bloggang.com mainmenu search
โดย Momypedia



















หม่อมราชวงศ์รัชชานนท์ จุฑาเทพ หรือ คุณชายเล็ก จากซีรีย์สุดฮิตเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ทำให้สาวๆ ทั้งประเทศเคลิบเคลิ้มไปกับความเท่ ขี้เล่น และแอบเจ้าชู้เล็กๆ จนมีคนอยากรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว คุณชายรัชชานนท์หรือ บอม ธนิน มนูญศิลป์ จะแมนและขี้เล่นเหมือนในละครหรือเปล่า และความเป็นบอม ธนิน ในวันนี้เกิดขึ้นได้เพราะใคร

Momypedia ได้รับเกียรติจากคุณแม่บอม ธนิน คุณหนิง-ปฎิพัชร ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกชายคนดัง พร้ิอมกับพี่น้องอีก 2 หนุ่ม ซึ่งนั่นทำให้คุณหนิงเป็นผู้หญิงผู้ทรงอิทธิพลของบ้าน มนูญศิลป์ ก็ว่าได้

บ้านมนูญศิลป์ มีลูกชายวัยไล่เลี่ยกันถึง 3 คน ซึ่ง คุณหนิง- ปฎิพัชร ได้ทำหน้าที่ของแม่ ที่ทุ่มเททั้งตัวและให้ทั้งใจ ในการเลี้ยงลูกตั้งแต่เล็กจนโต วันนี้คุณแม่จะมาเล่าถึงการเลี้ยงลูกๆ ตอนเด็กแบบซนคูณสาม มาถึงการรับมือกับเด็กวัยรุ่นที่ต้องใช้เวลาพร้อมทำความเข้าใจกับลูก

และทุกวันนี้กับเส้นทางอาชีพที่ลูกแต่ละคนเลือกเดิน โดยมีคุณแม่พร้อมครอบครัว เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคอยให้กำลังใจลูกๆ ทั้ง 3 คนอยู่เสมอ

สภาพแวดล้อมที่ดีและธรรมชาติ ตัวช่วยสำคัญในการเลี้ยงลูก

"ตอนที่มีลูกคนแรก แม่เลี้ยงลูกด้วยการเปิดตำรา โดยมีคุณยายกับพี่เลี้ยงมาช่วยเลี้ยง แต่พอมีคนที่ 2 และ 3 พอเริ่มมีประสบการณ์ โชคดีที่ในวัยเด็ก ลูกๆ อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะอยู่ในเขตบ้านพักแพทย์ ทำให้เวลามีปัญหาฉุกเฉินอะไรก็ปรึกษากันได้

นอกจากในบ้านแล้ว สภาพแวดล้อมที่ดีก็มีส่วนช่วยหล่อหลอมในสิ่งที่เราไม่อยากให้เขาทำได้ เช่น การพูดคำรุนแรง คำที่เขาไม่รู้ความหมาย หรือ พฤติกรรมต่างๆ ที่ไม่เหมาะสม อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ ธรรมชาติ แม่จะให้ลูกใกล้ชิดธรรมชาติมากที่สุด ทุกเย็นจะพาเขาเดินชมสวน ดูนก ดูปลา ดูสัตว์เลี้ยง แต่ทั้งหมดตั้งอยู่ในความปลอดภัย

ความปลอดภัยของลูกต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

เนื่องจากลูกทั้งสามคนอายุห่างกันไม่มากและเป็นผู้ชายทั้งหมด บอกได้เลยว่า “โกลาหลและซนมากค่ะ” (หัวเราะ) วันไหนที่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว วันนั้นจะเครียดมาก เพราะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยและไม่ให้คลาดสายตา ด้วยความที่เป็นเด็กผู้ชาย ดังนั้นเวลาที่เขาเล่นอะไร จะเต็มที่สุดๆ ไม่มีเบรก เล่นกันแรง และจริงจัง

เสมือนว่าตัวเองเป็นยอดมนุษย์ อุบัติเหตุ ฟกช้ำ กระดูกหัก ฯลฯ เกิดขึ้นบ่อยมากค่ะ เรียกว่าต้องมีอุปกรณ์ทำแผลติดบ้าน ห้ามขาดเลย แม่ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของลูกๆ มากเป็นอันดับหนึ่ง เพราะเขายังเด็ก เราเป็นแม่ มีหน้าที่ที่ต้องเฝ้าสังเกตและเฝ้าระวังให้ลูกค่ะ

พ่อแม่ คือต้นแบบที่ดีที่สุดของลูก

หลักในการเลี้ยงลูก เราจะสอนให้ลูกเรียนรู้จากการกระทำ แบบ Learning by doing โดยมีพ่อแม่เป็นแบบอย่างที่ดี ทำให้ลูกดูมากกว่า สอน เช่น ที่บ้านเราจะไม่มีบุหรี่ น้ำอัดลม ลูกอม เหล้า ฯลฯ เพราะเราตั้งใจจะเป็นต้นแบบที่ดีให้ลูกเห็น แม่เชื่อว่าถ้าเราทำให้เขาเห็นตั้งแต่ยังเล็ก ตอนโตเขาจะรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่มีความจำเป็นต้องไปลองทำค่ะ

เข้าใจ รับฟัง และรับมือกับช่วงวัยรุ่นอารมณ์ร้อน

ช่วงที่เขาเป็นวัยรุ่นแม่จะใช้เวลากับลูกค่อนข้างมาก ห่วงที่สุด คือ เรื่องอารมณ์ รู้เลยว่าเขาอารมณ์ร้อนขึ้น พร้อมมีเรื่องตลอดเวลา เราต้องคอยเตือนว่าถ้าทำไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น เช่น พ่อแม่จะเสียใจ โรงเรียนเชิญให้ออก แต่เขาไม่เคยไปมีเรื่องกับใคร เราก็ระวังไว้

ในวัยนี้เพื่อนมีอิทธิพลมาก แม่พยายามจะรู้จักกับเพื่อนๆ ของลูกทุกคน ทำตัวเปิดเผย ให้ลูกรู้สึกว่าเราเป็นเพื่อน เพื่อที่เขาจะได้กล้าเข้ามาคุยกับเรามากขึ้น เวลาที่ลูกมีปัญหา เราให้คำปรึกษา สอน และช่วยแก้ปัญหาได้ ที่สำคัญครอบครัวต้องสังเกตลูกว่า มีปัญหาอะไรไหม ส่วนคุณยายเข้ามาช่วยสอนในเรื่องของธรรมะอยู่เสมอค่ะ

นิสัยส่วนตัว และเส้นทางอาชีพที่ลูกแต่ละคนเลือกเดิน

นิก : ลูกชายคนโตตอนนี้เรียนจบแล้ว เป็นวิศวกรค่ะ นิสัยส่วนตัว เป็นคนมีระเบียบวินัย เรียบร้อย ซื่อสัตย์ สุขุม มีความรับผิดชอบ แม่บอกให้ทำหรือช่วยเหลืออะไร เขาจะทำได้หมด ถ้าบอกให้ดูน้องเขาก็จะทำได้จริงๆ เมื่ออยู่กับนิก แม่วางใจได้เลย เพราะเขาจะทำงานที่ได้รับมอบหมายได้ดี ให้ความร่วมมือในทุกๆ เรื่องของครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ

บอม : ลูกชายคนกลาง เรียนชั้นปี 4 ที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เป็นนักแสดง นิสัยส่วนตัว บอมเป็นคนพูดน้อย พูดตรง ใจร้อน โกรธง่าย หายเร็ว จริงๆ แล้วเป็นคนที่จิตใจอ่อนโยนมาก รักสัตว์ ชอบสำรวจ เรื่องไหนที่แม่ห้าม เขาจะลองทำแต่ไม่ให้เรารู้ ชอบที่จะเรียนรู้ด้วยตัวเอง

เชื่อว่าเมื่อผ่านมาได้แล้ว เขาจะแกร่งขึ้น และแม่มั่นใจว่าบอมเป็นเด็กที่รักดี รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด ชอบการผจญภัย และเคยผจญภัยแบบไม่รู้ตัวมาแล้ว ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราตั้งใจจะไปเที่ยวทั้งครอบครัวที่ญี่ปุ่น แต่บอมต้องไปก่อน เขาหลงกับทัวร์ ทั้งที่ตอนนั้นมีเงินไม่เยอะ และ WiFiใช้ไม่ได้ แต่เขาก็นั่งรถไฟมาหาเราได้ แม่ว่าบอมมีเซนส์ของการเอาตัวรอดนะ

โจ๊ก : ลูกชายคนสุดท้อง ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะแพทยศาสตร์ ศิริราช นิสัยส่วนตัว มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เวลามีปัญหาอะไร เขาจะเรียกพี่ๆ ให้ช่วยกัน โจ๊กเป็นเด็กมีความสามารถ อารมณ์ศิลปิน อารมณ์ดี หัวเราะได้ทั้งวัน แต่ตอนนี้เรียนหนัก อาจจะหัวเราะไม่ค่อยออกเท่าไหร่ (หัวเราะ)

นิสัยขี้อ้อน เราพยายามฝึกให้เขาช่วยเหลือตัวเองให้ได้ โชคดีที่เขาสอบได้นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ซึ่งพอกลับมาแล้ว เปลี่ยนไปจริงๆ ทำอะไรด้วยตัวเอง มีวินัย เป็นผู้ใหญ่ขึ้นค่ะ

เมื่อลูกชายคนกลาง บอม ธนิน เลือกเส้นทางในวงการบันเทิง

ประทับใจไปพร้อมกับตกใจ ไม่ทราบมาก่อนว่าบอมเข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เพราะเราเน้นให้เขาเรียนหนังสืออย่างเดียว แต่เขาคงนอกหลักสูตรมานาน (หัวเราะ) ไม่คิดว่าเขาจะมาถึงจุดนี้ ดีใจ ปลื้มใจที่ลูกทำได้ดี

บอมเคยบอกแม่ว่าเขากดดันกับละครมาก ถ้าไม่ดี ไม่มีคนดูเขา เขาคงพอตรงนี้ แต่เมื่อละครออนแอร์ เขาตกใจที่ผลตอบรับออกมาดี เป็นผลงานของทุกคน ไม่ได้มาจากตัวเขาคนเดียว แต่เขาก็ดีใจที่มีคนชื่นชอบเขา มาขอถ่ายรูป

แม่ประทับใจที่เขาพัฒนาตัวเอง จากที่เมื่อก่อนเป็นคนนิ่งๆ ยิ้มยาก เพราะเป็นลุคของผู้ชาย (หัวเราะ) เริ่มหันมาเอนเตอร์เทนคน ด้วยการร้องเพลง ยิ้มแย้มแจ่มใส หัวเราะมากขึ้น นี่เป็นการแสดงความรักตอบต่อคนที่ชื่นชอบเขาและผลงานของเขา แม่ชอบที่บอมเปลี่ยนไปแบบนี้ อยากให้เขารักษามาตรฐานตรงนี้ไว้ และพัฒนาฝีมือด้านการแสดงต่อไปค่ะ

แม่มั่นใจว่าบอมก็ภูมิใจในตัวเอง อยากให้บอมอดทน เนื่องจากช่วงที่เขาทำงาน ไม่ค่อยได้เจอกัน อยากให้เขารู้ว่าพ่อแม่รัก ให้กำลังใจ และอยู่กับเขาเสมอ

สิ่งที่คุณแม่เป็นห่วงในตัวของลูกทั้ง 3 คน

แม่จะเตือนลูกทั้ง 3 คนเสมอ เรื่องความสัมพันธ์ชายหญิง ให้ต้องระมัดระวัง ไม่ประมาท และเรื่องการคบเพื่อน หรือคนที่เข้ามาหา กลัวว่าเขาจะไม่ทันคน ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้ บางครั้ง บางเรื่อง อาจมานอกเหนือระบบของบ้านเรา เป็นสิ่งที่เขาต้องไปเรียนรู้จากภายนอก

แต่ก็เชื่อว่าในครอบครัวของเราได้ฝึกเขามาแล้ว ลูกต้องรู้จัก อดทน อดกลั้น ต่ออารมณ์ และอบายมุขต่างๆ เชื่อว่าเมื่อเขาไปเจอสิ่งที่แปลกออกไป เขาจะสามารถรับมือได้ค่ะ

สิ่งสำคัญที่สุดของแม่ คือ "ลูก" สามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต
แม่บอกลูกเสมอว่าให้ใช้ชีวิตถูกต้องทำนองคลองธรรม ช่วยเหลือและเลี้ยงตัวเองให้ได้ก่อนที่จะมีแฟน ถามตัวเองว่าสามารถ “ดูแล” เขาในทุกเรื่องได้ไหม พร้อมแล้วหรือยัง

ถ้ายังต้องพยายาม เราเป็น "ผู้ชาย" ต้อง “ดี” ให้ได้ด้วยตัวเอง ดีพอที่จะเลี้ยงคู่ชีวิตได้ มีครอบครัวที่ดี และจะดียิ่งขึ้นไปอีกถ้าลูกเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อผู้อื่น เป็นที่พึ่งให้เขาได้ อยากให้ลูกๆ มีชีวิตที่ดี พากเพียรกับการทำดี และมีรากฐานที่มั่นคงค่ะ

"แม่" คือ ผู้ให้และเป็นกัลยาณมิตรที่ดีที่สุดของลูก

มองในฐานะที่เราเป็นลูก “คุณแม่” คือ ผู้ให้ ให้ทุกอย่าง ตั้งแต่ชีวิต การอบรมบ่มนิสัย พร่ำสอนตลอดเวลา คุณแม่ คือคนที่เสียสละความสุข กำลังทรัพย์ทุกอย่างเพื่อลูก ไม่ว่าลูกทำอะไร คุณแม่เป็นผู้สนับสนุน และเป็นแรงดันในสิ่งที่ดีงาม เขาจะสอน ให้ความช่วยเหลือมาตลอด คุณแม่ไม่เคยเหนื่อยเลย

คุณยายของเด็กๆ เป็นข้าราชการ ถ้าเป็นเรื่องการศึกษา เขาจะกระเหม็ดกระแหม่เพื่อลูก สิ่งที่คุณแม่สอนเสมอ คือ ความดี และความถูกต้อง ขณะนี้แม่มองคุณแม่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีมาเสมอ คุณแม่ไม่เคยเหนื่อยที่จะสอนเรา

ถึงตอนนี้เราจะเป็นคุณแม่ของลูกชายถึง 3 คนแล้ว แต่คุณแม่ก็ยังไม่หยุดสอนเราเลย แม่สอนเรื่องกฎแห่งกรรม ธรรมะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอ สอนให้เชื่อคำสอนของพระพุทธองค์

ในฐานะที่เราเป็นแม่ ลูก คือ แรงขับเคลื่อนของแม่ มาเป็นครูให้แม่ เปลี่ยนแม่จากคนใจร้อน ให้ใจเย็น อภัยได้ทุกอย่าง ถึงลูกทำจานชามใบสวยแตก ก็อภัยให้ได้ เพราะเขาทำไปด้วยความไร้เดียงสา ลูกจะสอน และเป็นกำลังใจให้เราทำงานได้ไม่รู้จักเหนื่อย เข็นภูเขาได้ทั้งลูก ก็เพื่อลูก

ลูกอยากได้อะไร พยายามทำให้ ทำเต็มที่ ถึงเหนื่อยแค่ไหน ก็หายเหนื่อย เพราะเราทำให้ลูก ต้องขอบคุณลูกมากๆ ที่ในวันนี้ลูกก็ทำกลับมาให้เราเหมือนกัน ทำให้เรามีแรง ในแต่ละวันแค่คิดถึงลูกก็ไม่เหนื่อย เหมือนกับเรามีอีกชีวิตให้ดูแลต่ออกมา ชีวิตมีค่า และสมบูรณ์ในความเป็นคน

เป็นความดีที่ส่งต่อ จากแม่มาถึงเรา และจากเราไปถึงลูก เราทำดีกับแม่อย่างไร ลูกจะทำดีอย่างนั้นให้กับเราค่ะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

และแม่จะอยู่เป็นเพื่อนลูก ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะดีหรือไม่ ขอขอบคุณลูกๆ ทั้ง 3 คน ที่ในวันนี้ ทำให้ "แม่" ได้ทำหน้าที่ "แม่" ได้ครบถ้วน สมบูรณ์


วีรกรรมของบอม ธนิน มนูญศิลป์

•ตอนเด็กๆ บอมพลังเยอะ และซนมาก เวลาที่แม่อยากจะกอด หอม ต้องกอดจากด้านหลังของบอมเท่านั้น เนื่องจากเขาจะดิ้นไปมา บวกกับแรงที่เยอะมาก ถ้ากอดด้านหน้า แขน หรือตัวของเขาจะดิ้นโดนจนแม่เจ็บ

•กีฬาสุดโปรดของบ้านนี้ คือ เทนนิส อีกหนึ่งวีรกรรมสุดซนของบอม ที่แม่ไม่เคยลืม เชื่อไหมว่า เสาไฟฟ้าที่อยู่ในสนามเทนนิส บอมเคยปีนจนสุดเสามาแล้ว

สุขภาพของลูกๆ คือหนึ่งในภารกิจของแม่

ลูกคนโต กับลูกคนเล็ก มีปัญหาด้านสุขภาพมา (กระดูก) มาตั้งแต่เล็ก คิดว่าปัญหานี้อาจส่งผลให้ลูกมีปมด้อยในอนาคต สำหรับคนโต แม่ดูแล้วว่าไม่มีผลกระทบกับพัฒนาการของลูกเรา จึงตัดสินใจให้เขาผ่าตัดตั้งแต่ยังเล็ก

ส่วนคนเล็ก ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ สิ่งที่ทำ คือ อดทน ให้กำลังใจ และดูแลเขาให้ดีที่สุด พาเขาไปเล่นกีฬา เพื่อแก้ไขปัญหา ควบคุมน้ำหนัก เรียกว่า ยอมทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด คอยสร้างกำลังใจให้ลูก ดูแลร่างกายเขาให้แข็งแรง พร้อมดำเนินชีวิตได้ในอนาคต

จาก : Momypedia



ขอบคุณ Momypedia

สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
Create Date :26 กันยายน 2556 Last Update :26 กันยายน 2556 7:45:33 น. Counter : 3559 Pageviews. Comments :0