“หมอโอ๊ค สมิทธิ์” เผยเครียดจนจับต้นชนปลายไม่ถูก ทุกอย่างแย่ หดหู่ หลัง “โอปอล์” มีภาวะผิดปกติจากการตั้งครรภ์เสี่ยงคลอดก่อนกำหนด ยอมรับเป็นช่วงลำบากของชีวิตคู่

แต่ตนต้องเป็นเสาหลัก ชื่นชมเมียรักเข้มแข็ง น้ำตาร่วงขอบคุณที่อยู่เคียงข้างกันตลอด สัญญาจะไม่ทอดทิ้งกัน เผยรักเมียมากขึ้นทุกวัน

สร้างความรู้สึกใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย จากกรณีที่ “โอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล” ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ลูกแฝด 6 เดือนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นการด่วน หลังพบภาวะผิดปกติจากการตั้งครรภ์ เสี่ยงคลอดกำหนด

ทำให้ต้องนอนพักรักษาตัวนิ่งๆ ในโรงพยาบาล ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จนกว่าจะคลอด ล่าสุด “หมอโอ๊ค สมิทธิ์ อารยะสกุล” ได้ออกมาเปิดใจในงานประกวดโครงการ “เคแบงก์ อีเกิร์ลส รุ่นที่ 8” รอบแกรนด์ไฟนอลชิงชนะเลิศ ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ยอมรับช่วงที่ผ่านมาเครียดมาก เพราะตั้งรับกับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ทัน ตอนนี้โล่งใจเมียรักพ้นภาวะเสี่ยงแท้งลูก แต่ยังต้องลุ้นว่าจะคลอดก่อนกำหนดในช่วงไหน มั่นใจทีมแพทย์ที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้หมอโอ๊คยังน้ำตาร่วง ขอบคุณโอปอล์ที่เข้มแข็งและอยู่เคียงกันตลอด

“จริงๆ อาการโอปอล์ก็ยังไม่ได้พูด เพราะช่วงที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่าเครียดทั้งคู่ เนื่องจากว่าอาการเริ่มต้นผมตรวจเอง กอดโอปอล์แล้วรู้สึกว่าทำไมท้องเขาแข็งขึ้น เราก็จำได้ว่าตอนเป็นนิสิตแพทย์ เหมือนเป็นสัญญาณว่ามดลูกหดรัดตัว

ซึ่งคุณโอปอล์ตั้งครรภ์ตอนนั้นได้ประมาณ 6 เดือน ก็ถือว่าค่อนข้างเร็ว แต่อาจด้วยครรภ์แฝดด้วยก็อาจจะเกิดอาการแบบนี้ได้”

“วันรุ่งขึ้นเลยพาไปพบคุณหมอตรวจตามนัด พอตรวจมาก็พบว่ามดลูกหดรัดตัวจริง แล้วเกิดภาวะปากมดลูกของคุณโอปอล์รับน้ำหนักได้ค่อนข้างจำกัด อาจารย์อธิบายว่าคุณโอปอล์ตัวเล็ก แล้วเรามีลูกแฝดด้วย ตอนนี้ท้องคุณโอปอล์ใหญ่มาก

ก็เลยต้องทำการพักผ่อนในโรงพยาบาล เพื่อชะลอการคลอดเอาไว้ ในช่วงสัปดาห์แรก ก็ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ไม่ได้อัปเดตอะไรให้ฟังเลย เพราะสภาพจิตใจและความพร้อมของเรา มันยังจับต้นชนปลายไม่ถูก”

“จริงๆ อายุครรภ์ในช่วงนั้นถือว่าลุ้นมากเลย เพราะว่า 6 เดือนถือว่าน้อยมาก แล้วคือเป็นช่วงลำบากมากที่สุดในชีวิตของเรา มันเป็นช่วงที่เราต้องอดทนมาก เพราะต้องรอและดูอาการวันต่อวัน

ซึ่งจริงๆ ก็อยากบอกทุกคน แต่เราไม่พร้อมจริงๆ จนเวลาล่วงเลยมาตอนนี้ เข้าสู่เดือนที่ 7 แล้วก็ค่อนข้างปลอดภัยทั้งคุณโอปอล์และลูกๆ ด้วย ก็ถือว่าเป็นเกณฑ์คลอดก่อนกำหนดแล้วค่ะ

คงไม่ใช่คำว่ากันแท้งแล้ว ตอนนี้น้องๆ แข็งแรงดี น้ำหนักเพิ่มขึ้นตามเกณฑ์ คุณโปอล์ได้พักผ่อนแล้ว ได้รับยาแล้วตอบสนองต่อยาดี”

น้ำตาคลอบอกรักลูกมาก สอนบทเรียนให้ตั้งแต่ยังไม่ทันได้เกิด ส่วนตนต้องเป็นเสาหลักให้เมียรักให้ได้

“สบายใจขึ้นทุกวันครับ ต้องบอกก่อนว่า ทุกวันที่ผ่านไปสบายใจขึ้นเรื่อยๆ เรื่องนี้สอนผมเยอะมาก สอนให้เราอดทน ผมถือว่าลูกสอนผมนะ สอนเราตั้งแต่เขายังไม่เกิด

และทำให้รู้เลยว่าเรารักเขามากแค่ไหน (น้ำตาคลอ) ตอนนี้โอปอล์อยู่โรงพยาบาลตลอด คุณหมอวางแผนว่าให้อยู่จนคลอดน้อง ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

“ตอนแรกมันผสมปนเปกัน มีทั้งความกลัว อาจโชคร้ายที่เราเป็นแพทย์ด้วยมั้ง พอเป็นแพทย์เราก็รู้เยอะก็คิดเยอะ แล้วเราต้องเข้มแข็งเพื่อโอปอล์ เขาเป็นแม่เขาต้องรู้สึกอะไรเยอะแยะมากมาย เราต้องเป็นหลักให้ได้ ให้คุณโอปอล์และลูกๆ ได้รับการรักษาให้ดีที่สุด แล้วทุกอย่างก็ผ่านพ้นไป”

สัญญาจะไม่ทอดทิ้งกัน ชื่นชม “โอปอล์” ต้องเสียสละ ลั่นรักมากขึ้นทุกวัน

“ผมสัญญากับเขาตั้งแต่ก่อนแต่งงานว่า เราจะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม อย่างเหตุการณ์นี้ตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าโรงพยาบาล เขาค่อนข้างใจเสีย

คุณโอปอล์เป็นเวิร์กกิ้งวูเมน เพราะเขาต้องติดต่องาน มีภาระเยอะแยะมากมาย ก็ห่วงคุณโอปอล์เยอะมากจริงๆ คุณหมอสั่งให้เขาพักเลย คุณโอปอล์ต้องเสียสละมาก ต้องนอนราบอยู่บนเตียงอย่างเดียวเท่านั้น

ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันห้ามลุกจากเตียงเดิม อยู่ให้นานที่สุด ยังเคร่งครัด คุณหมอบอกให้พักให้มากที่สุด ผมก็รักเขามากขึ้นนะครับ รักมากขึ้นทุกวัน เห็นเลยว่าความเป็นแม่มันยิ่งใหญ่แค่ไหน

ทุกวันก็ปรับตัวได้มากขึ้น ผมสัญญาว่า ไม่ว่าจะไปทำงานหรือทำอะไรก็ตาม ผมจะต้องอยู่กับเขาทุกวัน ตอนนี้อยู่ด้วยกันทุกวันเท่าที่สถานที่และการรักษาจะอำนวย อยู่ด้วยกันตลอด

“ตอนนี้ยังกำหนดคลอดไม่ได้เลย ยิ่งนานยิ่งดีนะครับ ตอนนี้ปรึกษาคุณหมอ อุ่นใจได้เยอะแล้ว ค่อนข้างโอเค แค่ว่าน้องจะต้องอยู่ตู้นานหรือไม่แค่นั้นเอง ก็ใช้กำลังใจเป็นหลักควบคู่กับการรักษา

จริงๆ ตอนนี้โอเคมาก เหมือนน้องก็เติบโตได้ดี อาการคุณโอปอล์ก็ควบคุมได้ดี ถึงจะคลอดก่อนในเร็ววัน ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่ก็มีทีมแพทย์ที่เตรียมพร้อมอยู่เสมอ”

“ต้องบอกเลยว่า ในครอบครัวผมว่าเป็นพลังที่สำคัญที่สุด สุดท้ายคนที่เป็นหลักให้เรายึดจริงๆ คือคุณพ่อคุณแม่ คือรู้เลยว่าคุณพ่อคุณแม่รักเรามากแค่ไหน เราก็เรียนรู้เลยว่าเรารักลูกมากแค่ไหน”

เผยธรรมะทำให้ตั้งสติ ทุกวินาทีที่ผ่านมาดีที่สุด น้ำตาร่วงขอบคุณเมียรักที่อยู่เคียงข้างกันทั้งตอนสุขและทุกข์

“เหมือนบทเรียนสอนผมอย่างจัง ว่านี่คือบทบาทในความเป็นพ่อ เป็นจุดเริ่มต้น จริงๆ ก็คุยกันตลอด จะเห็นว่าวันเกิดผมไม่ได้เป็นคนที่ชอบอะไรที่ฟุ่มเฟือยอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ด้วยกัน

แต่ว่าปีนี้ถึงแม้ว่าสถานที่เปลี่ยนไป ได้ฉลองกันในโรงพยาบาล แต่ก็ยังอยู่ด้วยกันครับ ก็เป็นสิ่งที่ดีครับ (น้ำตาไหล) จริงๆ ก็ให้กำลังใจกันทุกวันอยู่แล้ว

ผมว่ากำลังใจที่ดีที่สุดคือการมองโลกในแง่ดี และปฏิบัติตนให้เหมือนเดิมอยู่เสมอ อยู่ใกล้ๆ เสมอเมื่อเขาต้องการ ตอนนี้ผมก็เตรียมทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว ผมเป็นคุณพ่อเป็นฝ่ายเตรียม ผมเป็นคนจัดการทั้งหมด คุณแม่ต้องพักผ่อน”

“จิตใจโอปอล์ดีครับ ในช่วงแรก ก็ยอมรับว่าตั้งตัวกันไม่ได้ทั้งคู่(น้ำตาไหล) ก็ต้องตั้งสติ เรื่องนี้ธรรมะช่วยเราไว้ได้มาก เราก็เชื่อเรื่องบทเรียนชีวิต กรรม ศีล ทั้งหลายทำให้ดึงเราลงมาอยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุด

ช่วงแรกปรับตัวไม่ได้เลย มันหดหู่ แย่ไปหมด แต่ในเวลา 2-3 วันต้องยกย่องโปอล์ เขาเป็นคนเข้มแข็งมาก ผมต้องเป็นหลักให้เขา หาสิ่งที่ดีที่สุดให้ภรรยาและลูกของผม อันนี้ถือว่าสำเร็จมาขั้นหนึ่งแล้ว ด้วยหน้าที่รับผิดชอบ”

“ช่วงแรกก็ต้องขอขอบพระคุณทั้งคนไข้ โรงพยาบาลและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เขาก็เห็นใจ เพราะเราต้องเตรียมตัวเข้า รพ. จัดการทั้งหมดเอง ตอนนี้ทุกอย่างปรับตัวได้ดีขึ้น

ผมก็ทำงานตามที่ได้รับผิดชอบ ผมก็ทิ้งไม่ได้ ตามอาชีพต้องทำงานต่อไป โปอล์ต้องพักยาว ก็ดีใจที่ได้แต่งงานกัน อนาคตจะเป็นยังไง ทุกวินาทีที่ผ่านมามันดีที่สุดแล้ว

อะไรจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ คือเรื่องดีทั้งนั้น (เสียงเครือ) ขอบคุณที่เข้มแข็ง และขอบคุณที่อยู่ข้างกันเสมอ ทั้งทุกข์และสุขครับ (ร้องไห้)”




ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ