bloggang.com mainmenu search
Boney M : Rasputin



ถ้าจะถามว่า อะไรที่ทำให้ Apple inc. บริษัทที่เคยเกือบจะล้มละลายหลุดพ้นหายนะมาได้
คงต้องตอบว่า มันคือการกลับมาของ Steve Jobs
แต่ถ้าจะถามว่าอะไรคือจุด พลิกกลับ จนกลายมาเป็นบริษัทที่มูลค่าทางการตลาดสูงเป็นอันดับ 1
คงต้องตอบว่า มันคือเสียงเพลงนั่นเอง

Clickwhell บน iPod ได้ปฏิวัติการฟังเพลงบนโลกนี้ตลอดไป
หลังจากที่พวกเค้าได้หลงใหลไปกับยอดขายโทรศัพท์มือถือที่ทำรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
วันนี้ Apple inc. ได้กลับมาทวงบัลลังก์บนวงการ music streaming
ด้วยการปล่อย music app. บน iOS 8.4

ด้วยการเปิดให้งานฟรี 3 เดือน มันทำให้ผมหวนย้อนกลับไปคิดถึงช่วงเวลาในอดีต
ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านของสถานบันเทิงยามค่ำคืนจากการมีนักร้องมาร้องเพลง
มาเป็นเต้นไปกับแสงสีและจังหวะดนตรีสุดมันส์ของการเปิดแผ่นโดยดีเจ
ยุคของดิสโก้เธค และศิลปินที่เป็นคนที่จุดประแสเพลงแนวนี้ก็คือ Boney M

ผมจึงเปิด blog ด้วย youtube ที่อัดขึ้นในปี 2015
ในรูปแบบของ Flashmob ที่เกิดขึ้นบนขบวน metro ในกรุงปารีส
เพื่อแสดงให้เห็นว่า ความ classic ของดนตรีนั้นไม่เคยมีวันตาย





Boney M. ก่อตั้งโดย Fank Farian นักร้องและนักแต่งเพลงชาวเยอรมัน
โดยการบันทึกแผ่นเสียงเพลงแรกคือ Baby Do you wanna bump ในปี 1974
ชื่อนั้นได้มาจากเมื่อวันหนึ่งเค้าเปิดทีวีเจอ end credit ตอนจบของซีรีย์สืบสวนสอบสวน
ที่มีชื่อ Boney เค้าพึมพำว่า Boney Boney Boney M และคิดว่ามันเป็นชื่อที่ดี

Bobby Farrell ออกจากอารูบา เมื่ออายุ15 เพื่อไปเป็นกะลาสีเรือ
ใช้ชีวิตอยู่ในนอร์เวย์ และฮอลแลนด์ ในที่สุดก็ได้งานเป็นดีเจอยู่ที่เยอรมัน
เพลงของ Boney M เริ่มโด่งดังอย่างช้าในประเทศเนอเธอแลนด์และเบลเยี่ยม
ทำให้ Farian คิดว่าจะต้องหากลุ่มคนขึ้นไปเป็นเต้นเป็นตัวแทนในทีวี

Agency ได้แนะนำนักร้องหญิงสองคนให้เค้า และหนึ่งในนั้นได้แนะนำ Farrel
เค้าจึงได้เข้าวง ในปี 1976 หลังจากนั้นก็มีการเข้าๆ ออกๆ ของนักร้องหญิงหลายครั้ง
จนในที่สุดก็มาลงตัวที่ผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 3 คน เป็นผู้ร้องบนเวที
Liz Mitchell, Maizie Williams, Marcia Barrett และ Bobby Farrell





ปี 1976 Fank Farian ออกอัลบั้ม Take the heart off me ให้ Boney M group
เช่นเดียวกับ Single แรก อัลบั้มนี้ ค่อยๆ ได้รับความนิยมขึ้นอย่างช้า
จนกระทั่งปลายปีพวกเค้าได้รับเชิญไปแสดงโชว์ในรายการทีวีเยอรมัน
หลังจากคืนนั้น เพลง Dady cool ก็ทะยานขึ้นอันดับหนึ่งในอันดับเพลง
ตามมาด้วยเพลง Sunny นับจากนั้นเพลงของ Boney M ก็ดังไปทั่วยุโรป

ในปี 1977 ก็มีอัลบั้มที่สอง Love for sale แต่ก็ต้องรอจนกระทั่งปี 1978
ที่เป็นปีของพวกเค้าเมื่อ single เพลง Rivers of Babylon โด่งดังไปทั่วโลก
พวกเค้าได้ออกอัลบั้ม nightlight of venus ซึ่งกลายเป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุด
ซึ่งมีเพลงฮิตที่จะกลายเป็นสัญลักษณ์ของพวกเค้าตลอดไปกาลก็คือ Rasputin

โด่งดังจนกระทั่งได้รับเชิญจากประธานาธิบดีเบรสเนฟของสหภาพโซเวียต
ซึ่งเป็นไปได้ยากมากในสมัยนั้น ที่สงครามเย็นระหว่างมหาอำนาจยังครุกรุ่น
ทั้งๆ ที่เพลง Rasputin เป็นสิ่งต้องห้ามไม่สามารถจะเปิดได้ในสหภาพโซเวียต

ในปี 1978 นั่นเองที่ Fank Farian ให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกว่า
นักร้องที่เห็น 4 คน บนเวทีนั้น มีเพียง 2 คนที่ได้บันทึกเสียง คือ Liz Mitchell
และ Marcia Barrett ส่วน Farrell และ Maizie ไม่เหมาะกับเพลงในสไตล์นี้
ดังนั้นเสียงนักร้องชายที่ได้ยินนั้นก็คือเสียงของตัวเค้านั่นเอง

แต่ในการทัวร์ concert ก็เป้นเสียงร้องจริงของพวกเค้าทั้ง 4 คน





ปี 1979 ออก single ชุดที่สอง (เพราะว่าหนึ่ง single มีสองเพลงมาตั้งแต่ชุดแรก)
มันไม่โด่งดังเท่า single ก่อนหน้า แต่ก็ยังดีพอที่จะติด top 10 ในหลายประเทศ
แต่เพลงหนึ่งในอัลบั้ม Bahama mama โด่งดังไปทั่วโลก
ส่งผลให้อัลบั้มที่ 4 ของพวกเค้า Ocean fantasy ได้รับความนิยมอีกเช่นเคย

จากยุคสูงสุดล่วงเข้าปี 1980 พวกเค้าเก็บเกี่ยวความสำเร็จด้วยการออกรวมฮิต
และนั่นก็เหมือนกับศิลปินอื่น ที่มันจะเป็นลางถึงความตกต่ำที่จะตามมา
อัลบั้มชุดที่ 5 นั้นออกอาการทุลักทุเล การออกอัลบั้ม Bonoonoonoos
จึงลากยาวไปจนถึงปี 1981 ในขณะที่ Bobby Farrell ถูกไล่ออกจากวง

เป็นครั้งแรกที่เพลงไม่ติด UK top 100 หลังจากที่ทำได้ในสามอัลบั้มก่อนหน้า
มีการจ้างนักเต้นชายคนใหม่เข้ามาแทนที่ แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่โดดเด่น
หลายๆ คนติดภาพนักเต้นของ Farrell พร้อมนักร้องสาวผิวสี 3 คนไปเสียแล้ว
ปี 1985 Fank Farian ก็ขาดความกระตือรือร้นที่จะทำวง Boney M ต่อ

ปี 1987 ในระหว่างการพักทัวร์ concert เป็นเวลา 3 เดือน
บางคนในกลุ่มเริ่มมีความคิดว่า อยากจะออกไปทำงานในแบบของตนเอง
การแยกวงก็เกิดขึ้น ต่างคนต่างจับกลุ่มและออกทัวร์ concert
นับจากนั้นการฟ้องร้องเพื่อช่วงชิงชื่อวง Boney M ในศาลจึงเริ่มขึ้น





ปี 1990 ศาลเยอรมันตัดสินให้ทั้ง 5 คนมีสิทธิ์ที่จะใช้ชื่อวงได้เท่าเทียมกัน
มันเป็นคดีที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นตัวอย่างที่ claasic มากในเรื่องลิขสิทธิ์
หลังจากนั้นการทัวร์ concert ในนาม Boney M จึงเกิดจากฟอร์มทีม
ของ Liz Mitchell และ ทีมของ Bobby Farrell ที่ต่างก็ใช้ชื่อวงเดียวกัน

ปี 2010 มีข่าวพาดหัวตัวเล็กๆ ที่แทบไม่มีคนสนใจบน internet ว่า
Bobby Farrell อดีตนักเต้นวง Boney M ได้เสียชีวิตลงด้วยวัย 61
หลังจากที่ลงมาจากการทัวร์ concert ในกรุง Saint Petersburg
Boney M จึงยังคงมีลมหายใจที่เหลือเพียงจากทีมของ Liz Mitchell

แม้ศาลจะตัดสินให้ทั้ง 5 คนสามารถนำชื่อวงไปใช้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
แต่อย่าลืมว่ามันยังมีเงินจำนวนมหาศาลอันเป็นรายได้จากค่าลิขสิทธิ์
ดังนั้นแม้เราจะไม่เคยเห็นหน้าของ Fank Farian เลยมาก่อนในชีวิตเลยก็ตาม
แต่หากกดซื้อเพลงของ Boney M แล้วละก็ เค้าก็จะเป็นผู้รับเงินส่วนนั้นนั่นเอง

อีกหนึ่งเรื่องราวที่อาจกล่าวได้ว่า เป็นตำนานอีกบทหนึ่งของยุคสมัย
ถ้าคุณเกิดไม่ทันมันก็คงอ่านไม่สนุก แต่ผมก็ยังยินดีที่จะเล่าให้ฟัง
ปิดท้ายด้วย Rasputin version ล่าสุดของ Liz Mitchell ที่ผมชอบมาก
ลองย้อนกลับไปดู version แรกแล้วทายซิว่า เธอคือคนไหนกันน้า ?
Create Date :06 กรกฎาคม 2558 Last Update :4 ตุลาคม 2558 2:02:15 น. Counter : 1768 Pageviews. Comments :4