วารสาร Science Advances ตีพิมพ์ผลการศึกษานักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ระบุว่า โลกของเรากำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่รอบที่ 6 โดยสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังหลายสายพันธุ์จะหายไปในอัตราที่รวดเร็วมากกว่าปกติถึง 114 เท่า รวมทั้งมนุษย์

ผลการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ,มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน และมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในสหรัฐ ระบุว่าการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่รอบที่ 6 นี้ จะเป็นการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งจะเป็นไปในอัตราที่รวดเร็วมากกว่าปกติถึง 114 เท่า ไม่มีครั้งไหนที่โลกจะสูญเสียสัตว์หลากหลายชนิดไปด้วยอัตราเร็วเช่นนี้ ต่อจากยุคการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อราว 65 ล้านปีที่แล้ว โดยมนุษย์จะเป็นสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์แรกๆ ทีจะหายไปจากโลก

ผลการวิจัยนี้มาจากการวิเคราะห์เอกสารการสูญพันธุ์ของสัตว์มีกระดูกสันหลัง หรือสัตว์ที่มีกระดูกอยู่ภายใน อาทิ กบ สัตว์เลื้อยคลาน กระทั่งเสือ จากข้อมูลฟอสซิลและข้อมูลทางประวัติศาสตร์อื่นๆ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับอัตราการสูญพันธุ์ของสปีชีส์ต่างๆ ก่อนหน้าที่จะมีกิจกรรมของมนุษย์เกิดขึ้น

แม้จะยังไม่แน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างตลอดช่วง 4,500 ล้านปีบนโลกใบนี้ ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากในการประเมิน แต่จากการผลการศึกษา ที่ชี้ให้เห็นว่าอัตราการสูญพันธุ์ตามปกติในอดีตนั้นมากขึ้นกว่าอัตราที่ประเมินกันไว้ถึง 2 เท่า แปลว่าอัตราการสูญพันธ์ในอดีตเท่ากับมีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 2 ใน 10,000 สปีชีส์สูญพันธุ์ในทุกๆ 100 ปี อัตราการสูญพันธุ์โดยเฉลี่ยของสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังในช่วง 100 ปีที่ผ่านมาก็มากกว่าช่วงที่ยังไม่มีกิจกรรมใดๆ ของมนุษย์ถึง 114 เท่าเลยทีเดียว

ขณะที่สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ IUCN ได้ออกมากล่าวว่า มีสัตว์อย่างน้อย 50 สายพันธุ์ กำลังเข้าใกล้จุดของการสูญพันธุ์ในทุกๆ ปี โดยมี 41% ของสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ และ 25% ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง





//variety.thaiza.com/