สักประเดี๋ยวก็มีโทรศัพท์มาจากข้างใน ขอพูดกับผู้กองรักษาการณ์ ผมไปรับสายเขาพูดเสียงดุๆ เข้ามาว่า
ทำไมคุณไม่ให้คนของผมเข้าทำงาน
ผมก็ถามไปว่าใครเป็นคนพูด และพูดมาจากไหน เขาบอกว่า เขาพูดมาจากสำนักตำรวจวังและเขาเป็น รองราชเลขาธิการสำนักพระราชวัง ชื่อ เฉลียว ปทุมรส
ผมเจอคนใหญ่โตเข้าให้แล้ว
ตอนนั้น คุณเฉลียว เขาไม่เบาหรอก ใหญ่ขนาดพูดจากับอธิบดีกรมตำรวจ คือคุณหลวงอดุลย์ฯ ได้ แต่ผมไม่กลัว ผมมีหลักการ ผมตอบไปว่า
ผมไม่ได้ห้ามให้คนของคุณเข้าทำงาน ถ้าเขามีบัตรอนุญาตถูกต้อง
ใครจะพกบัตรมาทุกวัน มันก็ต้องมีลืมกันบ้าง เขากระแทกเสียงมา
ลืม... ก็กลับไปเอามาซิครับ ไม่มีบัตร ผมให้เข้าไม่ได้ ผมรับผิดชอบความปลอดภัยของสถานที่นี้ ผมตอบไป
ถ้ายังงั้น ผมจะอนุญาตให้พวกเขาเข้ามา เขากระแทกเสียงมาอีก
ผมอ่านข้อบังคับดูแล้ว ไม่เห็นมีว่า รองราชเลขาฯ ให้อนุญาตได้ มีอยู่อย่างเดียว คนที่เข้าพระราชฐานชั้นใน ต้องมีบัตรของท่านราชเลขาธิการฯ แสดง จึงจะเข้าไปได้ครับ
ผมจะให้คนของผมเข้าทำงานทั้งๆ ที่ไม่มีบัตร เขาพูดมาเสียงดัง ด้วยความโกรธ
ตำรวจของผมยิงเอา ผมไม่รู้ด้วย ผมสั่งเขาไว้แล้ว ถ้าใครขัดขืน ให้ยิง
เขานิ่งไปนาน
ผมวางหู ออกไปชะโงกดูข้างใน จำนวนคนค่อยๆ เพิ่มขึ้น และตำรวจของผมทั้งสองคน ยืนจังก้าขวางอยู่หน้าประตู มือกุมที่ซองปืน ไม่มีใครกล้าก้าวผ่านเขาไป
เคราะห์ดีที่ไม่มีใครบ้าบิ่นทำตามคำของคุณเฉลียว
ถ้ามี... แล้วตำรวจของผมเกิดยิงเอาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นกับผม แต่ยังไงๆเล่นกันแล้ว ก็ต้องเล่นให้ถึงบท
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ รถของท่านเจ้าคุณชาติเดชอุดม ก็แล่นเข้ามา และผ่านไปชั้นใน
สักครู่ผมก็ได้รับโทรศัพท์จาก เจ้าคุณอา ของผม
เฮ้ย.. พุฒ เกิดฟิตอะไรขึ้นมาถึงไม่ให้คนของอาเข้าทำงาน
ผมไม่ได้ห้ามครับ เจ้าคุณอา แต่พวกนั้นเขาไม่พกบัตรของเจ้าคุณอามา ผมก็ไม่ให้เข้า เดี๋ยวเกิดเป็นใครเข้ามาทำมิดีมิร้ายผมก็แย่ พวกเขาไม่นับถือเจ้าคุณอากันหรือยังไง จึงเห็นบัตรของเจ้าคุณอาไม่มีความสำคัญ
ผมหยอดลูกเล่นเข้าไปตอนท้าย
เจ้าคุณอาชาติฯ นิ่งอึ้งไปเหมือนกัน แต่แล้วก็พูดว่า
เออ! แล้วอาจะเล่นงานเขาเอง แต่ตอนนี้อนุญาตให้เขาเข้าทำงานก่อนนะ อาขอ
เจ้าคุณอาขอ ผมให้ ช่วยกรุณาสั่งตำรวจให้มาหาผมคนหนึ่งครับ
วันนั้นพวกตำรวจวังได้เข้าทำงานเอาเกือบเที่ยง
แต่ยังไม่ได้อ่านเพราสายตายังไม่ดี