เชื่อว่าผู้บริโภคหลายท่านคงเคยกังวลกับการอุ่นอาหารแช่แข็ง (frozen food) หรือ อาหารอุณหภูมิต่ำ (chilled food) ในเตาอบไมโครเวฟ แล้วคุณค่าทางอาหารจะลดน้อยลง แถมยังกลัวด้วยว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยออกมาจากไมโครเวฟนั้นจะทำให้เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง วันนี้ เราจะพามาไขข้อข้องใจกับการรับประทานอาหารจากไมโครเวฟ กันว่าแท้จริงแล้วมันไม่ได้อันตรายอย่างที่ใครหลายคนคิด หากเรามีความเข้าใจเกี่ยวกับการปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟอย่างถูกวิธี

โดยทั่วไปแล้ว คลื่นไมโครเวฟที่เราใช้ปรุงอาหารจะมีความถี่คลื่น 2,450 ล้านรอบต่อวินาที และเมื่อคลื่นพุ่งไปกระทบอาหารจะถ่ายทอดพลังงานของมันให้โมเลกุลของน้ำทั้งในและนอกอาหารเกิดการสั่นสะเทือนเสียดสีกันเป็นความร้อน ทำให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว เมื่อคลื่นไมโครเวฟมอบพลังงานให้โมเลกุลของน้ำหมดแล้ว จะไม่มีการตกค้างหรือปะปนในอาหาร ฉะนั้น อาหารที่ทำให้สุกจากคลื่นไมโครเวฟ จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ 100% และนอกจากนี้การรับประทานอาหารแช่แข็งหรืออาหารอุณหภูมิต่ำที่นำเข้าไปอุ่นในไมโครเวฟ ยังถือเป็นวิธีถนอมอาหารอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยรักษาและถนอมคุณภาพอาหารให้คงความสด สะอาด และยังช่วยระงับการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในอาหาร อาทิ แบคทีเรีย ยีสต์ หรือรา ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายได้อีกด้วย ฉะนั้น อาหารแช่แข็ง หรืออาหารอุณหภูมิต่ำที่นำเข้าไปอุ่นร้อนในไมโครเวฟ จึงไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภค

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ไมโครเวฟอย่างถูกวิธีซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้

1.ควรเลือกภาชนะที่เหมาะสม เช่น ชามกระเบื้อง พลาสติกที่ทนความร้อนได้เกินจุดเดือด ภาชนะไม้ จานกระดาษ

2.ห้ามใช้ภาชนะโลหะทุกชนิด หรือภาชนะกระเบื้องที่มีขอบเงินขอบทอง เพราะคลื่นไม่สามารถจะพุ่งผ่านไปได้

3.ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมกับ การใช้งาน

4. เวลาอุ่นอาหารที่เป็นน้ำหรือน้ำมันควรมีฝาชี หรือพลาสติก ทนความร้อนครอบอาหารเสียก่อนเริ่มเปิดใช้เครื่อง

5. ไม่ควรนำอาหารที่มีผิวมันหรือมีเปลือกแข็งเข้าไปทำให้สุกในตู้ เพราะ ความร้อนทำให้อากาศภายในอาหาร ขยายตัดควรใช้ส้อมจิ้มผิวอาหารหรือเปลือกอาหารให้เป็นรูเสียก่อน เพื่อป้องกันการปะทุที่เกิดจากความร้อนภายในอาหารขยายตัว

6. การปรุงอาหารด้วยภาชนะที่มีฝาปิดในตัวควรเปิดฝาเล็กน้อย เพื่อให้ไอน้ำพุ่งออกได้หรือพลิกฝาปิดเพียงวางไว้เฉยๆ ไม่ปิดแน่น

ไม่เพียงแค่นั้น ผู้บริโภคไม่ควรทิ้งอาหารในไมโครเวฟนานเกินไป เช่น ถ้าต้องการอุ่นอาหาร 5 นาที หลังจากผ่านไป 2-3 นาที ควรนำอาหารออกมาคน หรือ กวน เพื่อกระจายความร้อนให้ทั่วถึง จากนั้น ค่อยนำกลับเข้าไปอุ่นใหม่ให้ครบตามเวลาที่กำหนด เนื่องจากอาหารที่ได้รับความร้อน ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจได้รับความร้อนไม่สม่ำเสมอ หรืออาหารที่ชิ้นหนาหรือใหญ่มาก คลื่นไมโครเวฟไม่สามารถผ่านเข้าไปถึงใจกลางของอาหารได้ ทำให้อาหารสุกได้ไม่เท่ากัน แบคทีเรียบางชนิดอาจยังมีชีวิต อยู่ได้ จึงควรหั่นหรือตัดอาหารให้มีขนาดเหมาะสม จัดอาหารให้กระจายห่างกัน และไม่รวมเป็นกระจุกเดียวกัน และเมื่อเราใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ควรเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อย่าปล่อยให้เศษอาหารกระเด็นค้างอยู่ในตู้เป็นระยะเวลานานๆ เพราะความเค็มของอาหารจะทำให้เหล็กตู้เป็นสนิมและเกิดเป็นรอยทะลุ ทำให้คลื่นไมโครเวฟรั่วออกมาเกิดอันตรายกับผู้ใช้ได้

ดังนั้นแล้ว ถ้าเรารู้จักใช้อย่างถูกวิธี จะมีประโยชน์มาก เพราะทั้งสะดวก รวดเร็ว ประหยัด เหมาะกับชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน ฉะนั้น อย่าลืมซื้อเครื่องที่มีมาตรฐาน มีการรับรองคุณภาพ อ่านคู่มือก่อนใช้และเลือกภาชนะที่ใช้ให้เหมาะสม หากเครื่องดีไม่มีรอยรั่ว อันตรายจากไมโครเวฟจะไม่เกิดขึ้นเลย 100%


ข้อมูลจาก สสส.