เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการเจาะข่าวเด่น

กลายเป็นข่าวครึกโครมอีกครั้ง เมื่อนางสาวจิรนันท์ จันทร์แรม ได้นำคลิปหลักฐานที่อ้างว่าเป็นคลิปเหตุการณ์ขณะที่ นางทิพวรรณ จิตศรัทธา อายุ 36 ปี ภรรยาของนายเสน่ห์ จิตศรัทธา อายุ 55 ปี ตกลงไปในฟาร์มจระเข้ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2555 มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งคลิปดังกล่าวได้บันทึกวัตถุสีขาว ซึ่งนายเสน่ห์ และนางสาวจิรนันท์ เชื่อว่าเป็นร่างของ นางทิพวรรณ ลอยเข้ามากลางบ่อแล้วค่อย ๆ หายไป ส่วนทางด้านเจ้าของฟาร์ม นายอุเทน ยังปะภาภร กลับยืนยันว่าไม่ใช่ร่างของคนอย่างแน่นอน พร้อมทั้งพาสื่อมวลชนเข้าตรวจสอบพฤติกรรมการกินอาหารของจระเข้ เพื่อเปรียบเทียบกับคลิปหลักฐานดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวานนี้ (8 มีนาคม) ทางรายการเจาะข่าวเด่น ได้พา นายเสน่ห์ และนายอุเทน มาจับเข่าคุย พร้อมเปิดคลิปเพื่อพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว โดยนายเสน่ห์ เผยว่า ตนเชื่อพันเปอร์เซ็นต์เลยว่าภรรยาของตนตกลงไปในบ่อจระเข้จริง ๆ ส่วนในวันเกิดเหตุนั้นทางฟาร์มให้ตนดูแค่กล้องวงจรปิดตอนที่ภรรยาเข้าฟาร์มเพียงเท่านั้น แต่ไม่ยอมให้ดูภาพกล้องวงจรปิดตอนขาออก ซึ่งตนเชื่อว่าภรรยาตนไม่ได้ออกมาจากฟาร์มเพราะถูกจระเข้กินไปแล้ว


ขณะที่นายอุเทน ถามนายเสน่ห์ว่า รู้ได้อย่างไรว่านางทิพวรรณตกลงไปจริง นายเสน่ห์กล่าวตอบว่า เพราะลูกจ้างในฟาร์มบอก แถมยังบอกที่เกิดเหตุอย่างชัดเจน แต่ตนไม่ขอเอ่ยนามลูกจ้างเพราะเขาทำงานหาเช้ากินค่ำเหมือนกัน กลัวเขาจะไม่มีงานทำ

         ด้านนายอุเทน กล่าวสวนตอบไปว่า ทำไมไม่ให้เขามาชี้จุด จะได้รู้ไปเลยว่าอะไรเป็นอะไร ตกลงไปตรงไหน เพราะการกล่าวหาเช่นนี้ถือว่าเป็นการปรักปรำตน ส่วนเรื่องคลิปกล้องวงจรปิดนั้น ตนได้ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ไม่ใช่ตนไม่ให้ดู แต่ตอนนี้มันเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

         นายเสน่ห์ จึงบอกว่า เมื่อเรื่องถึงตำรวจมันก็จบง่าย ถ้ามันมีเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่อย่างไรก็ตาม ความจริงก็คือความจริง... เมื่อนายเสน่ห์กล่าวจบ นายอุเทนก็ตอบทันทีว่า ถ้าเรื่องนี้หมายถึงวิ่งเต้น ก็เท่ากับว่านายเสน่ห์กำลังปรักปรำตนอยู่เช่นเดียวกัน

  อย่างไรก็ดี ทางพิธีกรได้ห้ามปรามการโต้เถียงทั้งสองฝ่าย พร้อมกับเปิดคลิปที่นางสาวจิรนันท์บันทึกเอาไว้ โดยนายอุเทนได้ตั้งข้อสังเกตหลายอย่างเกี่ยวกับคลิปนี้ อาทิ เรื่องเกิดขึ้นตั้งนานแล้ว ทำไมเพิ่งนำคลิปมามอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากเป็นคนตกลงไปในบ่อจระเข้จริง ทำไมถึงมีเสียงพูดคุยกันธรรมดา แทนที่จะเป็นเสียงกรี๊ดกร๊าดตกอกตกใจ


"จุดสีขาว ๆ ที่เชื่อว่าเป็นภรรยาของคุณลุงนั้น ลองสังเกตดูจากความเร็ว.. ความเร็วมันคงที่ แล้วลอยเป็นเส้นตรง ถ้าเทียบกับเงาสีดำ ๆ ข้างล่างที่เป็นจระเข้อีกตัวก็จะเห็นเลยว่า ความเร็วมันเท่ากัน แถมยังไม่มีน้ำกระเพื่อมอะไรเลย ที่เราเห็นนี่มันเป็นภาพของจระเข้ว่ายน้ำ ไม่เชื่อไปดูได้เลย เพราะนี้จระเข้มีอายุมากทั้งนั้น หัวขาว ๆ ทั้งนั้น ซึ่งหากเป็นคนตกลงไปจริง จระเข้ตัวอื่นจะไม่รุมมาแย่งกินหรอ เห็นไหมมันลอยมานิ่ง ๆ ส่วนที่ทำให้มันดูวัตถุลอยมาเหนือน้ำ เป็นเพราะเวลาจระเข้กินอาหารก็จะเงยหน้าขึ้นฟ้า เนื่องจากมันไม่สามารถใช้ลิ้นของมันได้ และถ้าโยนอะไรลงไปให้มัน มันก็จะเอี้ยวตัวไปมาเพื่อกัด จากนั้นก็จะเงยหัวเพื่อกลืนอาหารลงไป เพราะถ้ามันอ้าปากในน้ำ มันก็จะสำลัก" นายอุเทน กล่าว พร้อมกับเปิดคลิปพฤติกรรมของจระเข้ขณะกินอาหารเทียบกับคลิปหลักฐานดังกล่าว

แต่ทว่า นายเสน่ห์ กลับวิเคราะห์คลิปดังกล่าวว่า วัตถุสีขาวที่ลอยอยู่นั้นเป็นร่างของภรรยาตนแน่นอน ที่ลอยคงที่ก็เป็นเพราะถูกจระเข้คาบเข้ามา ส่วนคลิปนี้ที่เพิ่งออกมานั้น เป็นเพราะนายอุเทนไปขู่นางสาวจิรนันท์เอาไว้ และขู่ทุกคนที่รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด แถมยังอยู่ในเหตุการณ์เพราะว่ากั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่พอเหตุการณ์จบปุ๊บก็เปิดทางให้นักท่องเที่ยวเข้ามา..


           นายอุเทน จึงกล่าวตอบว่า ให้คุณลุงไปชี้ตัวมา ตนรับรองเลยว่าจะไม่มีการตกงาน แล้วอีกอย่างตั้งแต่วันที่เกิดเหตุตนให้ลูกน้องกว่า 40 คน ไปสอบปากคำ พร้อมอำนวยความสะดวกให้กับคุณลุงมาโดยตลอด ตนก็ไม่เข้าใจทำไมคุณลุงถึงมากล่าวเช่นนี้ ส่วนเรื่องที่ต้องปิดทางนั้น ตนก็ต้องเคลียร์พื้นที่ ตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดก่อนที่จะให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ และถ้าเกิดเรื่องจริงก็ไม่ใช่ความผิดอะไรของทางฟาร์ม เพราะฉะนั้นหากมีคนตกลงทางฟาร์มก็พร้อมที่จะเปิดเผย ไม่จำเป็นจะต้องปกปิดอยู่แล้ว และก็ไม่ได้กลัวเสียชื่อเสียงแต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะยังไม่ได้ข้อสรุปง่าย ๆ ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ว่าเหยื่อที่จระเข้กำลังกินอยู่นั้นเป็นนางทิพวรรณหรือไม่ หรือเป็นเพียงจระเข้ลอยมาตามที่นายอุเทนระบุเอาไว้เท่านั้น