bloggang.com mainmenu search

จากกรณีของหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก เจ้าสำนักวัดป่าัขันติธรรมที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้  ล่าสุดได้มีการเผยแพร่ภาพที่อ้างว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของหลวงปู่เณรคำ

ซึ่งมีภาพชานหมากกลายเป้นพระธาตุ  ภาพหลวงปู่เณรคำมีแสงเปล่งออกจากร่างกาย  ภาพธาตุต่างๆที่อ้างว่าเกิดจากบารมีของหลวงปู่เณรคำ  ซึ่งภาพต่างๆเหล่านี้  ถูกชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นว่าใช้โปรแกรมตกแต่งภาพก็สามารถทำได้แล้ว

นอกจากนี้ยังได้มีการเผยแพร่เรื่องราวจากหนังสือ ชาติหน้าไม่ขอมาเกิด ของหลวงปู่เณรคำ ระบุตอนหนึ่งว่าหลวงปู่เณรคำสามารถเดินบนน้ำได้ ดังนี้

บัดนั้น!!! เด็กชายได้สัมผัสอดีตชาติที่ลึกล้ำยิ่งขึ้น ย้อนจากภพแห่งการครองเพศสมณะ เจริญสุขอยู่ในสรวงสวรรค์ แวดล้อมด้วยเหล่าเทวดา นางฟ้า มีเสียงกรุ๊งกริ๊งดังขึ้นเบื้องนอกกลด เสียงใสกังวานดังทิพยดนตรี เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นเหล่าเทวดาที่คุ้นเคยในภพนั้นมาปรากฏกายในลักษณะกายทิพย์ ๔ กาย

“ท่านจำพวกข้าได้ไหม”
“จำได้ซิ” เด็กชายตอบ เสียงกังวานดังก้องไปทั้งป่า “ก็เมื่อสักครู่เรายังเห็นพวกท่านเสวยสุขอยู่บนสรวงสวรรค์”
“ข้ามาเยี่ยมท่านเพราะเป็นห่วง”
“เราไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วงดอก เพราะเมื่อสิ้นภพนี้แล้ว เราก็ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก”
“เป็นเพราะจิตของท่านมุ่งนิพพานเป็นที่ตั้งจึงพยายามสั่งสมบุญบารมีจนได้ลงมาจุติเป็นสมณเพศในภพที่ผ่านมา และกลับมาบำเพ็ญเพียรต่อในภพนี้”
“แล้วพวกท่านล่ะ ไม่คิดจะก้าวไปสู่โลกแห่งความดับสูญบ้างหรือ”

“จิตของพวกเรายังมิแกร่งกล้าขนาดนั้น”

ใช่ !! ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับจิต !! จิตถูกฝึกดีแล้วจะใสดังแก้ว ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน ไม่มีอาการง่วงเหงาหาวนอน เมื่อแว่วเสียงไก่ขัน เด็กชายรู้สึกว่า

รา...ี้สั้นนัก

นอกจากกุฏิหลังเก่าในป่าช้าวัดทรายมูลแล้ว สถานที่อีกแห่งที่เด็กชายวิรพลชอบไปนั่งสมาธิก็คือกระท่อมปลายนาที่ผู้เป็นพ่อสร้างไว้ให้โดยมีสระเลี้ยงปลาอยู่ใกล้ๆ
มีเรื่องน่าแปลกเกี่ยวกับปลาในสระ คือโดยธรรมชาติปลาจะกลัวคน แค่เดินเข้าไปใกล้ๆก็จะว่ายหนีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง แต่สำหรับวิรพลแค่เขาเอามือจุ่มลงไป เหล่าฝูงปลากลับว่ายมารุมล้อมเต็มไปหมด ทั้งที่ไม่มีอาหารอยู่ในมือ และยังปล่อยให้เขาจับต้องได้
คืนหนึ่งหลังจากทำสมาธิในท่าเดียวนานหลายชั่วโมง เด็กชายนึกอยากเปลี่ยนอิริยาบถ จึงลุกเดินออกจากกระท่อม โดยยังคงกำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะ กระทั่งมาถึงริมสระน้ำ เห็นแสงจันทร์สะท้อนผิวน้ำเหลืองอร่ามงามตาให้นึกอยากลงไปเดินเล่นในน้ำเป็นยิ่งนัก

ในยามนั้นเด็กชายรู้สึกว่าธาตุทั้ง ๔ ในตัวย่อยสลายเหลือแต่ความบางเบา

ทุกก้าวที่เดินไปตามผิวดินเหมือนฝ่าเท้าจะไม่แตะพื้น แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งย่ำไปถึงผิวน้ำเหยียบลงไปจึงพบเหตุอัศจรรย์เมื่อฝ่าเท้าไม่จมลงไปในน้ำ แต่สามารถเดินไปบนผิวน้ำได้

และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ เมื่อเดินไปได้สักพักเกิดอาการกายเบา จิตเบา และเริ่มลอยขึ้นจากน้ำประมาณหนึ่งคืบ ก่อนจะค่อยกำหนดสติให้ลอยต่ำมาสัมผัสผิวน้ำตามเดิม เมื่อทำไปสักระยะ การประคองตัวบนผิวน้ำยิ่งเป็นเรื่องง่าย เมื่อลองออกจากสมาธิเพื่อดูว่าตัวเองจะจมลงไปในน้ำหรือเปล่า ก็ปรากฏว่าจมลงตามธรรมชาติแรงโน้มถ่วงของโลก เด็กชายจึงยิ่งมั่นใจว่าการที่ตัวเองสามารถทำในสิ่งที่เป็นปาฏิหาริย์เหนือกว่าคนทั่วไปได้ก็เพราะการบำเพ็ญเพียรฝึกสมาธิโดยแท้เทียว

เหตุการณ์คราวนั้นทำให้วิรพลยิ่งมั่นใจว่า โลกที่เหมาะกับตัวเองคือ
โลกแห่งธรรม ซึ่งเป็นหนทางนำไปสู่การดับขันธ์ที่ไม่ต้องกลับมาเกิดในภพหน้าอีก

Create Date :25 มิถุนายน 2556 Last Update :25 มิถุนายน 2556 22:43:38 น. Counter : 3531 Pageviews. Comments :0