bloggang.com mainmenu search


มินิซีรีย์ความยาว 10 ตอนสร้างจากบันทึกความทรงจำของนาวิกโยธินสหรัฐ
With the Old Breed: At Peleliu and Okinawa โดย Eugene Sledge
และ Helmet for My Pillow โดย Robert Leckie บอกเล่าถึงสงคราม
อันโหดร้ายที่พวกเค้าต้องเผชิญหน้ากับนักรบญี่ปุ่นในสมรภูมิแปซิฟิก

นอกจากสองคนนี้แล้ว ตัวเอกที่สำคัญที่เล่าถึงก็คือ John Basilone
วีรบุรุษจากกรมนาวิกโยธินที่ 1ในสงครามเพื่อแย่งชิงเกาะ Guadalcanal

John เกิดในปี 1916 ที่เมือง Buffalo รัฐ New York
พ่อของเค้า Salvatore Basilone อพยพมาจากเมือง Naples อิตาลี่
เมื่อเติบโตขึ้นเค้าได้สมัครเข้าร่วมกองทัพอเมริกา ประจำการอยู่ในฟิลิบปินส์
หลังจากทำงานอยู่ในกองทัพบก 3 ปี เค้าก็กลับบ้านและกลับไปมะนิลาอีกครั้ง
เพื่อเข้าร่วมกับหน่วยนาวิกโยธินในเดือนกรกฏาคม 1940

หลังจากได้รับการฝึกหลายแห่ง ก็เกิดสงครามสงครามแปซิฟิก
เมื่อฐานทัพเรือสหรัฐที่ฮาวายถูกโจมตีโดยกองทัพญี่ปุ่นในเดือนธันวาคม 1941
กองทัพแห่งองค์พระจักรรรดิ์ได้ขยายขอบเขตแหงอำนาจออกไปไกล
ถึงชายขอบดินแดนออสเตรเลีย พันธมิตรสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ในแปซิฟิก

7 สิงหาคม 1942 สหรัฐส่งหน่วยนาวิกโยธินเพื่อยกพลขึ้นบกที่เกาะ Guadalcanal
สร้างสนามบินชั่วคราวที่ถูกทิ้งร้างจากฝ่ายญี่ปุ่นขึ้นในชื่อ Henderson Field
แน่นอนว่ากองบัญชาการใหญ่ของทหารญี่ปุ่นย่อมไม่ปล่อยให้สิ่งนี้เป็นภัยคุกคาม

24 ตุลาคม นาวิกโยธินถูกโจมตีโดยกรมทหาร Sendai จำนวน 3 พันนาย
ในคืนที่สว่างไสวไปด้วยแสงจากปลายกระบอกปืน, ระเบิดขว้างและปืนครก
John ทำหน้าที่ควบคุมปืนกลหนักของกองร้อย ในแนวรับด้านปีกทั้งสองด้าน
ต้องวิ่งไปมาเพื่อให้หน่วยปืนกลสามารถส่งกระสุนออกไปได้อย่างต่อเนื่อง

เช่นการใช้มือเปล่าปลี่ยนลำกล้องปืนที่ร้อนจัด การแก้ไขปืนที่ขัดลำกล้อง
และการการวิ่งฝ่าดงกระสุนกลับไปเอากระสุนมาเพิ่มเติม ในที่สุดพวกเค้า
สามารถยันการบุกทหารญี่ปุ่นไว้ได้จนได้รับการเสริมกำลังในอีก 2 วันต่อมา

ด้วยความกล้าหาญในการปฏิบัติการในครั้งนี้ จึงได้รับการเสนอชื่อให้ได้รับ
เหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุด Medal of Honor และถูกส่งตัวกลับบ้านในฐานะ
วีรบุรุษเพื่อเดินสายขายพันธบัตรรัฐบาลเพื่อนำเงินไปใช้ในสงคราม



หลังการใช้ชีวิตในฐานะคนดังอยู่สองปี เค้าก็เบื่อหน่ายมันเต็มทนและร้องขอ
ที่จะกลับไปร่วมรบกับเพื่อนในสงครามแปซิฟิก 24 ธันวาคม 1943
เค้ากลับไปที่ Camp Pendleton, California เพื่อทำหน้าที่ครูฝึกทหารใหม่
ที่นี่เองเค้าได้พบรักกับจ่าทหารหญิง Lena Mae Riggi และแต่งงานกัน

19 กุมภาพันธุ์ 1945 John เดินทางเข้าสู่สมรภูมิอันแสนโหด
ที่เกาะ Iwo Jima ในตำแหน่งเดิมเหมือนเช่นที่ Guadalcanal
ในการปีนป่ายไปบนหาดทรายสีดำอันเกิดจากเถ้าถ่านของภูเขาไฟ
ทำให้นาวิกโยธินต้องติดอยู่กับที่และกลายเป็นเป้านิ่งของปืนใหญ่ฝ่ายญี่ปุ่น

ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงระเบิด ซากศพกลาดเกลื่อนไปทั่วชายหาด
John บุกไปตามแนวโพรงถ้ำที่ถูกขุดเป็นโครงข่ายใต้ดินขนาดใหญ่
โจมตีทหารญี่ปุ่นด้วยปืนกลและระเบิดมือ จากบังเกอร์หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง
ไปจนถึงสนามบินหมายเลข 1 แต่การต้านทานของญี่ปุ่นก็มิได้ลดน้อยลง

พวกเค้าต้องการความช่วยเหลือจากอาวุธหนัก หากต้องการบุกต่อไป

John วิ่งกลับที่แนวหลังและช่วยเหลือรถถังที่ติดอยู่ท่ามกลางห่ากระสุน
จนรอดออกมาและใช้ปืนใหญ่รถถังช่วยหน่วยนาวิกโยธินทำลายที่มั่น
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ในขณะที่เค้าวิ่งไปจนถึงขอบทางวิ่ง
กระสุนปืนครกลูกหนึ่งก็ตกลงมาสะเก็ดระเบิดคร่าชีวิตเค้าไปทันที

ด้วยความกล้าหาญในการนำทางรถถังออกจากกับดักสนามทุ่นระเบิด
และนำหน่วยนาวิกโยธินเจาะฝ่าแนวตั้งรับของฝ่ายญี่ปุ่นอย่างกล้าหาญ
John Basilone จึงได้รับเหรียญกล้าหาญเหรียญที่สอง Navy Cross
และได้รับการกล่าวขานว่า เป็นนาวิกโยธินสหรัฐเพียงคนเดียว
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ได้รับเหรียญกล้าหาญชั้นสูงสุดถึง 2 เหรียญ

ศพของเค้าได้ถูกส่งกลับและทำพิธีฝังอย่างสมเกียรติที่ Arlington, Virginia
ส่วน Lena M Basilone ภรรยาของเค้ามีชีวิตสืบต่อมาจนเสียชีวิตลง
ในวันที่ 11 มิถุนายน 1999 โดยที่เธอไม่เคยแต่งงานใหม่อีกเลย
Create Date :08 ตุลาคม 2553 Last Update :15 ตุลาคม 2553 16:13:06 น. Counter : Pageviews. Comments :6