bloggang.com mainmenu search
ผมขออนุญาตวางแผง นิตยสารสำหรับเดือนนี้เป็นครั้งที่ 2 ครับ หลังจากที่ผมพักที่ต้นน้ำละคอง เมื่อกลางเดือนมิถุนาที่ผ่านมา ผมเลยไปต่อที่สักภูเดือนครับ ผมเคยไปพักที่สักภูเดือนมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นผมพักบนตัวตึกครับ เลยตั้งใจไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะลองไปพักแบบ cottage บ้าง ที่นี่ห้องพักจะมี 2 สไตล์ คือ ห้องพักบนตัวตึก บรรยากาศโรงแรมแต่ได้วิวมุมสูงเห็นภูเขา ใกล้สระว่ายน้ำ ห้องอาหาร กับอีกแบบคือ แบบ วิลลาหรือ cottage อยู่กลางสวน ได้บรรยากาศแบบรีสอร์ท ที่พักทั้งสองแบบราคาเท่ากันครับ แต่มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน บรรยากาศโดยรวมของที่นี่ถือว่าดีพอสมควรครับ เห็นวิวภูเขา บริเวณกว้างขวาง มีข้อติอยู่บ้างครับเกี่ยวกับการออกแบบที่พัก ลองมาดูภาพของที่นี่ในมุมมองของผมครับ

ผมขออนุญาตวางแผงนิตยสาร ชานไม้ชายเขา ฉบับที่ 5 ครับ


ก่อนที่จะไปชมสักภูเดือน ผมพาไปชม outlet village ซักหน่อยครับ ผมแวะที่นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ผมก็จำไม่ได้ ส่วนมากจะมาเดินเล่น ไม่ค่อยได้ซื้ออะไรครับ


บรรยากาศใน outlet วันที่ผมไปเป็นวันธรรมดา คนมาเดินไม่เยอะ ช่วงวันหยุดคนมาเดินกันเยอะกว่ามากครับ


หลังคาบางส่วนใน outlet ผมมาที่นี่จะชอบแวะซื้อ พายองุ่นกลับไปทาน


outlet ที่นี่เขาออกแบบได้ดีมากครับ น่าเดินเล่น ยิ่งถ้ามาตอนหน้าหนาว เหมือนเดินเล่นอยู่ใน outlet เมืองนอก


ไปต่อที่สักภูเดือนเลยครับ ตัวรีสอร์ทเข้าไปทางแยกเขาใหญ่(ถ.ธนะรัตน์)ไม่ไกล จากนั้นต้องเลี้ยวขวาตามป้ายเข้าไปอีกไม่กี่กิโล ก็ถึงสักภูเดือนครับ


ผมพามาดูห้องพักแบบแรกก่อนครับ แบบ cottage


ห้องพักแบบนี้จะอยู่เป็นคู่ครับ ห้องข้างหน้ามีระเบียง กับห้องข้างหลังติดที่จอดรถและไม่มีระเบียง ราคาห้องพักเท่ากัน ห้องข้างหลังเท่าที่ดูจากภายนอกจะกว้างกว่าครับ แต่ไม่ส่วนตัวเพราะเป็นทางผ่านเพื่อไปห้องข้างหน้า แขกส่วนมากก็จะเลือกห้องข้างหน้าครับ เพราะมีระเบียงนั่งเล่นกว้าง ภาพนี้ถ่ายจากห้องข้างหลังไปยังห้องข้างหน้าครับ


ที่สักภูเดือน จะมีที่พักแบบ cottage หลายสิบห้อง(ประมาณ 60-70 ห้อง) ครึ่งหนึ่งเป็นห้องที่มีระเบียง ในบรรดาห้องที่มีระเบียง ส่วนมากจะเป็นแบบ garden-view จะมีเพียงไม่กี่ห้องที่ เห็นวิวภูเขาจากมุมสูง แบบ mountain-view อย่างนี้ครับ


ห้องที่ผมพักหมายเลข CT38 ถ้าชอบห้องที่เห็นวิวภูเขาสวยๆ ผมว่า ห้อง CT34, CT36, CT38 วิวดีครับ ในภาพระเบียงหน้าห้องที่ผมพัก CT38 และ ห้องข้างๆคือ CT 36


ภาพนี้ถ่ายจากสนามข้างล่างครับ


มาดูภายในห้องบ้างครับ พอเปิดประตูเข้าไป ด้านซ้าย มีตู้เก็บของ ตู้เย็น กระจก ด้านขวาเป็นห้องน้ำครับ


เตียงนอนน่านอน ที่ผมชอบคือ ผ้าห่มเป็นผ้านวมแบบใส่ปลอก ห่มสบาย


ตรงข้ามกับเตียงจะเป็น ทีวีครับ


ระเบียงห้องตอนใกล้ค่ำ บรรยากาศดี


จากระเบียงห้องมองเข้าไปในห้องครับ


เบื้องหลังของภาพนี้คือ ผมต้องมานั่งตบยุงในห้องครับ ไฟจากเพดานในห้องสามารถหรี่ได้


ตอนที่ผมไปละแวกนั้นไม่มีแขกมาพักเลยครับ เลยเป็นส่วนตัว แต่ถ้าช่วงเทศกาล มีคนมาพักเยอะๆ บรรยากาศที่ระเบียงคงไม่ส่วนตัวเท่าไหร่ ระเบียงห้องที่เห็นคือ CT40 ครับ อยู่ต่ำลงไปหน่อย


ภาพของสวนหน้าห้อง cottage ที่เป็นแบบ garden-view


ห้องนอนตอนกลางวันครับ


ซ้ายเป็นตู้เก็บของ ขวาเป็นตู้เย็น กระจกครับ


ภาพนี้ในห้องน้ำ ไม่มีอ่างไม่เป็นไรครับแต่ห้องน้ำที่นี่ธรรมดามากๆ ผมค่อนข้างจะผิดหวังเล็กๆ เขาน่าจะทำห้องน้ำให้มีลูกเล่นมากกว่านี้


เตียงนอนอีกมุมนึงครับ


ต่อไปมาดูห้องบนตัวตึกครับ มีทั้งหมดสามชั้น วิวดีครับเวลาจองคงต้องระบุด้านให้ดีนะครับ เพราะอีกด้านหนึ่งของตึกจะไม่เห็นวิวอะรมาก


ห้องพักบนตัวตึก ตัวห้องจะเหมือนโรงแรมทั่วไปครับ เป็นเตียง 2 เตียง


มีโซฟานั่งเล่น ทีวี โต๊ะทำงาน กระจก


มองย้อนกลับมาที่ประตู เหมือนแปลนโรงแรมทั่วไป ในห้องน้ำมีอ่างด้วยครับ


จุดเด่นของห้องประเภทนี้อยู่ที่วิวจากระเบียงห้องครับ ห้องที่ผมพักหมายเลข 323 มีข้อติอยู่หน่อยนึงครับ ที่ระเบียง มี compressor ของแอร์วางอยู่ มีการล้อมคอกไว้ด้วยครับ ผมว่าน่าจะมีการออกแบบให้ซ่อนตัว compressor ให้ดีกว่านี้ และที่ระเบียงน่าจะมีเก้าอี้หรือโต๊ะนั่งเล่นด้วยครับ


บริเวณสระว่ายน้ำในรีสอร์ท บรรยากาศดีครับ


ปิดท้ายภาพจากสักภูเดือนด้วยภาพนี้ครับ คอกม้าของรีสอร์ทที่บริเวณปากทางเข้า ม้าตัวนี้เหมือนรู้ว่ากำลังเป็นนายแบบ


โดยสรุปแล้ว ที่นี่เป็นรีสอร์ทใหญ่ มีห้องพักเยอะ บริเวณกว้าง รองรับแขกได้จำนวนมาก บรรยากาศที่นี่ถือว่าใช้ได้ครับ ยิ่งถ้าได้มาหน้าหนาว บรรยากาศคงดีกว่านี้มาก ในส่วนอาหารเช้าก็ธรรมดาครับเป็นบุฟเฟ่ แต่มีอาหารไม่กี่อย่าง อาจจะเป็นเพราะวันที่ผมไปแขกไม่เยอะ ที่ผมชอบอีกอย่างของที่นี่คือ มินิบาร์ในห้องพัก มีน้ำอัดลม 2-3 กระป๋อง ขนม มันฝรั่ง ฟรีครับนานๆ ได้เจอห้องพักให้ทานมินิบาร์ฟรี ส่วนที่พักบนตัวตึกและที่พักแบบ cottage จะมีข้อดีข้อเสีย แตกต่างกัน ลองมาดูลักษณะของห้องพักแต่ละแบบครับ

ห้องพักแบบ cottage
1. ห้องที่มีระเบียง(ห้องเลขคู่) จะมีระเบียงกว้าง สบาย
2. ได้บรรยากาศรีสอร์ท อยู่ท่ามกลางต้นไม้ กลางสวนไม้ประดับ
3. สามารถขับรถไปจอดใกล้ๆห้องพักได้เลย
4. ผ้าห่มเป็นผ้านวมแบบใส่ปลอก ห่มสบายดีครับ
5. พื้นไม้ ครับไม่ต้องกลัวฝุ่นจากพรม

6. ห้องส่วนมากเป็นแบบ garden-view มีเพียงไม่กี่ห้องที่เป็น แบบ mountain-view จากมุมสูง
7. ถ้าช่วงเทศกาลมีแขกมาพักเยอะ ระเบียงห้องจะไม่ส่วนตัวเท่าไหร่
8. ห้องน้ำธรรมดามากๆครับ
9. ห้องที่ไม่มีระเบียง (ห้องเลขคี่) ห้องกว้างกว่าแต่ไม่ส่วนตัว เพราะเป็นทางผ่านไปยังห้องข้างหน้า


ห้องพักบนตัวตึก
1. ห้องชั้นบนๆส่วนมาก ที่ระเบียงห้องพัก วิวดี เห็นวิวภูเขาครับ
2. ระเบียงห้องบนตัวตึกจะส่วนตัวกว่าระเบียงห้องแบบ cottageครับ
3. ห้องกว้าง ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ
4. ใกล้สระว่ายน้ำและห้องอาหาร

5. ตัวแปลนห้องเหมือนโรงแรมทั่วๆไป
6. มี compressor อยู่ที่ระเบียงห้อง ไม่มีเก้าอี้หรือโต๊ะที่ระเบียงห้อง
7. ต้องเดินขึ้นบันได ไม่มีลิฟต์
8. พื้นเป็นพรมครับ เดินนุ่มดี แต่ถ้าเป็นภูมิแพ้อาจจะไม่ชอบ


โดยส่วนตัวผมถ้าได้ราคาในงานไทยเที่ยวไทย ราคาพันกว่าบาทก็ถือว่าคุ้มค่าครับ แต่ถ้าเป็นราคาเต็มของรีสอร์ท คงต้องไปตอนหน้าหนาว บรรยากาศดีจริงๆ และอย่างตัวห้องพักต้องเลือกให้ดีครับ ห้อง cottage เลขคี่ไม่ค่อยน่าพัก ห้อง cottage เลขคู่ส่วนมากจะเป็นแบบ garden-view ห้อง cottage ที่ระเบียงเห็นวิวภูเขาสวยๆมีอยู่ไม่กี่ห้อง ส่วนห้องบนตัวตึกตอนจองต้องระบุว่าขอด้านที่เห็นวิวสวยๆ นะครับ เพราะบางห้องจะไม่ค่อยเห็นวิวอะไรมาก หวังว่าข้อมูลเหล่านี้คงเป็นประโยชน์ในการเลือกที่พักที่นี่ อีกสองสามฉบับข้างหน้า ผมขอเปลี่ยนบรรยากาศพาไปชมที่พักของรีสอร์ทใกล้ทะเลบ้างครับ

Create Date :26 มิถุนายน 2550 Last Update :3 พฤศจิกายน 2550 18:09:20 น. Counter : Pageviews. Comments :41