Group Blog All Blog
|
[พาเที่ยว]เสน่ห์ปีนัง ตอน1...Charming Penang#1 วันนี้ชวนไปเที่ยวใกล้ๆคะ 2ชม. จากชายแดนไทย-มาเลเซีย นั่นก็คือปีนังคะ ต้องแบ่งเป็นตอนๆนะคะ เนื้อหามันเยอะ ตอนแรกจะพาไปสัมผัสบรรยากาศเกาะปีนังผ่านเรือเฟอร์รี่ข้ามฟาก ปีนัง (槟城 หรือ Pulau Pinang)หรือที่คนไทยเรียกว่า เกาะหมาก ได้รับฉายาว่า "ไข่มุกแห่งตะวันออก" การเดินทางมาปีนังมาได้หลายวิธี ทั้งทางเครื่องบิน รถทัวร์หรือรถตู้จากหาดใหญ่ รัฐปีนังประกอบด้วยสองส่วนคือแผ่นดินใหญ่ที่คนท้องถิ่นเรียกSebarang Perai(Prai) ที่เป็นที่ตั้งเมืองหลวงของรัฐนั่นก็คือบัตเตอร์เวอธตัวเกาะปีนัง ในภาษามาเลย์คือ Pulau Pinang ปัจจุบันนิยมข้ามฟากจากบัตเตอร์เวอธมายังเกาะด้วยสะพานเพราะรวดเร็วกว่าแต่ค่าธรรมเนียมในการใช้สะพานก็แพงกว่า ยิ่งถ้าใครมากับทัวร์ก็ไม่เสียเวลาข้ามด้วยเฟอร์รี่อยู่แล้ว เจ้าของบล็อกเองไปปีนังครั้งนี้ไปคนเดียว ก็อาศัยนั่งแท็กซี่ที่ด่านนอก(ด่านสะเดา)ไปขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งอลอสตาร์(Alor Setar bus terminal) เพื่อนั่งรถสายอลอสตาร์-บัตเตอร์เวอธ ซึ่งสุดสายที่ท่าเรือเฟอร์รี่ฝั่งบัตเตอร์เวอธ มาถึงแล้วรีบไปซื้อตั๋วกันดีกว่า ท่าเรือเฟอร์รี่ที่นี่ถือว่ามาตรฐานเลยทีเดียว คนใช้เยอะมาก ทางเดินที่ขึ้นมาก็เป็นบันไดเลื่อนอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสุดๆ ท่าเรือเฟอร์รี่เปิดบริการถึงเที่ยงคืนทุกวัน ซื้อตั๋วแล้วนั่งรอเรือค่าตั๋ว1.2RM(ประมาณ12บาทไทย คิดคร่าวๆ)ตั๋วนี่ซื้อเฉพาะขึ้นเกาะปีนังคะ ขากลับไม่ต้องซื้อตั๋วขึ้นเรือได้เลย หมายถึงขากลับนั่งเฟอร์รี่ฟรีว่างั้นเถอะ ถ้าไฟเขียวแสดงว่าเรือมาแล้วไปลงเรือกันดีกว่าคะ
สภาพภายในเรือก็เป็นแบบนี้คะ ใครอยากจะนั่งตรงไหนก็ได้ไม่มีหมายเลขที่นั่ง ส่วนตัวฉัันเองไม่ค่อยได้นั่งหรอกไปยืนชมวิว กับถ่ายรูปซะมากกว่า ส่วนใครจะเอาพาหนะข้ามฟากด้วยก็ได้ต้องซื้อตั๋วอีกราคาแล้วก็อยู่กันคนละชั้นกับเรา
แอบถ่ายเฟอร์รี่อีกคันที่สวนมา
บรรยากาศระหว่างนั่งเฟอร์รี่ข้ามฟาก
ใกล้เข้ามาแล้ว เกาะปีนังอยู่ข้างหน้าเรานี่เองที่เห็นตึกที่เป็นแท่งแบบทรงข้าวโพดเป็นตึกที่สูงที่สุดของเกาะนี้คะ เรียกตึกกอมต้าร์(Komtar building) สำคัญมากเลยนะเพราะเป็นจุดศูนย์กลางการเดินรถ รถเมล์ทุกสายจะต้องวิ่งผ่านจุดนี้ บ้านเราคงเทียบได้กับอนุสาวรีย์ชัยฯ
มองไปทางขวาของท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ของเกาะปีนังก็จะพบกับท่าเทียบเรือของเรือสำราญสตาร์ครูส
ที่เห็นจอดลำสวยๆ นั่นล่ะคะเรือสำราญสตาร์ครูส มองไปทางซ้ายก็จะพบแท่งเหล็กสีเหลืองๆใหญ่ๆซึ่งก็คือเครนยกตู้สินค้า ที่ท่าเทียบเรือน้ำลึกในการส่งออกนำเข้าสินค้าทางทะเล พอเรือเฟอร์รี่เทียบท่าแล้วก็เดินออกมาตามช่องทางออกเรื่อยๆ จนมาพบนี่คะเคาน์เตอร์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยว มาคนเดียวไม่ต้องกลัวหลง จะไปที่ไหน ไปยังไง รถสายอะไรเจ้าหน้าที่ที่นี่เธอบอกได้หมด ตรงจุดบริการตรงนี้อยู่ในบริเวณท่ารถเมล์คะ ที่นี่มีทั้งรถเมล์ฟรีและเสียตังค์ รถเมล์ที่นี่ติดแอร์ทุกคันคะ ใหม่และสะอาด รถเมล์ฟรีก็ติดแอร์ไว้บริการนักท่องเที่ยว คือขับวนไปรอบๆเมืองในย่านที่เที่ยวสำคัญ นักท่องเที่ยวอยากขึ้นและลงจุดไหนก็ได้ มันจะมีแผนที่แจกฟรี บอกจุดที่รถเมล์ฟรีวิ่งผ่าน วันที่เริ่มเดินชมเมืองก็เริ่มใช้รถเมล์ฟรี หรือที่เรียกว่า Hop on-Hop off (โดดขึ้น-โดดลง) ประหยัดไปหลายตังค์เลยล่ะ สังเกตุดูจะเห็นว่าที่หัวรถเมล์ทุกคันจะมีป้ายไฟบอกว่ารถคันนี้วิ่งจากไหนไปไหน ทำให้ง่ายต่อการสังเกตุ รถเมล์ที่นี่คนขับจะเปิดประตูอัตโนมัติให้เราขึ้นด้านหน้า แล้วเราบอกปลายทางที่เราจะลงไป คนขับบอกราคาตั๋วให้เราหยอดเหรียญลงไปในกล่องเหล็กข้างคนขับเหมือนผู้ชายที่อยู่ในรูปด้านล่าง แล้วคนขับรถจะดึงตั๋วให้เรา เพราะฉะนั้นเตรียมเหรียญไปให้พอดีไม่มีการทอน และที่นี่ไม่รับธนบัตร ครั้งแรกเจ้าของบล็อกเองไม่รู้ว่าเขาไม่ทอนไม่มีเศษเหรียญยังดีว่ามีคุณป้าคนนึงใจดียื่นเหรียญให้เพราะรู้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวไม่รู้ธรรมเนียมที่นี่ ด้านล่างเป็นภาพภายในตัวรถเมล์ เสาทุกต้นมีกริ่งให้กด พอจะลงตรงไหนก็กดได้เลย คนขับรถที่นี่ขับรถสุภาพมากจะเปิดประตูให้คนลงเมื่อรถหยุดสนิทเท่านั้น และไม่ออกรถจนกว่าประตูจะปิดสนิททุกบาน เวลาเราจะลงคนขับจะเปิดประตูอัตโนมัติบานที่อยู่ตรงกลางรถให้ลง เจ้าของบล็อกสังเกตุว่าคนที่นี่มีระเบียบมากเลยนะ พอประตูกลางเปิดคนบนรถลงไปก่อนคนที่ยืนรอจะขึ้นรถเมล์ที่ป้ายก็รอประตูหน้าเปิดเข้าคิวจ่ายตังค์เป็นระเบียบ ไม่มีใครวิ่งสวนขึ้นมาตรงประตูกลาง(ทางออก)เลย แบบว่าแอบขึ้นรถเมล์ฟรี นี่ถ้าบ้านเราคงจะมั่วกันน่าดู อีกอย่างรถเมล์ไม่มีกระเป๋ารถที่มาคอยร้องบอกชิดในหน่อยพี่ๆอีกด้วยนะ ผู้โดยสารต้องจัดระเบียบกันเอง แล้วเดี๋ยวตอนหน้าจะพาเข้าไปชมเมืองกันคะ สุดท้ายก็คงต้องลากันด้วยภาพพาโนราม่าอันนี้คะเป็นการเรียกน้ำจิ้ม... พบกันตอนต่อไป... |
365days life quote
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] Life Style,Food and Travel Inspiration you 365days แบ่งปันคำคม ข้อคิด ให้กำลังใจ บทความดีๆเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต บางครั้งอาจสอดแทรกเรื่องราวการเดินทาง ประสบการณ์ชีวิตบ้าง ขอฝากผลงานมือใหม่ด้วยคะ ^____^ เริ่มนับสถิติ 16 พฤศจิกายน 2556 | ||