bloggang.com mainmenu search



  
 หลังจากที่ ''สยามดารา'' ได้นำเสนอเรื่องราวชีวิตที่พลิกผันของนักแสดงสาว
''แอนนี่ บรู๊ค'' ที่หันไปจับธุรกิจขายครีมเพื่อเลี้ยงครอบครัวไปแล้วนั้น
ครั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบของ ''แอนนี่''
และลูกชายวัยน่ารักอย่าง ''น้องฑีฆายุ''
ที่กำลังมีพัฒนาการเฉลียวฉลาดตามวัยชนิดที่ใครเห็นเป็นต้องตกหลุมรักอย่าง
แน่นอน นอกจากนี้กำลังใจจากใครกันหนอ...? ที่ทำให้ ''แอนนี่ บรู๊ค''
ฝ่าฝันมรสุมต่างๆ จนมายืนหยัดใช้ชีวิตได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้ง
และคุณแม่ยังสาว, ยังสวยขนาดนี้ เปิดประตูหัวใจรับหนุ่มๆ
คนใหม่แล้วหรือยัง??? ลองไปฟังคำตอบจาก ''แอนนี่ บรู๊ค''
กันได้เล้ย...ยยย!!


    
    พูดถึงลูกชาย ''น้องฑี'' ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?
  
 ''น้องฑีนะค่ะ ตอนนี้พูดเก่งมากๆ พูดไม่หยุด พูดจนกว่าจะหลับ
บางวันตื่นขึ้นมาก็ละเมอขึ้นมาพูดอีก เค้าเป็นเด็กที่พูดเก่งมากๆ
แล้วก็พูดภาษาไทยชัดมากๆ
เพราะว่าเราเลี้ยงเค้าแล้วเราก็ไม่พูดภาษาที่ไม่ชัดกับเค้าค่ะ อย่างอร่อย
ก็คือ อะ-หร่อย ไม่ใช่ อา-หย่อย
เราจะไม่พูดอย่างนั้นเพราะอยากให้เค้าเป็นเด็กที่...คือคนไทยนะก็ต้องพูด
ภาษาไทยชัดตั้งแต่เด็กดีกว่านะค่ะ ซึ่งตอนนี้เค้าก็พูดชัดมาก''
    
    ถ้าพูดถึงความซนล่ะ?
  
 ''ซนมากกว่าเดิม มากที่สุดของที่สุดของที่สุดของในโลกเลยค่ะ (หัวเราะ)
ไม่หยุดเลย ก็พยายามคิดในแง่ดีเหมือนกันว่าเด็กซนคือเด็กฉลาด แต่แม่ผอมลงๆ
เพราะว่าเหนื่อยมาก''
    
    ณ ตอนนี้ ''แอนนี่'' วิ่งตาม ''น้องฑี'' ทันไหม?
  
 ''ไม่ค่อยทันเท่าไรค่ะ เพราะเค้าจะวิ่งเยอะนะ
แล้วก็ชอบเล่นอะไรที่มันผาดโผนแล้วก็แรงๆ ก็เหมือนเด็กผู้ชายทั่วๆ
ไปแหละค่ะ เห็นต้นไม้นี่ก็ชอบปีน
จะปีนขึ้นโต๊ะ-เก้าอี้บ้างอะไรบ้างอย่างนี้ค่ะ
แต่แววดีของเค้าน่าจะเป็นคนที่รักในเสียงดนตรี เพราะว่าแอนมีกีตาร์ 2
ตัวที่บ้านเค้าก็จะเล่นทุกวันเลย แต่เล่นเหมือนดีดจะเข้เลยนะ (หัวเราะ)
เป็นกีตาร์ของผู้ใหญ่เลยค่ะ ตัวเล็กนิดเดียวแต่แบกกีตาร์อันเบ้อเร่อเลย
แต่มันก็เป็นภาพที่น่ารักดีนะ''
    
    เด็กแบกกีตาร์ผู้ใหญ่เนี่ยนะ...ไหวหรอ?
    ''(หัวเราะ) ไหวนะ...เห็นแล้วก็ขำดี น่ารักดี (เปิดรูป ''น้องฑี'' เดินลากกีตาร์ในโทรศัพท์โชว์)''
    
    ไม่ซื้อเป็นอะคูเลเล่หรือกีตาร์ตัวเล็กๆ ให้เค้าหัดเล่นล่ะ?
  
 ''ยังนะ...อย่าเพิ่งซื้อเลย เพราะอะคูเลเล่เนี่ยมันแพงค่ะ
ตัวหนึ่งก็หลายพันโน้น
เอาไว้เดี๋ยวรอให้เค้าเบื่อกีตาร์ตัวใหญ่ก่อนหรือรอให้เค้าเบื่อจริงๆ
ก่อนแล้วค่อยซื้อดีกว่า
คือเราเองก็ไม่ได้จะซื้อทุกอย่างตอบสนองให้ลูกทุกสิ่ง
ไม่อย่างนั้นเค้าจะเรียนรู้ว่าเค้าจะได้อะไรมาง่ายๆ
ซึ่งแอนไม่อยากแบบว่าเค้าชี้ปั๊บ...เราซื้อปุ๊บอย่างนั้นไงค่ะ
เอาให้เค้าอยากได้จริงๆ แล้วเราก็ค่อยซื้อให้เค้า''
    
    ''แอนนี่'' ต้องเลี้ยงน้องคนเดียว...มีวิธีสอนน้องยังไงบ้าง?
  
 ''จริงๆ ใจเนี่ยเค้าคือเด็กผู้ชาย เรื่องของพุทธศาสนาเป็นเรื่องสำคัญมาก
ทุกวันนี้ก็จะให้เค้าไหว้พระทุกวัน แล้วก็เวลาเห็นพระที่ไหนก็ต้องไหว้
ต้องทำความเคารพ อย่างสวดมนต์ก็จะสวดมนต์ให้เค้าฟัง
เค้าก็สวดได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็คือค่อยๆ ซึมซับเค้าไป อันไหนดีอันไหนไม่ดี
เราผ่านมาหมดแล้ว เราพอที่จะแยกแยะได้หมดแล้ว
เพราะฉะนั้นเราก็จะส่งต่อให้ถึงลูกว่าเค้าเป็นเด็กผู้ชายเค้าจะต้องทำอะไร
บ้าง ยิ่งเป็นผู้ชายเนี่ยถ้ามีความรับผิดชอบหรือเป็นคนที่ให้เกียรติคนอื่น
แคร์จิตใจของคนอื่น ก็จะเป็นคนที่อ่อนโยนแล้วก็จะมีคนรักเค้ามากขึ้น''
    
    ได้ยินว่า ''น้องฑี'' เจอพระจะยกมือไหว้ตลอด?
  
 ''ใช่ค่ะ...เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน ถ้าเกิดเค้าเห็นพระสงฆ์ ,
พระพุทธรูป, พระพิฆเนศหรืออะไรก็ช่าง
เราไม่เคยสอนให้เค้าแยกเลยนะว่าพระแต่ละอย่างคืออะไร
แต่ถ้าเค้าเห็นอะไรที่มันเป็นแบบพระ
ไม่ว่าอยู่บนหิ้งหรือว่าอยู่ที่ไหนก็ตาม เค้าจะรีบวิ่งเข้าไป
แล้วไหว้จนแทบจะกราบลงข้างล่างอยู่แล้วทุกครั้ง แล้วก็พูดทู้ค๊าบ , ทู้จ้า
ตลอดเลย''
    
    ในเรื่องของการศึกษาล่ะ...วางแผนไว้หรือยังค่ะ?
  

 ''อยากให้เค้ามีการศึกษาที่ดีที่สุดแล้วสิ่งที่สำคัญเลยก็คืออยากจะให้เค้า
ได้ 2 ภาษา อยากให้เรียนโรงเรียน 2 ภาษา
เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตวันข้างหน้าเราจะอยู่ที่นี่ไปจนถึงเมื่อไร
หรือเราจะไปอยู่เมืองนอกไหม ชีวิตเราจะเป็นยังไงก็ยังไม่รู้
เราก็ไม่อยากไปฟิกชีวิตเราให้มันมาก วุ่นวายเพราะมันจะทำให้เราเครียด
เอาเป็นว่าปีต่อปีเราอยู่ตรงนี้แล้วเราแฮปปี้ไหม ถ้าเกิดเราไม่แฮปปี้
เราพาลูกเราไปดูอะไรใหม่ๆ ต่างบ้านต่างเมืองบ้างดีไหม
แต่ที่สำคัญเลยก็คืออยากให้เค้าได้ภาษาเยอะๆ
เพระาว่าต่อไปในอนาคตในเรื่องของการติดต่อธุรกิจอะไรอย่างเนี้ยะ
ภาษาเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ''
    
    จะถึงขั้นส่งเข้าร.ร.นานาชาติเลยหรือเปล่า?
  
 ''ถ้ามีตังค์ก็อยากจะเป็นอย่างนั้นนะ (หัวเราะ)
แต่ถ้าไม่มีตังค์ก็...ตอนนี้ตัวเองเนี่ยะสอนลูกอยู่ 2 ภาษาอยู่แล้ว
ก็คุยกับลูกก็จะคุย 2 ภาษาคือภาษาไทยแล้วก็ภาษาอังกฤษ
อ๋อ...แล้วก็มีอีกภาษาคือภาษาเหนือ (หัวเราะ) แต่ว่างๆ
ก็มีอีสานบ้างอะไรบ้าง (ขำ) ก็ปนๆ กันไป
ให้เค้าได้เรียนรู้ว่าวัฒนธรรมของแต่ละที่ สิ่งของต่างๆ
ในแต่ละจังหวัดมันไม่เหมือนกัน ให้เค้าได้อยู่ติดดินดีกว่า
อย่างไปบ้านพี่ที่รู้จักกันที่อีสานก็จะให้เค้าได้ฟังภาษาอีสานเยอะๆ
แต่ตอนนี้จะพูดได้อยู่แล้ว (หัวเราะ) เด็กพูดอีสานน่ารักนนะแอนว่า''
    

เครดิตจากสยามดารา
Create Date :29 มกราคม 2555 Last Update :29 มกราคม 2555 17:18:01 น. Counter : Pageviews. Comments :0