ฟองน้ำ .. สิ่งมีชีวิตจำพวกเดียว ในไฟลัมพอริเฟอรา
ฟองน้ำฟองน้ำ เป็นสิ่งมีชีวิตจำพวกเดียวในไฟลัมพอริเฟอรา (Porifera มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน - porus หมายถึง รู และ ferre หมายถึง พยุงหรือค้ำเอาไว้)
เป็นสัตว์หลายเซลล์ที่มีวิวัฒนาการต่ำสุด มีรูปร่างคล้ายแจกันที่มีรูพรุนเล็ก ๆ ทั่วตัวซึ่งเป็นช่องทางให้น้ำผ่านเข้าไปในลำตัว
มีเซลล์เรียงกันเป็นสองชั้น แต่ยังไม่มีเส้นประสาทและกล้ามเนื้อที่แท้จริง ไม่มีอวัยวะและทางเดินอาหาร ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในน้ำทะเล มีบางชนิดเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด
ตัวอ่อนของฟองน้ำนั้นมีเซลล์ที่สามารถว่ายได้น้ำได้ เรียกระยะนี้ว่า แอมพิบลาสทูลา (Amphiblastula) โดยจะว่ายน้ำไปเกาะตามก้อนหิน เมื่อเจริญเติบโตแล้วจะกลายเป็นฟองน้ำ ที่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
ฟองน้ำในปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 5,000 สายพันธุ์ มักพบในเขตน้ำลึกกลางมหาสมุทร (ลึกประมาณ 8,500 เมตร)
ต้นกำเนิดของฟองน้ำอาจย้อนไปถึงยุคพรีคัมเบรียน (Precambrian) หรือประมาณ 4,500 ล้านปีที่แล้ว พิสูจน์โดยซากฟอซซิลของฟองน้ำ
โครงสร้างภายใน
เป็นสัตว์ที่มีรูเล็ก ๆ ทั่วตัว มีช่องทางให้น้ำผ่านเข้าเรียกว่าออสเทีย (Ostia) ส่วนรูใหญ่ที่อยู่ด้านบนเป็นทางให้น้ำออกเรียกว่าออสคูลัม (Osculum)
ผนังลำตัวประกอบด้วยเนื้อเยื่อสองชั้น คือเนื้อเยื่อชั้นนอกเป็นเซลล์รูปร่างแบนเรียงกันคล้ายแผ่นกระเบื้อง ประกอบด้วยเซลล์เป็นปลอก มีแส้เซลล์ช่วยโบกพัดให้น้ำเคลื่อนผ่านลำตัว และทำหน้าที่กินสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่ปนมากับน้ำ เรียกเซลล์เหล่านี้ว่าเซลล์ปลอกคอ (Choanocyte)
ระหว่างเนื้อเยื่อสองชั้น จะมีชั้นกลางที่มีลักษณะคล้ายวุ้น เรียกว่าชั้นมีเซนไคม์ (Mesenchyme) ในชั้นนี้จะเซลล์ที่สามารถเคลื่อนที่และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นเซลล์อื่นได้ เรียกว่าอะมีโบไซต์ (Amoebocyte)
เช่นเปลี่ยนไปเป็นสเกลอโรบลาสต์ (Scleroblast) เพื่อทำหน้าที่ขนส่งอาหารและลำเลียงของเสีย
โครงสร้างภายนอก
โครงสร้างที่อยู่ในชั้นเซนไคม์ เรียกว่า "ขวาก" (spicule) เป็นตัวคงรูปร่างของฟองน้ำ สามารถแบ่งสารประกอบที่ใช้ในการคงรูปร่างได้เป็น 3 ชนิดคือ
ขวากหินปูน (Calacreous spicule) มีหินปูนเป็นองค์ประกอบ พบในฟองน้ำหินปูน
ขวากแก้ว (Siliceous spicule) มีซิลิกา (silica) เป็นองค์ประกอบ สปอนจิน (Spongin) ไม่อยู่ในจำพวกของ "ขวาก" แต่เป็นเส้นใยที่มีองค์ประกอบเป็นสารสเกลอโรโปรตีน (Scleroprotein)
การสืบพันธุ์
แบบไม่อาศัยเพศ
สืบพันธุ์โดยการแตกหน่อด้วยการสร้างเจมมูล (gemmule) การสร้างเจมมูลจะเกิดในฟองน้ำที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด เมื่อพบสภาวะแวดล้อมไม่เหมาะสมเช่นอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป หรือแห้งแล้งเกินไป กลุ่มเซลล์อาร์คีโอไซต์
ซึ่งเปลี่ยนแปลงมาจากเซลล์อะมีโบไซต์ ซึ่งหลังจากนั้นจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้วจึงสร้างหรือขวากมาห่อหุ้มไว้จนกลายเป็นเจมมูล ซึ่งทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดี
ถึงแม้ฟองน้ำตัวแม่จะตายไป เจมมูลจะยังคงดำรงชีวิตอยู่ได้ เมื่อสภาพแวดล้อมเหมาะสมแล้ว เจมมูลจะรวมกลุ่มกันจนกลายเป็นฟองน้ำตัวใหม่ต่อไป
แบบอาศัยเพศ
ฟองน้ำจะสร้าง sperm และไข่จากเซลล์อาร์คีโอไซต์ ซึ่งอยู่ในชั้นเวนไคม์ กระบวนการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศนั้น จะเกิดขึ้นในตัวของฟองน้ำ เมื่ออสุจิผสมกับไข่ได้จากไซโกต เจริญเติบโตจนเป็นตัวอ่อนที่ขนเซลล์สั้น ๆ รอบตัวแล้ว
ตัวอ่อนจะเคลื่อนตัวออกจากตัวแม่ผ่านทางออสคูลัม เพื่อว่ายน้ำไปเกาะตามหินและสืบพันธุ์ฟองน้ำตัวใหม่ต่อ ๆ ไป
การจำแนกหมวดหมู่
ฟองน้ำนั้นสามารถจำแนกให้เป็นหมวดหมู่ได้ โดยการสังเกตลักษณะของขวากที่แตกต่างกัน ได้เป็น 4 ชั้น (class) ดังนี้
ชั้นคัลคาเรีย (Calcarea) หรือ ฟองน้ำหินปูน ซึ่งมีขวากเป็นหินปูนรูปร่างคล้ายเข็มสามหรือสี่แฉก ฟองน้ำชนิดนี้มีลักษณะแข็งเปราะ ได้แก่ ฟองน้ำแจกัน (Scypha)
ชั้นเฮแซกทินเนลลิดา (Hexactinellida) หรือ ฟองน้ำแก้ว คือฟองน้ำหกแฉก ขวากมีองค์ประกอบเป็นซิลิกาซึ่งมีโครงสร้างสานกันเป็นตาข่าย มีรูปร่างคล้ายแจกันและมีสีสันสวยงาม
ฟองน้ำชนิดนี้อาศัยอยู่ในทะเลบริเวณน้ำลึก ได้แก่ กระเช้าดอกไม้วีนัส (Venus Flower Basket) หรืฟองน้ำสายพันธุ์ยูเพลคเทลลา (Euplactella)
ชั้นเดโมสปอนเจีย (Demospongiae) เป็นฟองน้ำที่มีลักษณะอ่อนนุ่ม ขวากมีองค์ประกอบเป็นเส้นใย ที่เป็นสารจำพวกสเกลอโรโปรตีน หรือบางชนิดอาจเป็นซิลิกาผสมใยโปรตีน ไม่มีหินปูนเป็นองค์ประกอบ
ฟองน้ำจำพวกนี้อาศัยอยู่ในทะเล และมีสีสันสวยงามได้แก่ ฟองน้ำถูตัว(Spongia) ฟองน้ำดอกเห็ด (Pterion) และฟองน้ำจืด (Spongilla)
ขอขอบคุณ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สิริสวัสดิ์ภุมวาร สิริมานภิรมย์ปรีดิ์นะคะ