bloggang.com mainmenu search

หลังคณะรัฐมนตรีอนุมัติการจัดซื้อแท็บเล็ต 9 แสนเครื่อง และระบุว่าจะให้ทันเดือนพฤษภาคมนี้ นักการศึกษา ก็เรียกร้องว่า ภาครัฐ ไม่ควรนำแท็บเล็ตมาใช้แทนหนังสือ ขณะที่ครูในโรงเรียนนำร่อง ยังกังวลเรื่องผลกระทบด้านสุขภาพของนักเรียน พร้อมแนะว่าจำเป็นต้องอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้แท็บเล็ตแก่ครูทั่วประเทศ เพื่อรอบรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น


ในช่วงเวลาที่โครงการแจกแท็บเล็ต ให้กับนักเรียนชั้น ป.1 ทั่วประเทศกำลังเดินหน้า หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างก็แสดงความกังวลผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ // นักการศึกษา จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ยืนยันว่า ไม่ควรนำแท็บเล็ตมาใช้แทนหนังสือเรียน เพราะจะทำให้เด็กขาดทักษะด้านการเขียน และขาดปฎิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ เนื่องจากเด็กจะจดจ้องอยู่แต่หน้าจอแท็บเล็ตเพียงอย่างเดียว

ส่วนเนื้อหาภายในแท็บเล็ต นักการศึกษาท่านนี้มองว่า จะต้องสอดคล้องกับจุดประสงค์ของโครงการ และควรตั้งคณะกรรมการขึ้นมากำกับดูแลโดยเฉพาะ เพราะเป็นเรื่องใหม่ของแวดวงการศึกษาไทย ซึ่งอาจเกิดปัญหารายวัน และทำให้โครงการนี้ไม่ประสบความสำเร็จ

หลังจากทดลองใช้แท็บเล็ตมากว่า 1เดือน ครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/4 โรงเรียนอนุบาลสามเสน ยอมรับว่าแท็บเล็ตทำให้เด็กๆ รู้ตื่นตัวในการเรียนมากขึ้น เนื่องจากสีสันและภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอ ดึงดูดความสนใจได้ดีกว่าตัวหนังสือ

แต่กังวลผลกระทบด้านสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปัญหาสายตาจากแสงสว่างบนหน้าจอ / การปวดใบหูเพราะถูกเฮด โฟนบีบ และอาการเจ็บต้นคอจากการก้มมองหน้าจอเป็นเวลานาน พร้อมแนะว่าจำเป็นต้องอบรมให้ความรู้เรื่องการใช้แท็บเล็ต แก่ครูทั่วประเทศ เพื่อรองรับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น

โครงการ One Tablet PC per Child เป็นนโยบายหนึ่งของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการส่งเสริมให้เยาวชนไทย มีความพร้อมทั้งด้านวิชาการ และเทคโนโลยี โดยในปีการศึกษา 2555 นักเรียนชั้น ป.1 ทั่วประเทศกว่า 8แสน 6หมื่นคนจะได้รับแท็บเล็ตคนละ 1เครื่อง รวมทั้งยังมีแนวทางที่จะแจกแท็บเล็ต ให้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ทั่วประเทศอีกระดับชั้นหนึ่งด้วย เพื่อให้เยาวชนไทยก้าวขึ้นสู่ระดับแนวหน้าในประชาคมอาเซียน

Produed by VoiceTV

by weeranan

Create Date :23 มีนาคม 2555 Last Update :23 มีนาคม 2555 7:39:27 น. Counter : Pageviews. Comments :0