bloggang.com mainmenu search
จากที่ผมเคยไปเที่ยวทะเลแถวๆเพชรบุรี ประจวบ รวมๆแล้วก็หลายทริป ไม่ว่าจะเป็นทะเลที่ ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี หรือ กุยบุรี ครั้งนี้ผมตัดสินใจลองไปเที่ยวทะเลประจวบที่ไกลกว่าเดิมและเป็นที่ที่ผมไม่เคยได้ไปเที่ยวมาก่อน เป็นทะเลของหาดบ้านกรูดที่อยู่ระหว่างอำเภอทับสะแกและบางสะพานครับ ผมได้เข้าพักในรีสอร์ทที่ชื่อว่า Keeree Waree Seaside Villas & Spa ถึงแม้การเดินทางมายังที่นี่จะไกลกว่าหัวหินอีกประมาณเกือบสองชั่งโมง แต่สิ่งที่ได้พบและประสบการณ์ที่ได้รับถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทาง ชายหาดบ้านกรูดที่สวยงาม สงบเหมาะกับการพักผ่อน ชาร์ตแบตเติมพลังให้ชีวิต บวกกับวิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย ไม่มีตึกสูงๆให้เกะกะสายตา ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์ของที่นี่

ส่วนรีสอร์ทถึงแม้จะไม่ใช่รีสอร์ทหรูหราห้าดาว แต่ห้องพักที่เน้นวัสดุจากไม้ทำให้ห้องดูอบอุ่นน่าพัก ห้องน้ำที่ออกแบบไว้น่าใช้ อีกทั้งการบริการที่ดีจากพนักงานทุกๆคน ทำให้วันพักผ่อนของผมที่คีรีวารี น่าประทับใจ นอกจากนี้ผมได้มีโอกาสขึ้นไปชมวัดทางสายที่อยู่บนยอดเขาธงชัยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของ พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ งานสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ออกแบบโดยศิลปินแห่งชาติ จากทำเลที่ตั้งของวัดแห่งนี้สามารถชมวิวทะเลจากมุมสูงซึ่งหาชมได้ไม่ง่ายนัก ลองมาชมภาพของความประทับใจของชายหาดบ้านกรูด วัดทางสาย และ คีรีวารี ในมุมมองของผม

ดูรีวิวที่เหมือนกันของผมจากห้อง BluePlanet ใน Pantip.com ได้ที่
//www.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E7564373/E7564373.html

ผมขอวางแผงนิตยสารชานไม้ชายเขา ประจำเดือนมีนาคม 2552 ซึ่งเป็นฉบับที่ 44 กับรีสอร์ทบรรยากาศธรรมชาติบนหาดบ้านกรูดที่ชื่อว่า คีรีวารี ซีไซด์ วิลล่า & สปา


ผมเริ่มต้นด้วยบรรยากาศที่ห้องอาหารของรีสอร์ทครับ บรรยากาศดี ติดกับสระว่ายน้ำ


บรรยากาศที่ห้องอาหาร มองเห็นทะเล จุดด้อยอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ จะมีถนนกั้นระหว่างตัวรีสอร์ทและชายหาดครับ แต่ถนนก็ไม่ได้พลุกพล่าน นั่งมองวิถีชิวิตชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาก็เพลินไปอีกแบบ


บรรยากาศโรแมนติกของโต๊ะอาหารยามเย็น


มุมห้องหนังสือ ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นห้องประชุมก็ได้ครับ ผมชอบโครงสร้างบนหลังคาของอาคารแห่งนี้ โชว์โครงสร้างไม้สวยงามมากครับ


ที่นั่งเล่นบริเวณ lobby


ตรงนี้เป็นที่นั่งเล่นริมชายทะเลของรีสอร์ท ไว้นั่งคุยเพลินๆ หรือนั่งฟังเสียงคลื่น


บรรยากาศใกล้ค่ำที่ริมทะเล


บรรยากาศยามเช้า ที่น่านั่งเล่นชมทะเลไปเรื่อยๆ เก็บแสงแดดอ่อนๆ สายลม และฟองคลื่นเป็นพลังในการสู้งานต่อไป


บรรยากาศชายหาดหน้ารีสอร์ท ที่นั่งเล่นนอนเล่นชมทะเลหน้ารีสอร์ท วัดที่เห็นบนยอดเขาคือวัดทางสายที่ผมจะพาไปชมต่อไป


บรรยากาศริมทะเลของวันฟ้าใส ที่นี่ก็มีเจ้าหมาทะเลเหมือนกันครับ ชื่อเจ้าแพนด้า


โต๊ะทานอาหารริมทะเล ตอนกลางวัน


เรือลำนี้อยู่ใกล้โต๊ะทานอาหาร ทำให้ยิ่งได้บรรยากาศทะเล


มาดูห้องพักแบบแรกที่ผมจะพาไปชมครับ ห้องนี้เป็นห้องแบบ Sea villa อยู่ถัดมาจากอาคารห้องอาหาร


ภายในห้องพักเน้นการใช้ไม้เป็นหลัก ทำให้ห้องดูอบอุ่นน่าพัก


ที่ผมชอบมากที่สุดของห้องพักที่นี่คงเป็นส่วนห้องน้ำ มีทั้งส่วนอ่างอาบน้ำ ฝักบัวฝนตกกลางแจ้ง และมีทั้ง ฝักบัวในห้อง ในภาพเป็นส่วนของ ฝักบัวฝนตกกลางแจ้งครับ


มีโต๊ะทำงานอยู่หลังเตียง ไว้ชมวิวด้านนอก ซึ่งเห็นทะเลนิดหน่อยครับ และมี LCD ทีวี อยู่ทางด้านซ้ายของเตียงนอน


บรรยากาศในห้องน้ำที่ผมชอบ


บรรยากาศในห้องนอนอีกภาพ


บรรยากาศยามเช้าบริเวณห้องอาหารของรีสอร์ท ระหว่างสระกับเก้าอี้ชายหาดจะมีถนนกั้นอยู่ครับ


ผมชอบทะเลของหาดบ้านกรูดมากกว่าทะเลหัวหินหรือชะอำ เพราะสีน้ำทะเลสวย น่าเล่นน้ำ


บรรยากาศทะเลสวยๆของหาดแห่งนี้ สามารถให้พนักงานมานวดที่เก้าอี้ชายหาด


ที่นี่ผมเห็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพอสมควรทีเดียว คงเป็นนักท่องเที่ยวที่ชอบสงบจริงๆเพราะจะไม่มีแสงสีตอนกลางคืนเหมือนชายหาดตามเมืองใหญ่ๆ


บรรยากาศยามเย็นริมทะเล


ทางเดินหลักภายในรีสอร์ท บรรยากาศธรรมชาติ


สระว่ายน้ำสีสวยหน้าห้องอาหาร จะเห็นศาลหลวงปู่ม่วงซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านกรูด


รีสอร์ทแห่งนี้มีสระว่ายน้ำสองสระครับ สระใหญ่กว่าจะอยู่ด้านใน


ข้อดีของสระที่นี่ทั้งสองสระคือเป็นสระระบบเกลือ ไม่ใช้คลอรีน รีสอร์ทแห่งนี้ยึดหลักรักษาสิ่งแวดล้อม


มาดูห้องพักอีกแบบครับ ห้องนี้เป็น Pool Villa สระว่ายน้ำก็เป็นสระน้ำเกลือเช่นกัน ห้องพักแบบนี้มีความเป็นส่วนตัว มีกำแพงล้อมรอบสระ


ภายในห้องจะคล้ายๆกับห้อง Sea villa แต่ห้องนี้ LCD ทีวีจะใหญ่กว่าและมีเครื่องเล่น DVD


อ่างอาบน้ำภายในห้อง บรรยากาศโรแมนติก


ห้องพักยังคงเน้นการใช้ไม้ครับ บรรยากาศน่าพักผ่อน


ที่นอนก็นุ่มสบายน่านอน


ห้องนี้มีความเป็น ส่วนตัว มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก มี daybed ทั้งในห้องและที่ระเบียงข้างสระ ที่สระน้ำมี Jacuzzi ด้วยครับ ข้อเสียนิดนึงคือ Jacuzzi ไม่สามารถเปิดเองได้ครับ ต้องโทรให้พนักงานเปิดให้ ภาพโดยรวมของห้องพักแบบนี้ถือว่าน่าพักมากทีเดียว


บรรยากาศที่ห้องน้ำที่ผมชอบอีกภาพ


บรรยากาศยามเช้าที่ชายหาดหน้ารีสอร์ท


ต่อไปลองมาชมความงามของวัดทางสาย เดินทางจากรีสอร์ทไม่กี่นาทีก็ถึง ภาพนี้คือ พระพุทธกิติสิริชัย


จากนั้นจะมีบันใดเพื่อขึ้นไปยังยัง พระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ซึ่งสวยมากครับ อยู่บนยอดเขา


พระมหาธาตุเจดีย์แห่งนี้ออกแบบโดย ม.ร.ว.มิตรารุณ เกษมศรี ศิลปินแห่งชาติ ถูกสร้างขึ้นจากความศรัทธาของชาวประจวบคีรีขันธ์เพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช ทรงการครองราชครบ50 ปี


สำหรับผมการได้ขึ้นมาชมวัดแห่งนี้ได้ทั้งทำบุญ ได้อาหารใจ และอาหารตาไปพร้อมกัน วิวสวยๆจากมุมสูงๆอย่างนี้ คงหาดูได้ไม่ง่ายนัก


ช่วงที่ผมได้เห็น ก็ตื่นเต้นไปกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมมากครับเพราะไม่เคยทราบมาก่อนว่า วัดแห่งนี้จะสวยงามมากขนาดนี้


ผมเดินเล่นหามุมถ่ายภาพโดยไม่รู้เบื่อ


ผมโชคดีมากครับ วันที่ไปเยี่ยมชมวัด ฟ้าใสทำให้สีทองของพระมหาธาตุเจดีย์ ตัดกับสีท้องฟ้า


นอกจากจะได้ชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามแล้ว ยังสามารถชมวิว ทิวทัศน์ของชายหาดจากมุมสูงที่สวยงามเช่นกัน


เท่าที่สังเกตมีชาวต่างชาติขึ้นมาเยี่ยมชมวัดมากทีเดียว


วิวสวยๆอีกมุมหนึ่ง


ภาพมุมกว้างจากบริเวณวัด


ยิ่งได้เห็นความงามของวัด ยิ่งรู้สึกถึงพลังของความศรัทรา ของชาวประจวบคีรีขันธ์และผู้ออกแบบ


กลับมาชมภาพที่คีรีวารี ต่ออีกนิดครับ บรรยากาศของห้องอาหารกับสระว่ายน้ำหลังพระอาทิตย์ตก


ช่วงแสงสวยๆของชายหาดหน้ารีสอร์ท



บรรยากาศตอนพระอาทิตย์ขึ้น หน้ารีสอร์ท


และภาพทิ้งท้ายจากปก บรรยากาศยามเช้าหน้ารีสอร์ทกับภาพสะท้อนที่สระว่ายน้ำ ผมชอบภาพนี้เป็นพิเศษ และที่มาของภาพนี้ต้องขอบคุณ 2 ท่านที่แนะนำให้ผมถ่ายมุมนี้นะครับ


ถึงแม้ว่าห้องพักส่วนมากของที่นี่จะไม่เห็นวิวทะเล แต่บรรยากาศโดยรวมถือว่าดีทีเดียวครับ ที่คีรีวารีมีห้องพักอีกสองแบบ คือ lake villa และ garden villa ผมไม่ได้เข้าไปชมห้องพักทั้งสองแบบนี้ จากข้อมูลที่ผมทราบ ห้องทั้งสองแบบนี้จะไม่มีอ่างอาบน้ำครับ แต่ยังคงมี ฝักบัวฝนตก ส่วนห้อง garden villa จะเป็นวิลลาสองหลังติดกัน จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างของที่นี่ คือการรักษาธรรมชาติ เช่น สระว่ายน้ำใช้ระบบน้ำเกลือ มีแปลงปลูกผักปลอดสารพิษของรีสอร์ท สบู่ ยาสระผมก็ทำมาจากธรรมชาติ ส่วนอาหารที่ห้องอาหารรสชาติดีทีเดียวครับ โดยเฉพาะอาหารฝรั่ง ส่วนจุดด้อยคงเป็นที่ระยะทางที่ไกลประมาณ 4 ชั่วโมงจากกรุงเทพ และถนนเรียบชายหาดที่กั้นระหว่างหน้าหาดและรีสอร์ท แต่ถึงอย่างไรสำหรับผมแล้ว การได้มาเดินเล่นริมทะเลที่สงบ บนหาดสวยๆ ได้เห็นวิถีชิวิตของชาวบ้านที่เรียบง่าย และได้ขึ้นไปชมวัดทางสายก็ถือว่าคุ้มค่า กับการเดินทางมาไกล (จากโคราช) ลองมาดูสรุปจุดเด่นจุดด้อยในมุมมองของผมครับ

จุดเด่น
- เป็นรีสอร์ทติดทะเล หาดทรายบริเวณรีสอร์ทช่วงที่ผมไป น้ำใส น่าเล่นน้ำและน่าเดินเล่นมากครับ ชายหาดทอดยาว สงบ ไม่มีตึกสูงๆริมชายหาด
- ห้องพักที่นี่น่าพัก เน้นการใช้วัสดุไม้ ดูอบอุ่น เรียบง่าย ห้อง sea villa และ pool villa มีอ่างอาบน้ำบรรยากาศดีในห้องพัก
- ที่นี่มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง 2 สระ เป็นสระระบบน้ำเกลือทั้งคู่ รวมทั้งสระใน Pool villa ด้วยครับ
- อาหารรสชาติดีทีเดียวโดยเฉพาะอาหารฝรั่ง ผักที่ใช้เป็นผักปลอดสารที่รีสอร์ทปลูกเอง
- การบริการจากพนกงานทุกคนดีมากครับ ยิ้มแย้มทักทาย ให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ
- สามารถเดินทางไปชมวัดทางสายที่อยู่ไม่ไกล นั่งรถไปไม่กี่นาที หรือไปดำน้ำดูปะการังที่เกาะทะลุ อำเภอบางสะพานซึ่งอยู่ไม่ไกลเช่นกัน

จุดด้อย
-ระยะทางไกลกว่าหาดหัวหิน หรือชะอำ แต่ก็แลกกับ หาดที่สวยกว่า บรรยากาศสงบกว่า
-ระหว่างตัวรีสอร์ทกับชายหาดจะมีถนนมากั้นครับ แต่ถนนก็ไม่ได้พลุกพล่านมาก ส่วนมากเป็นชาวบ้านที่สัญจรไปมา
-Jacuzzi ในสระของห้อง Pool villa ไม่สามารถเปิดเองได้ครับ ต้องโทรให้พนักงานเปิดให้ เลยไม่ค่อยสะดวก
-ห้องพักที่ไม่ใช่ Pool villa ที่ระเบียงห้องอาจจะไม่ส่วนตัวมากนัก

โดยรวมแล้วผมชอบบรรยากาศของที่นี่และหาดบ้านกรูดมากครับ ที่จริงแล้วการมีถนนกั้นระหว่างหาดกับรีสอร์ท สำหรับผมแล้วก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่งคือได้นั่งมอง วิถีชีวิตชาวบ้าน เห็นเด็กๆชาวบ้านปั่นจักรยานผ่านไปมา มีโอกาสคงได้กลับไปเยือนรีสอร์ทแห่งนี้ และไปเดินเล่นที่หาดบ้านกรูดอีกครับ

เวปของรีสอร์ทและราคาห้องพัก
Resort Website: //www.keereewaree.com
ราคาห้องพักดูที่ห้องพักแต่ละประเภทครับ จะมีราคาห้องพักบอกไว้
ผู้ออกแบบ: คุณ ณรงค์ศักดิ์ ตามสุนทรพานิช
Create Date :25 กุมภาพันธ์ 2552 Last Update :15 มีนาคม 2552 22:42:43 น. Counter : Pageviews. Comments :84