bloggang.com mainmenu search
หลังจากที่ตะลอนขึ้นเหนือล่องใต้มาหลายฉบับ ผมก็มีโอกาสกลับมายังสถานที่ที่คุ้นเคยใกล้ๆบ้านซึ่งก็คือ เขาใหญ่เป็นฉบับสุดท้ายส่งท้ายปี 2552 พอดี สำหรับผมถึงแม้จะมีโอกาสมาเขาใหญ่ ปากช่อง หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยรู้สึกเบื่อ โดยเฉพาะช่วงที่ผมไปเยือนในครั้งนี้ อากาศกำลังหนาว เป็นช่วงต้นฤดูหนาวที่ฟ้าใสและต้นไม้ยังเขียว มองไปทางไหนก็สบายตา ยิ่งช่วงเช้าๆได้สัมผัสแดดอ่อนๆพร้อมๆกับรับลมหนาว และได้สูดอากาศบริสุทธิ์ เหมือนเป็นการชาร์ตพลังให้กับชีวิต จุดประสงค์พิเศษของทริปๆนี้นอกเหนือจากการมาพักผ่อน ท่องเที่ยวคือการทดสอบกล้องใหม่และเลนส์ใหม่ของผมครับ หลังจากที่เจ้า Nikon D80 กล้องตัวเดิมส่งเข้าศูนย์ซ่อมไปเรียบร้อย ผมก็ตัดสินใจถอยกล้องตัวใหม่และเลนส์ใหม่เป็นของขวัญปีใหม่ล่วงหน้าให้ตัวเองทันที เป็น D90 และเลนส์ค่ายตัวแรก 50 1.4 โดยเก็บเจ้า D80 เป็นกล้องสำรอง และสถานที่พักที่ผมเลือกในการมาเขาใหญ่ในครั้งนี้ก็มาจากข้อมูลและรีวิวในห้อง Blue Planet เป็นโรงแรมเล็กๆขนาด 14 ห้องพักที่เปิดมาได้ไม่นานที่ชื่อว่า Hotel Del Artists ซึ่งได้รับการออกแบบและตกแต่งได้สวยงาม น่าอยู่ และในฉบับยังมีภาพของสถานที่อื่นๆ เช่น Primo Posto, Palio, Kirimaya และ Outlet Village เพื่อให้ได้บรรยากาศของสถานที่หลายๆแห่งบริเวณเขาใหญ่ ปากช่อง

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E8706565/E8706565.html

ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับส่งท้ายปี 2552 ซึ่งเป็นฉบับที่สองของเดือนธันวาคม กับการต้อนรับลมหนาวในบรรยากาศธรรมชาติที่ Hotel Des Artists และสถานที่อื่นๆในบริเวณเขาใหญ่


สถานที่แรกที่ผมจะพาไปชมซึ่งผมเชื่อว่าหลายๆคนคงคุ้นตากันดีคือ Primo Posto Del Khaoyai ซึ่งอยู่บนถนน ผ่านศึก-กุดคล้า ไม่ไกลจากถนน ธนะรัชต์


ที่จริงแล้วผมคงจะเชยที่จะบอกว่า นี่คือครั้งแรกของการเข้ามาเยือน Primo ของผมหลังจากสถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับจุดหมายของตากล้องและนักท่องเที่ยวมานาน


การไปเยือนพรีโม นอกจากจะได้ดูการออกแบบตัวอาคารที่สวยงาม ยังได้ดูการออกแบบสวนด้วยครับ รวมถึงสวนองุ่นที่อยู่ด้านหลัง


นักท่องเที่ยวเข้ามาถ่ายภาพ ชมบรรยากาศ และทานอาหารที่นี่อย่างไม่ขาดสาย


ตัวตึกสีสันสดใสกับต้นไม้ดอกไม้ที่ทำให้ยิ่งดูสดชื่น


ช่วงที่ผมไปอากาศดีมากครับ แดดดีแต่ไม่ร้อนมาก สีของท้องฟ้าตัดกับสีของตัวตึกได้อย่างสวยงาม ในการเข้าชม ต้องแลกซื้อคูปอง 55 บาทซึ่งสามารถนำไปใช้ซื้ออาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีมข้างใน ซึ่งก็เหมือนกับเข้าฟรีโดยต้องไปซื้ออาหารข้างใน ที่นี่จะเปิดเฉพาะศุกร์เสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์


ต่อไปมาชมสถานที่พักที่ผมเลือกเข้าพักในครั้งนี้ เป็นโรงแรมเล็กๆชื่อว่า Hotel Des Artists บนถนนธนะรัชต์ ก่อนถึงทางแยกไปวังน้ำเขียว


ตัวอาคารสีขาวสบายตา มีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือขนานไปกับความยาวของห้อง


ห้องพักที่นี่มีชั้นบนและชั้นล่าง ซึ่งมีจุดเด่น จุดด้อยต่างกัน ห้องชั้นล่างเป็นห้องหมายเลข 1-6 (จากขวาไปซ้าย) และห้องชั้นบนหมายเลข 7-12 (จากขวาไปซ้ายเช่นกัน) ห้องชั้นล่างจะลงสระได้สะดวก ส่วนห้องชั้นบนมีความเป็นส่วนตัวที่ระเบียงและเห็นวิวมุมสูงกว่า


ด้านหน้าของรีสอร์ทซึ่งเป็นส่วนของ lobby จะมีห้องพักอีกสองห้องบนชั้นสองคือห้อง 13 และ 14 ซึ่งจะไม่เห็นวิวสระว่ายน้ำ


มีสระน้ำเล็กๆ สามารถขับรถมาโหลดสัมภาระและวนสระนี้


ภายใน lobby ที่ตกแต่งได้สวยงาม


บริเวณห้องพักที่ชั้นล่าง จะมีหมายเลขห้องพักที่ประตูห้อง


ผมจะพาขึ้นไปชมชั้นบนของโรงแรม


ภาพบรรยากาศที่ชั้นบน


ทางเดินไปยังห้องพัก


ที่นั่งเล่นซึ่งมีอยู่หลายๆจุดในโรงแรม


ห้องโถงที่ชั้นบนไว้สำหรับนั่งเล่นอ่านหนังสือ


โต๊ะตัวใหญ่ที่ชั้นบน เห็นวิวต้นไม้ ภูเขาโดยรอบ


ผมชอบการออกแบบและลวดลายของประตูเป็นพิเศษ


ถึงจะเป็นโรงแรมเล็กๆแต่มีมุมให้ถ่ายภาพหลายๆมุม เพลินดีครับ


มุมเดิมแต่ลองเปลี่ยนเลนส์อีกตัวหนึ่ง


บรรยากาศที่โต๊ะตัวยาวบนชั้นสอง ภาพนี้กับภาพบนเป็นผลงานของเลนส์ตัวใหม่ 50 1.4 ซึ่งควบคุมชัดตื้น ชัดลึกได้สะดวกดีครับ


มาดูห้องพักของผม ห้องหมายเลข 7 บนชั้นสองห้องริม


เข้าไปถึงจะเจอห้องน้ำทางด้านขวา และชั้นวางของ ตู้เย็นทางด้านซ้าย


เตียงนอนสีขาว สะอาดน่านอน


มี LCD TV และเครื่องเล่น DVD


บรรยากาศโดยรวมในห้องพัก


ระเบียงห้องพักที่เห็นวิวภูเขาและสระว่ายน้ำ


ผมชอบโคมไฟที่หัวนอนเป็นพิเศษ สวยดีครับ


ภาพจากประตูทางเข้าอีกภาพ พื้นที่ในห้องเล็กไปนิด ไม่มีมุมให้นั่งเล่น นอนเล่นมากนัก


เตียงนอนนุ่มน่านอน ช่วงที่ผมไปมีบริการเสริฟชา และขนมหลังจาก check in


จากภายในห้อง ถ้าเปิดประตูจะเห็นห้องโถงด้านนอก


โคมไฟสวยๆอีกภาพ พอตกเย็นจะมีบริการเสริฟชาและ บราวนี่ ชอบบราวนี่ของที่นี่มากครับ พอ2-3 ทุ่มยังมีบริการเสริฟนมร้อนอีก บริการดีมากจริงๆ


ภายในห้องน้ำ ห้องน้ำค่อนข้างเล็ก ไม่มีอ่างอาบน้ำ


แต่ก็ตกแต่งได้สวยงาม น่าใช้


บรรยากาศยามเช้าที่ระเบียงห้องพัก


นั่งรับแดดอ่อนๆ และลมเย็นของต้นฤดูหนาว เห็นวิวภูเขาและสระว่ายน้ำด้านล่าง ที่ f1.4 หลังละลายได้ดั่งใจจริงๆ


บานประตูที่นี่ถูกออกแบบให้ใหญ่กว่าปกติ แต่ช่องประตูยังคงขนาดประมาณช่องประตูทั่วไป


ลงไปชมบรรยากาศด้านล่างและไปทานอาหารเช้าครับ


อาหารเช้าเป็นเซ็ตให้เลือกมีทั้ง ABF หรือข้าวต้ม โดยมีปาท่องโก๋ และผลไม้เป็นบุฟเฟ่


บรรยากาศดีๆ บริเวณสระว่ายน้ำ


ถ้าช่วงที่แขกเยอะๆ ในหน้าร้อน สระว่ายน้ำและห้องชั้นล่างคงไม่ส่วนตัวมากนัก


ที่นั่งเล่นใกล้ๆสระว่ายน้ำภายในบริเวณโรงแรม


ผมปิดท้ายภาพของ Hotel Des Artists ด้วยภาพนี้ครับ บรรยากาศช่วงพลบค่ำที่หน้าโรงแรม


จุดหมายต่อไปที่ผมจะพาไปชมเป็น walking street แห่งใหม่ของเขาใหญ่ที่ชื่อว่า Palio อยู่ติดกับจุลดิศ บนถนนธนะรัชต์


ช่วงที่ผมไปปลายเดือนพฤศจิกายน สถานที่แห่งนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่ก็เปิดให้เข้าไปชมถ่ายภาพได้ครับ เริ่มมีร้านเปิดบริการ


ลักษณะการออกแบบตัวอาคารของ Palio แนวเดียวกับ Primo Posto และได้บรรยากาศภูเขาคล้ายๆกัน


บรรยากาศภายใน Palio ที่สวยงาม น่าเดินเล่น ถ้าเสร็จสมบูรณ์คงยิ่งสวยกว่านี้มาก


ด้านหน้าของ Palio


ถ้ามาเดินเล่นที่นี่ช่วงอากาศหนาวๆอาจจะเผลอนึกว่ากำลังเดินเล่นอยู่เมืองนอกได้


ไม่ว่าเดินไปมุมไหน ก็น่าถ่ายภาพไปหมด


ถ้าสถานที่แห่งนี้เสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ คงเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อมาถ่ายภาพ เดินเล่น shopping อีกแห่งหนึ่งของเขาใหญ่


ต่อไปผมจะลองนำเลนส์ตัวใหม่ไปถ่ายภาพอาหารที่ห้องอาหาร T-Grill ซึ่งอยู่ในอาคาร clubhouse ของคีรีมายา


ช่วงบ่ายๆของที่นี่จะมีเสริฟ afternoon tea และขนม ภาพนี้ถ่ายจากเลนส์ตัวเดิม Tokina ที่ 16 mm f2.8


ลองใช้เลนส์ตัวใหม่ 50 1.4 ที่ f1.4


อีกภาพครับ ถ่ายภาพอาหารจากแสงธรรมชาติถ่ายยากพอสมควร


พาไปชมบรรยากาศในส่วนรีสอร์ทบริเวณห้องพักของ Kirimaya


ผมชอบการออกแบบทั้งส่วนที่เป็นอาคารและ landscape ของที่นี่มากครับ ถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปีก็ยังดูดีอยู่เสมอ


ห้องอาหาร Acala การมาเยือนคีรีมายาครั้งนี้ได้รับการบริการที่ดีจากพนักงานทุกๆคน จนทำให้ลืมความขุ่นเคืองที่มีต่อรีสอร์ทแห่งนี้เมื่อสองสามปีก่อนไปได้เยอะทีเดียว


สถานที่สุดท้ายที่ผมจะพาไปชมคือ Outlet village บนถนนมิตรภาพ ผ่านทางนี้ทีไรมักจะแวะเดินเล่นอยู่เสมอ


ชอบการออกแบบของที่นี่เช่นกัน สีสันสดใส


ภาพ outlet ทั้งสามภาพนี้ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้จากเจ้า D80 ตัวเดิมครับ


ปิดท้ายด้วยภาพจากปกเช่นเคย จุดหมายยอดฮิตของหลายๆคนในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เมื่อเดินทางมาเขาใหญ่ Primo Posto del Khaoyai


ถึงแม้ผมจะมีโอกาสได้ไปเขาใหญ่ ปากช่องหลายต่อหลายครั้งในทุกฤดู ผมก็ยังรู้สึกอยากกลับไปที่นี่อยู่เสมอ คงเป็นเพราะความเป็นธรรมชาติ มีสถานที่หลายๆแห่งให้แวะชมและแวะทาน มีที่พักใหม่ๆไว้ให้เลือกใช้บริการ สำหรับที่พักที่ผมเลือกในครั้งนี้เป็นโรงแรมขนาดเล็กที่ออกแบบได้ดี ถึงแม้ผมจะเข้าพักเพียงคืนเดียวแต่ก็รู้สึกได้ถึงความตั้งใจบริการที่พยายามอำนวยความสะดวกทุกๆอย่าง ลองมาดูสรุปจุดเด่น จุดด้อยของโรงแรมแห่งนี้ในมุมมองของผม

จุดเด่น
- การออกแบบของโรงแรมทำได้ดีทั้งตัวอาคาร การตกแต่งภายใน ทำให้ห้องพักน่าอยู่
- มีการบริการที่ดี เสริฟชา ขนมในช่วงบ่ายและเสริฟนมร้อนตอนกลางคืน
- มีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ มีที่นั่งเล่นหลายๆมุมในโรงแรม
- การเดินทางสะดวก อยู่บนถนนธนะรัชต์ก่อนถึงด่านขึ้นเขาใหญ่
- ห้องชั้นล่างลงสระได้สะดวก ส่วนห้องชั้นบนเป็นส่วนตัวที่ระเบียงมากกว่า
- ได้บรรยากาศธรรมชาติของต้นไม้และภูเขา

จุดด้อย
- ห้องพักค่อนข้างเล็ก มีพื้นที่ใช้สอยน้อย ห้องน้ำเล็ก
- สระว่ายน้ำไม่เป็นส่วนตัวมากนักเพราะอยู่หน้าห้องพัก
- ห้องพักชั้นล่างไม่ค่อยเป็นส่วนตัวที่ระเบียง (แต่ลงสระว่ายน้ำได้สะดวก)

ห้องพักหมายเลข 13 และ 14 ถึงแม้จะเป็นห้องชั้นบน แต่จะไม่เห็นวิวสระว่ายน้ำเพราะอยู่ด้านหน้าโรงแรมแต่ก็ไม่ติดถนนมากนัก ห่างจากถนนพอสมควร ถ้ามีเด็กๆ ผู้สูงอายุ หรือเน้นเล่นน้ำควรเลือกห้องพักชั้นล่างจะสะดวกกว่าครับ ส่วนห้องชั้นบนจะมีความเป็นส่วนตัวมากกว่า จากการไปเยือนเขาใหญ่ในครั้งนี้ ผมขอขอบคุณ คุณปอมและพนักงานของ Hotel Des Artists ทุกๆคน พนักงานของคีรีมายา ที่บริการได้อย่างดี มีโอกาสคงได้กลับไปเยือนรีสอร์ททั้งสองแห่งนี้อีก และคงหาโอกาสกลับไปเดินเล่นที่ Primo Posto และ Palio ซึ่งคงเป็นจุดหมายแห่งใหม่ของเขาใหญ่หลังจากที่เสร็จสมบูรณ์

ขอบคุณรีวิวของ Hotel Des Artists จากคุณ coopers2006 คุณรันเซ่จัง คุณninabella คุณรุ้งดาว คุณi_picnic และ คุณjudgee

สุดท้ายคงต้องกล่าวอำลาปี 2552 และสวัสดีปีใหม่ปี 2553 เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ที่ดีด้วยการเริ่มใช้ปฏิทิน Blue Planet ที่มาจากแรงกาย แรงใจของทีมงามหน้าตาดีและกองเชียร์หน้าตาดีทุกคน รวมถึงฝีมือการออกแบบและเจ้าของผลงานภาพด้วยครับ ขอบคุณทีมงานทุกๆคนอีกครั้งที่สละเวลา แรงงาน ความรับผิดชอบ มาทำปฏิทินสวยๆให้พวกเราได้ใช้กัน

หนึ่งปีที่ผ่านมา อาจจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและความทุกข์สำหรับหลายๆคน ไม่ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร ผมขออวยพรให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงเป็นปีแห่งความสุขและความสำเร็จ คิดสิ่งใดขอให้สมปราถนา มีเวลาเที่ยวเยอะๆ และสุขภาพแข็งแรง ด้วยความขอบคุณสำหรับทุกๆกำลังใจที่มีให้กันตลอดมา ไว้เจอกันใหม่ปีหน้าครับ
Create Date :27 ธันวาคม 2552 Last Update :9 กุมภาพันธ์ 2553 10:59:15 น. Counter : Pageviews. Comments :156