bloggang.com mainmenu search
หลังจากที่ไม่ได้วางแผงนิตยสารรีสอร์ทที่ประจวบคีรีขันธ์มาปีกว่า ผมมีโอกาสกลับไปเที่ยวทะเลจังหวัดนี้อีกครั้งที่อำเภอปราณบุรี และเข้าพักในรีสอร์ทหรูแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า อลีนตา จากที่ผมเคยพักรีสอร์ทชื่อนี้มาครั้งหนึ่งเมื่อปีก่อนแต่เป็นรีสอร์ท อลีนตาที่ ภูเก็ต-พังงา ทำให้การเข้าพักอลีนตา ปราณบุรีในครั้งนี้เป็นการย้ำความประทับใจจากรีสอร์ทในชื่อนี้อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นความประทับใจจากการออกแบบห้องพัก บรรยากาศในรีสอร์ทและการบริการที่ดีจากพนักงานทุกๆคน ในส่วนของ Aleenta Pranburi จะแยกรีสอร์ทออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็นส่วนหลักที่เรียกว่า Resort wing ประกอบด้วยห้องพักส่วนใหญ่ซึ่งมีหลายแบบ ห้องอาหารและส่วนอำนวยความสะดวกต่างๆเช่นห้องอินเตอร์เน็ต ห้องชมทีวี ส่วนที่สองเรียกว่า Frangipani Wing (หรือเรียกว่าฝั่งบ้านส้ม) ซึ่งอยู่ไม่ไกลกัน (แต่ถ้าเดินจะไกลพอสมควร) มีห้องพักอยู่เพียง 5 ห้องซึ่งถูกออกแบบต่างกันทั้งหมด ในส่วนนี้ยังมีส่วนของสปาที่ใช้ชื่อว่า Spa One อยู่ใกล้ๆกันกับส่วนของห้องพัก การเดินทางระหว่างสองส่วนนี้สามารถใช้บริการรถกอล์ฟของทางรีสอร์ท

ผมมีโอกาสเข้าพักทั้งสองส่วน โดยในส่วนของ Resort wing เป็นห้องพักแบบ Pool Suite ส่วน Frangipani Wing ผมได้เข้าพักในห้องพักแบบ Frangivaree 205 ซึ่งทั้งสองส่วนนี้มีจุดเด่นและจุดด้อยที่ต่างกัน ส่วนจุดร่วมที่เหมือนกันคือความสะดวกสบายภายในห้องพัก การออกแบบที่ทำให้ห้องพักน่าอยู่น่าพักผ่อน บรรยากาศที่ใกล้ชิดติดทะเล เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินเล่นริมชายหาด ส่วนจุดด้อยคงเป็นที่ความเป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก มีบริเวณไม่กว้างและมีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่มากเท่ารีสอร์ทขนาดใหญ่ทั่วไป เช่นสระว่ายน้ำส่วนกลางที่ฝั่ง Resort wing มีขนาดเล็กและไม่ส่วนตัวมากนัก ลองมาชมภาพจากการไปเยือนชายหาดปราณบุรีและรีสอร์ทที่ใช้ชื่อ อลีนตา ครั้งที่สองของผม

ผมขอวางแผงนิตยสาร online ชานไม้ชายเขา ฉบับเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นฉบับที่ 64 กับ Aleenta Pranburi รีสอร์ทที่อบอุ่น น่าอยู่ ใกล้ชิดกับหาดทรายและทะเล ที่สามารถนอนฟังเสียงคลื่นได้จากระเบียงห้องพัก


ผมเริ่มจากส่วนของ Resort Wing ซึ่งเป็นส่วนหลักของรีสอร์ทก่อนนะครับ รีสอร์ทแห่งนี้หันเข้าหาทิศตะวันออก ทำใหช่วงเช้าๆบรรยากาศดีมากครับ ในภาพเป็นบริเวณสระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท


สามารถแช่น้ำไปชมทะเลไป บรรยากาศดีมากๆ ยังมี Jacuzzi ภายในสระ


ห้องพักแบบ Beach House ซึ่งมีเพียงสองห้อง ในภาพเป็นห้องชั้นบน ห้อง Sky มีที่นั่งเล่นชมทะเลดูบนดาดฟ้า ส่วนห้องชั้นล่างห้อง Earth จะมีสระเล็กๆที่มี Jacuzzi ที่หน้าห้อง


ข้ามมาช่วงหัวค่ำ ช่วงที่ผมไปพระจันทร์สวยมากๆครับ บรรยากาศที่สระส่วนกลาง


ช่วงหัวค่ำถ้าฝนไม่ตก จะมีเทียนช่วยสร้างบรรยากาศในบริเวณรีสอร์ท


ภาพจากมุมสูงภายในรีสอร์ท ทั้งแสงจันทร์และแสงสะท้อนที่ผิวน้ำทำให้บรรยากาศในรีสอร์ทคืนนั้นโรแมนติกมากครับ


ส่วนมากผมจะมีโอกาสได้ถ่ายภาพทะเลกับพระอาทิตย์ แต่บรรยากาศทะเลกับพระจันทร์ในคืนนั้นสวยมากครับ ดูสวยแบบเย็นๆ โรแมนติก


ต่อไปมาชมในส่วนของห้องพักในส่วนของ Resort Wing ที่ผมเข้าพักคือห้องพักแบบ Pool Suite ที่อยู่ติดชายหาด ภาพนี้ภายในห้องนอน


พื้นที่ในห้องไม่กว้างมากครับ บริเวณห้องนอนเป็นทรงกลม หลังเตียงนอนจะเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า และตู้เล็กๆที่มีตู้เย็น จาน น้ำดื่ม


ห้องน้ำที่เหมือนเป็นส่วนต่อออกไปจากส่วนทรงกลมของห้องนอน มีฝักบัวฝนตกกลางแจ้ง


ห้องน้ำที่เล็กๆแต่ออกแบบและตกแต่งได้น่าใช้


มาชมส่วนห้องนอนต่อ ที่นอนที่นี่นุ่มน่านอน มีหมอนให้เยอะนอนสบาย


สิ่งที่ผมชอบในการออกแบบห้องนี้คือ ปูนที่ฉาบไม่เรียบและเพดานที่นำไม้มาโค้งเข้ากันได้ดี


เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของห้องประเภทนี้คือเปลน่านอนอันนี้ที่สามารถนอนเล่นชมทะเล ฟังเสียงคลื่นจากระเบียงห้องพัก


หรือจะใช้เปลอันนั้นเป็นที่นอนดูดาว โชคดีที่วันที่ผมไปฟ้าเปิดตอนกลางคืน สามารถนอนชมดาวที่เปล โรแมนติกดีครับ


คืนที่ดาวเต็มฟ้าอีกมุมหนึ่งครับ ชอบบรรยากาศในคืนนั้นมาก


ดูดาวอิ่มแล้วมาแช่น้ำชมทะเลต่อ จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของห้องนี้คือมีสระ Jacuzzi เล็กๆที่ระเบียง แช่น้ำไป ชมทะเลไป มีความสุขมากๆ


ผลไม้ต้อนรับที่ให้มาเยอะมาก ภาพนี้ลองถ่ายแบบชัดตื้น


มุมใกล้ๆกันแต่ลองถ่ายแบบชัดลึกครับ สระ Jacuzzi ที่นี่มีข้อเสียนิดเดียวครับ คือตอนกลางวันจะไม่ค่อยส่วนตัว เพราะคนที่มาเดินเล่นริมหาดมองเข้ามาได้


มาดูบรรยากาศยามเช้าบ้างครับ เวลาไปเที่ยวรีสอร์ทตื่นเช้าจนเคยชิน


ภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามจากชายหาดหน้าห้องพัก


เปลหน้าห้องกับบรรยากาศช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ถ้าได้ไปพักที่นี่ลองเสี่ยงตื่นเช้ามาชมพระอาทิตย์ขึ้นดูครับ ถ้าโชคดีฟ้าเปิด บรรยากาศยามเช้าสวยจริงๆ


ทะเล เสียงคลื่น และผืนทราย บรรยากาศดีๆยามเช้า


หรือถ้าไม่หนาวจะมาแช่น้ำชมพระอาทิตย์ขึ้นก็ได้ครับ


บรรยากาศในห้องนอนกับวิวที่ใกล้ชิดติดทะเลด้านนอก ห้องพักของรีสอร์ททั้งสองส่วนจะไม่มี ทีวีในห้องพักครับ แต่ได้เห็นวิวอย่างนี้ พักสายตาจากทีวีไปซักพักก็คงดีเหมือนกัน แต่ถ้าติดรายการโทรทัศน์จริงๆทางรีสอร์ทมีห้องทีวีไว้ให้


เปลนอนเล่นกับบรรยากาศดีๆยามเช้าอีกภาพ


บรรยากาศที่มองผ่านประตูห้องพักเห็นวิวทะเลข้างนอก


นำผลไม้มาถ่ายบนเตียง ผ้าสีเข้มบนเตียงจะเป็นผ้าห่มเวลาพ่อบ้านมา turndown ตอนเย็นๆ ถ้าชอบผ้านวมนุ่มๆสามารถแจ้งพนักงานได้ครับ


ห้องนอนบรรยากาศดีๆอีกภาพ ในห้องนอนมีเครื่องเล่น iPod และลำโพงให้ครับ ไว้ฟังเพลงไปชมวิวไป


ภาพที่ถ่ายห้องนอนตอนเช้าๆอย่างนี้ต้องอาศัยฝีมือพอสมควร ไม่ใช่ฝีมือการถ่ายภาพนะครับ แต่เป็นฝีมือการทำเตียง ^^


บรรยากาศหน้าห้องพักที่เหมาะกับการเดินเล่น รับแดดอ่อนๆยามเช้า


แดดอ่อนๆยามเช้าในห้องนอน


ขวดแชมพู ของใช้ต่างๆในห้องน้ำ ห้องน้ำที่นี่สามารถเปิดม่าน อาบน้ำไปชมทะเลไปก็ได้ครับ


อีกภาพครับ


ต่อไปผมจะพาไปชมอาหารเช้าของที่นี่ เริ่มจากเบเกอรี่ที่มีพนักงานนำมาให้เลือกที่โต๊ะ


จานนี้เป็น ABF


จานนี้เป็นวาฟเฟิลมะม่วง อร่อยและน่าทาน


นอกจากนี้ยังมีพวกข้าวต้มหรือ โจ๊ก อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกไม่มากนัก ตบท้ายด้วยผลไม้ที่น่าทาน ในห้องพักจะมีเมนูอาหารเช้าให้เลือกเพื่อให้พนักงานไปเสริฟที่ห้องพักได้เลยครับ


ทานอาหารเช้าเสร็จก็มาเดินเล่นที่สระส่วนกลางซึ่งอยู่ติดกันกับห้องอาหาร


สระส่วนกลางของที่นี่ค่อนข้างเล็กและไม่ส่วนตัวมากนัก ไว้สำหรับแช่น้ำชมวิว แต่ถ้าต้องการว่ายน้ำออกกำลังกาย คงต้องไปที่สระในส่วนของ Frangipani Wing


ภาพสระว่ายน้ำจากบนชั้นสาม


มาที่ตอนเย็นเลยครับ บริเวณบันใดขึ้นมายังห้องอาหารและสระว่ายน้ำ มีการจุดเทียนในบริเวณรีสอร์ท


ของตกแต่งเล็กๆน้อยๆที่ทำให้บรรยากาศสดชื่น


ต่อไปมาชมห้องอาหารช่วงเย็นๆ ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่ทานอาหารเช้า ห้องอาหารบนนี้ชื่อว่า The Living Room


ห้องอาหารที่นี่เป็นห้องอาหารเล็กๆครับ อยู่ติดกับสระว่ายน้ำส่วนกลาง


ที่โต๊ะอาหารจะเห็นวิวทะเลบางส่วน


โต๊ะอาหารบรรยากาศดี


มาชมอาหารเย็นที่ผมทานในวันนั้นบ้างครับ เริ่มด้วยสลัดกุ้งใส่แตงกวาและมะม่วง


ตามด้วยอาหารจานหลักที่ทำจากปลากระพง (จำชื่อเมนูไม่ได้ครับ)


บรรยากาศโรแมนติกที่สระอีกนิดครับ


วิวทะเลจากสระว่ายน้ำ


โชคดีวันที่ผมไป ถึงแม้จะมีฝนตกหนักเป็นบางช่วง แต่ช่วงหัวค่ำฟ้าเปิดทำให้เห็นพระจันทร์ที่สวยงาม


เทียนเล่มน้อยกับวิวสระว่ายน้ำและทะเลเป็นฉากหลัง


ต่อไปผมจะพาไปชมฝั่ง Frangipani Wing ซึ่งนั่งรถบั๊กกี้ไปแป๊บเดียว ห้องพักโซนนี้มีเพียง 5 ห้องในสองแบบ คือ Frangileela (201-203) และ Frangivaree (204-205) ส่วนนี้เป็นส่วนต้อนรับ น้องพนักงานในภาพบริการดีมากๆครับ


ห้องที่ผมเข้าพักในโซนนี้เป็นห้อง Frangivaree 205 ซึ่งเป็นห้องริมและอยู่ใกล้ทะเลมากที่สุด ภายในห้องนอน


จุดเด่นของห้องในส่วนนี้ทั้งห้าห้องคือทุกห้องเป็นแบบ Pool access สระใหญ่ สามารถว่ายน้ำออกกำลังกายได้ ในภาพเป็นหน้าห้องที่ผมพัก


เปลที่นอนสบายๆชมวิวทะเล มีเฉพาะห้องนี้เท่านั้น


นอกจากนี้ที่สระยังมี Jacuzzi ที่หน้าห้องแต่ละห้อง โดยจะเปิดเป็นเวลาในช่วงกลางวัน


เวลาอยู่ที่ห้อง นอนเล่นที่เปลบ้าง นอนในห้องฟังเพลงบ้าง แช่น้ำและว่ายน้ำบ้าง ถึงจะไม่มีทีวีก็ไม่เบื่อ


เปลที่น่านอนอีกภาพ บางทีเจอลมเย็นๆก็หลับไปเลย


มาชมภายในห้องต่อครับ เตียงนอนที่น่านอนตามแบบฉบับของอลีนตา


ห้องน้ำที่กว้างสบาย มีต้นลีลาวดีอยู่ในห้องน้ำ


ห้องนี้เป็นหนึ่งในสองห้องของโซนนี้ที่มีส่วนกลางแจ้ง (อีกห้องคือ Frangileela 201)


ในห้องน้ำ ส่วนอาบน้ำมีเฉพาะฝักบัวฝนตก ผมชอบไอเดียที่วางของที่แขวนกับกิ่งต้นลีลาวดี


บรรยากาศในห้องนอน ประตูของห้องนี้ถ้าเปิดไว้ หรือปิดไม่สนิทระยะเวลาหนึ่ง แอร์ในห้องจะตัดทันทีครับ ต้องปิดให้สนิท


บรรยากาศที่หน้าตอนค่ำๆ ในห้องจะมีหนังสือให้ด้วย แต่เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ ใครที่ชอบอ่านหนังสืออย่าลืมติดหนังสือเล่มโปรดไปด้วยนะครับ


เปลที่น่านอนฟังเสียงคลื่น อยู่ใกล้ๆกับสระว่ายน้ำ


นอกจากนี้ที่หน้าห้องยังมีโต๊ะอาหาร หรือจะมานั่งเล่นชมวิวทะเล ฟังเสียงคลื่น


บริเวณนี้เป็นโต๊ะทานอาหารของโซนนี้ จะมาทานอาหารเช้า หรืออาหารมื้ออื่นๆที่นี่ หรือจะไปทานที่ห้องพักก็ได้ครับ


บรรยากาศเตียงนอนที่เห็นวิวทะเล


ถ้าแดดส่องตอนกลางวัน สามารถกางร่มได้ครับ เจ้ากบที่เห็นเป็นที่ปักร่ม เวลามองภาพนี้แล้วก็นึกขึ้นว่า บางทีคนเราค้นหาสิ่งที่ไกลตัวไป จนมองข้ามสิ่งสวยงามเล็กๆที่อยู่ตรงหน้า เหมือนเจ้ากบตัวนี้ (อารมณ์ไหนเนี่ย 55)


ภายในรีสอร์ททั้งสองส่วนปลูกต้นลีลาวดีเยอะมากครับ ภาพนี้เป็นต้นลีลาวดีกับคืนที่ดาวเต็มฟ้า


พระอาทิตย์ขึ้นหน้าหาดของส่วน Frangipani Wing


บรรยากาศยามเช้ากับเครื่องดื่มร้อนๆซักแก้ว เคล้ากับเสียงคลื่น มีความสุขมากๆ


ทางเดินในรีสอร์ทที่ปลูกต้นไม้ไว้สวยงาม


ขอพนักงานไปถ่ายภาพในส่วน Spa one ที่นั่งเล่นในสปาตอนกลางวัน ผมมีโอกาสได้นวด aroma ที่นี่ พนักงาน(คุณบัด)นวดดีมากๆครับ


ดอกไม้ตกแต่งในมุมเล็กๆที่ช่วยสร้างบรรยากาศในส่วนสปา


ถ่ายคู่กับหนังสือผมซักภาพ บรรยากาศสบายๆชมวิวทะเล ฟังเสียงคลื่นที่หน้าห้องพัก


และปิดท้ายด้วยภาพจากปกเช่นเคย บรรยากาศโรแมนติกหน้าห้องพักแบบ Pool Suite ในส่วนของ Resort Wing


จากที่ได้เข้าพักทั้งสองโซน ผมประทับใจห้องพักของที่นี่มากครับ ถึงแม้จะมีพื้นที่ใช้สอยในห้องไม่มากนัก แต่ด้วยบรรยากาศและการออกแบบทำให้อยู่สบายไม่อึดอัด นอกจากนี้ห้องพักของรีสอร์ทอยู่ใกล้ทะเล ห้องพักส่วนมากอยู่ติดกับชายหาดเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินเล่นริมทะเล หรือนอนฟังเสียงคลื่นจากระเบียงห้อง และถึงแม้ในห้องพักทั้งสองโซนจะไม่มีทีวีในห้องพัก มีแต่ iPod พร้อมลำโพง ก็ไม่น่าเบื่อ ทำให้มีเวลาอยู่กับวิวทะเลสวยๆมากขึ้น(ถ้าจำเป็นต้องดูทีวี มีห้องทีวีบริการในฝั่ง Resort Wing) ข้อกำหนดอย่างหนึ่งของที่นี่คือ ในส่วน Resort Wing จะไม่อนุญาตให้เด็กต่ำกว่า 12 ปีเข้าพัก เพื่อความสงบ แต่สามารถนำเด็กทุกช่วงอายุเข้าพักได้ในส่วน Frangipani Wing

ในส่วนบ้านส้ม มีห้องที่เป็นสองชั้นอยู่สองห้องคือ 201 และ 202 ห้อง 201 เตียงนอนอยู่ชั้นบน ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่นและห้องน้ำ ส่วนห้อง 202 ห้องนอนอยู่ชั้นบน ชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่น (ห้องนี้เหมาะสำหรับวางเตียงเสริมเพราะมีห้องน้ำทั้งสองชั้น) ส่วนห้อง 203 อยู่ชั้นบนครับต้องขึ้นบันใด ห้องนี้น่าจะส่วนตัวที่สุดแต่ผมรู้สึกว่าการตกแต่งยังสู้ห้องอื่นไม่ได้ ผมประทับใจแม่บ้านที่นี่มากครับ ที่เจอทีไรก็ยิ้ม นอบน้อมทุกครั้ง เพียงแค่มองๆห้องที่แม่บ้านกำลังทำความสะอาด ก็เชิญเข้าไปชม แถมอาสาพาไปชมห้องอื่นที่ไม่มีแขกอีก ลองมาดูสรุปจุดเด่นจุดด้อยของที่นี่ในมุมมองของผม

จุดเด่น
- เป็นรีสอร์ทที่ติดทะเล บรรยากาศเงียบสงบ ห้องพักส่วนมากอยู่ติดชายหาด
- ห้อง Pool suite และห้อง Frangivaree 205 ที่ผมเข้าพัก ออกแบบได้น่าอยู่ เห็นวิวทะเลจากในห้องนอน และมีเปลไว้นอนเล่นฟังเสียงคลื่น
- สระว่ายน้ำส่วนกลางของทั้งสองโซน เห็นวิวทะเลที่สวยงาม
- เนื่องจากตัวรีสอร์ทหันหน้าเข้าหาทิศตะวันออก ในวันฟ้าเปิด ทะเลหน้าสอร์ทเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
- พนักงานส่วนมากมีใจบริการที่ดี ให้บริการ ช่วยเหลือทุกอย่างเป็นอย่างดี
- ห้องพักในส่วน Frangipani สามารถลงสระจากหน้าห้องพักได้เลย

จุดด้อย
- ในส่วน Resort Wing สระว่ายน้ำส่วนกลางมีขนาดเล็ก ไม่ถึงกับว่ายน้ำได้
- สำหรับห้อง Pool Suite ระเบียงห้องและสระ jacuzzi ไม่ส่วนตัวมากนักเพราะอยู่หน้าหาด
- ระยะทางที่ไกลกว่าชะอำและหัวหิน

ตอนที่ผมไปมีบางส่วนที่ต้องซ่อมแซมดูแลเพิ่มอีกนิดครับ เช่นตอนที่ผมไปมีบางช่วงฝนตกหนัก มีน้ำรั่วหน้าตู้เสื้อผ้าในห้อง Pool suite

บริเวณรีสอร์ทมีรีสอร์ทอื่นๆและร้านอาหารซึ่งสามารถเดินไปใช้บริการได้ครับ จากความประทับใจในการไปเยือนอลีนตา ปราณบุรีในครั้งนี้ผมของขอบคุณ คุณ รุ คุณชัยณรงค์(RM) คุณเล็ก(ห้องอาหาร) คุณกุ้ง(แม่บ้าน) คุณบัด(สปา) พนักงานฟร้อน และพนักงานในส่วนอื่นๆทุกๆคนที่ให้บริการเป็นอย่างดี และขอบคุณทุกๆคอมเม้นที่เข้ามาทักทายจ่ายค่านิตยสาร ฉบับหน้าจะเป็นฉบับพิเศษครับ จะเป็นนิตยสารที่เน้นวิวทิวทัศน์และภาพแนว portrait ฉบับแรกของผม โดยผมและสมาชิกร่วมทริปอีกห้าชีวิตจะพาไปชมเกาะมันนอกแห่งทะเลตะวันออกในจังหวัดระยอง
Create Date :24 พฤษภาคม 2553 Last Update :24 พฤษภาคม 2553 19:30:18 น. Counter : Pageviews. Comments :188