หากคุณเป็นคนที่ชอบทาน
'ดาร์กช็อคโกแลต' อาจจะสนใจ
Toak (โท-อาร์ก) ดาร์กช็อคโกแลต ที่ทำมาจากโกโก้พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของประเทศเอกวาดอร์แท่งนี้ ที่มีราคาแท่งละ 8,400 บาทค่ะ
เห็นราคาแล้วอาจตกใจจนร้องว่า 'ช็อคโกแลตอะไร ราคาตั้ง 8 พัน'
ทั้งนี้ Toak (โท-อาร์ก) เป็นดาร์กช็อคโกแลตที่ทำมาจากโกโก้ Fino y de Aroma (Arriba Nacional cacao) พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมของเอกวาดอร์ ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นโกโก้คุณภาพดีที่สุดในโลก เนื่องจากมีกลิ่นหอมและมีองค์ประกอบของรสชาติที่ซับซ้อน อีกทั้งต้นโกโก้พันธุ์ดังกล่าวหลงเหลืออยู่จำนวนไม่มาก แต่ละต้นก็อายุเป็นร้อยๆ ปีแล้ว จึงเก็บเกี่ยวผลโกโก้ได้จำนวนจำกัด ทำให้ผลิตช็อคโกแลต Toak ได้เพียง 574 แท่งเท่านั้น เจ้า Toak ก็เลยกลายเป็นช็อคโกแลตแพงที่สุดในโลกแบบแท้ๆ ( คือไม่ได้แพงเพราะเสิร์ฟพร้อมของมีค่าอย่างอื่น ) คือ ราคาจำหน่ายแท่งละ 260 ดอลลาร์หรือประมาณ 8,400 บาท น้ำหนักต่อแท่งเพียง 1.5 ออนซ์ (42.5 กรัม)
Toak เป็นภาษาเอกวาดอร์โบราณ แปลว่า ผืนแผ่นดิน และ ต้นไม้ เป็นช็อคโกแลตทำมือที่มีส่วนผสมของโกโก้บริสุทธิ์ 81% และน้ำตาลอ้อยออร์แกนิค 19% โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตที่พิถีพิถันถึง 36 ขั้นตอน เพื่อให้คงกลิ่นและรสชาติที่แท้จริงของโกโก้พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมในแถบอาร์ริบาเอาไว้ และใช้เวลาในการผลิตนาน 4-5 เดือน กว่าจะออกมาเป็นช็อคโกแลตแท่งที่มีกลิ่นและรสชาติเข้มข้นจำนวนไม่กี่ร้อยแท่ง ส่วนสาเหตุที่ตั้งชื่อช็อคโกแลตว่า Toak ทั้งยังออกแบบให้มีเมล็ดโกโก้วางอยู่ตรงกลางก็เพื่อเป็นการย้ำเตือนว่า ช็อคโกแลตไม่ได้มาจากโรงงานแต่มาจากผืนแผ่นดิน
ช็อคโกแลต Toak แต่ละแท่ง จะถูกบรรจุลงในกล่องไม้แฮนด์เมดที่ทำมาจากไม้สแปนิชเอล์ม (ชนิดเดียวกับไม้ที่ใช้ในการหมักเมล็ดโกโก้) บริเวณด้านหลังกล่องจะแกะสลักหมายเลขแท่งเอาไว้ ภายในประกอบด้วย เปลือกโกโก้, ช็อคโกแลต 1 แท่ง, คีมไม้สำหรับคีบช็อคโกแลต, คู่มือเล่มเล็กๆ หนา 116 หน้า ซึ่งจะเล่าถึงความเป็นมาของเมล็ดโกโก้ ตลอดจนขั้นตอนการผลิต พร้อมทั้งแนะนำวิธีชิมดาร์กช็อคโกแลต Toak ซึ่งมีลักษณะและขั้นตอนคล้ายๆ การชิมไวน์ โดยไล่ตั้งแต่การมองด้วยตา, ฟังเสียง (บิช็อกโกแลต), ดมกลิ่น (ใช้คีมคีบขึ้นมาดม เพราะนิ้วมือคนเรามีน้ำมัน การสัมผัสช็อคโกแลตโดยตรงจึงอาจทำให้รสชาติเปลี่ยนไป) จากนั้นก็ชิมโดยวางช็อคโกแลตลงบนลิ้นแล้วปล่อยให้ละลายในปากสัก 5-10 วินาที หากทานคู่กับไวน์หรือวิสกี้ที่ผ่านการหมักบ่มเป็นเวลานานๆ ก็จะให้รสชาติที่ดียิ่งขึ้น
ช็อคโกแลตดังกล่าวเป็นผลงานของหนุ่มอเมริกันวัย 36 ปี เจอร์รี่ ทอธ อดีตนักการเงินในชิคาโกที่ผันตัวมาเป็นนักอนุรักษ์ป่าดิบชื้น เขาย้ายไปทำงานด้านการอนุรักษ์ป่าที่เอกวาดอร์เมื่อ 8 ปีก่อน ทำให้ค้นพบต้นโกโก้พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่หลงเหลืออยู่น้อยเต็มที โดยแต่ละต้นมีอายุตั้งแต่ 100-200 ปี จึงเกิดความคิดที่จะผลิตช็อคโกแลตระดับพรีเมี่ยมจากต้นโกโก้เหล่านี้ เขาใช้เวลา 2 ปีในการวางแผนและค้นคว้าหาความรู้เรื่องโกโก้ ตลอดจนกรรมวิธีการผลิตช็อคโกแลต หลังจากนั้นจึงทุ่มเงิน 250,000 ดอลลาร์ (ราว 8 ล้านบาท) ก่อตั้งบริษัท Toak Chocolate ในปี 2013 ร่วมกับ คาร์ล ชไวเซอร์ ชาวออสเตรียที่ย้ายมาตั้งรกรากในเอกวาดอร์
ช็อคโกแลต Toak ถูกวางจำหน่ายผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทและในร้านไวน์บางแห่งที่อเมริกาเมื่อไม่นานมานี้ แม้จะได้ชื่อว่าเป็นช็อคโกแลตแท้ๆ ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก (ไม่นับรวมช็อคโกแลตโบราณที่ถูกนำออกประมูลและช็อคโกแลตที่มาพร้อมเพชร) แต่ก็ขายไปแล้วกว่า 400 แท่ง ทั้งนี้ นายเจอร์รี่ ทอธ มีแผนที่จะผลิตช็อคโกแลตให้ได้ 1,500 แท่งในปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 10,000 แท่งในปี 2018 นอกจากการผลิตดาร์กช็อคโกแลตแล้ว นายทอธยังมีเป้าหมายในการอนุรักษ์ต้นโกโก้เก่าแก่ของเอกวาดอร์ พร้อมทั้งขยายพันธุ์เพิ่มในแหล่งเดิมเพื่อรักษาเอกลักษณ์และรสชาติเอาไว้
ข้อมูลจาก paow007.wordpress.com
oakley radarlock tour de france 2013 //shop.ellepharma.it/?it-oakley-radarlock-tour-de-france-2013-20999.html
โดย: oakley radarlock tour de france 2013 IP: 192.99.14.36 16 ตุลาคม 2558 12:11:13 น.