษบันทึกออกมา แล้วก็เริ่มเขียนข้อความลงบนกระดาษแผ่นนั้น

ผจญ เดินตามมายืนตรงหน้า แล้วพูดว่า
“ คุณมีอะไรที่จะพูดกับผม ”

“ เดี๋ยวครับ ”
พราน พูด ในขณะก้มหน้าก้มตาเขียน
“ กรุณารอสักครู่ ”

พราน เขียนข้อความลงบนกระดาษบันทึกนั้น ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

ผจญ เดินกลับไปกลับมาอย่างไม่เข้าใจ

เวลาผ่านไปสักสิบนาที พรานโยนดินสอบนโต๊ะ เขาลุกขึ้น ก้าวเข้ามาหา ผจญ และพูด พลางยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู
“ เวลานี้ สี่ทุ่มสิบห้านาที... ดูนาฬิกาของคุณซิว่า ตรงกับผมหรือเปล่า ”

ผจญ ยกนาฬิกาขึ้นดู
“ ตรงกัน ”

“ ดีแล้ว ” พราน พูดต่อไป
“ ประเดี๋ยว ผมจะเอาตัว อำไพ ไปที่สำนักงานของผม ”

“ เขาจะไปกับคุณเรอะ ” ผจญ ขัดขึ้น

“ ไปซิครับ ” พราน พูดยิ้มๆ ผงกศีรษะ ส่งกระดาษบันทึกแผ่นนั้นให้ ผจญ พลางพูดต่อไปว่า
“ พอถึงเวลา ห้าทุ่มกับยี่สิบนาทีตรง ขาดเกินไม่ได้ ให้ท่านสารวัตรพจน์ ต่อโทรศัพท์ไปที่สำนักงานของผม แล้วพูดกับผมตามบันทึกข้อความที่ผมเขียนไว้นี้ เข้าใจไหมครับ ”

ผจญ พยักหน้าอย่างงงๆ

“ ห้าทุ่มสิบห้านาที คุณจัดตำรวจไปคอยอยู่หน้าสำนักงานของผม ถ้า นายอำไพ ออกจากสำนักงานของผมไป ให้ตามไป อย่าเพิ่งไปจับเขา คุณควรจะมีรถวิทยุตามไปด้วยห่างๆ เพราะอาจจะต้องใช้กำลังด้วยในคั่นสุดท้าย ตอนนี้ ผมคิดว่า คุณควรจะให้ท่านสารวัตรพจน์ พิจารณาว่า ควรจะทำอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับการจัดกำลัง แต่ต้องไม่ลืมว่า คุณจะต้องตามเขาทุกระยะ ตอนที่เขาออกจากสำนักงานของผมไป อย่าจับ... และอย่าตามให้พลาด ”

ผจญ รับกระดาษแผ่นนั้นมา และมองดู พราน นิ่งอยู่

พราน พูดขึ้นว่า
“ คุณเชื่อผมหรือเปล่า ”

“ เห็นจะต้องปรึกษาท่านสารวัตรพจน์ ดูก่อน ”
ผจญ พูดเบาๆ อย่างครุ่นคิด

“ ดีเหมือนกันครับ ” พราน พูด
“ เราไปกันเถอะ กลับไปฟัง นายอำไพ ที่ห้องท่านสารวัตรพจน์ ”

ขณะที่ ร.ต.อ. ผจญ ก้าวพ้นออกไปจากห้องทำงาน พราน หันมาทาง เกรียง และ กัลยา ซึ่งเดินตามหลังมา และพูดว่า
“ ประเดี๋ยว เราจะมีการเล่นละครกันสักเล็กน้อยที่สำนักงาน... เมื่อผมเอาตัว นายอำไพ ไปที่สำนักงานเราแล้ว เราจะซักถามอยู่ที่ห้องข้างนอก คือ ห้องของ กัลยา ใกล้จะถึงเวลา เราจะพากันเข้าไปปรึกษาอะไรกันในห้องทำงานของผม และให้ เกรียง คุมตัว อำไพ อยู่ข้างนอก พอใกล้จะถึงเวลาห้าทุ่มยี่สิบนาที เกรียง... คุณจะต้องทำเป็นลงไปชั้นล่าง เพื่อจะเข้าห้องน้ำ หรืออะไรก็ได้... ปล่อยให้ อำไพ อยู่คนเดียว ”

เขาชี้นิ้วมาที่ กัลยา
“ ทีนี้ หน้าที่ของคุณก็คือ ก่อนที่จะเข้าไปในห้องทำงานของผม คุณจะต้องสับสวิทช์ให้โทรศัพท์ทั้งข้างนอก ข้างใน ฟังกันได้ยิน... เข้าใจนะ
”
เกรียง และ กัลยา รับคำ

พราน เดินนำหน้าออกจากห้องทำงานตาม ผจญ ไป บุคคลทั้งหมดเข้ามาในห้อง สารวัตรพจน์ อีกครั้งหนึ่ง

พราน เดินมาที่โต๊ะ พูดกับ สารวัตรพจน์ ว่า
“ เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านสารวัตร ”

สารวัตรพจน์ ส่ายหน้า แล้วมองดู อำไพ ซึ่งนั่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อยู่

พราน หัวเราะ พูดว่า
“ ปล่อยให้ผมดีกว่าครับ ท่านสารวัตร ”

“ ก็ตามใจคุณ ” สารวัตรพจน์ พูดขึ้นอย่างเบื่อหน่าย

พราน สะกิดที่ต้นแขนของ อำไพ
“ ไปกันหรือยัง คุณอำไพ ”

“ ไปไหน ”
อำไพ เงยหน้าขึ้นถาม

“ ก็สำนักงานของผมไงล่ะ ”

อำไพ หันมามอง สารวัตรพจน์ แล้วลุกขึ้นอย่างช้าๆ
“ ไปก็ไป ” เขาพูดอย่างตัดรำคาญ

สารวัตรพจน์ และ ผจญ มองดูหน้ากันอย่างแปลกใจ

พราน แอบหลิ่วตาให้คนทั้งสองแว่บหนึ่ง แล้วเดินเคียงข้างไปกับ อำไพ ออกไปจากห้อง โดยมีสายตาของนายตำรวจทั้งสองมองตามไปอย่างงงๆ

ผจญ หันไปพูดกับ สารวัตรพจน์
“ ผมไม่เข้าใจ... ทำไมหมอนี่จึงยอมตาม คุณพราน ไปง่ายๆ ยังงี้ ”

“ ผมก็อยู่ในฐานะเดียวกับคุณ ”

สารวัตรพจน์ พูด สั่นศีรษะช้าๆ
“ ผมรู้แต่เพียงว่า ขณะนี้ เราจะต้องเล่นไปตามมือที่เขาแจกมาให้เท่านั้นเอง... เมื่อกี้ เขาสั่งงานอะไรกับคุณไว้บ้าง”





Create Date : 16 มีนาคม 2558
Last Update : 16 มีนาคม 2558 2:15:52 น. 2 comments
Counter : 592 Pageviews.

 
ตัดริบบิ้นค่ะ


อ่านแล้วโหวต




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ก้อนเงิน Music Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
mambymam Home & Garden Blog ดู Blog
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Travel Blog ดู Blog
ธารน้อย Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 มีนาคม 2558 เวลา:11:06:41 น.  

 


โดย: ก้นกะลา วันที่: 17 มีนาคม 2558 เวลา:2:22:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธารน้อย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ธารน้อย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.