Apollo 13 : ผ่าวิกฤตอวกาศ (2) ที่เวลา 56 ชั่วโมงหรือ 330,00 กม. หลังจากถูกปล่อยจากสถานีอวกาศเคเนดี้ เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินสั่งให้ Swigert เปิดพัดลมเพื่อกวนถังออกซิเจนและไฮโดรเจนซึ่งเป็นไปตามตารางปรกติในการป้องกันการแข็งตัวและให้อ่านค่าได้ถูกต้องแต่สิ่งที่พวกเค้าไม่รู้เลยก็คือ นั่นคือคำสั่งจุดระเบิดยาน Apollo 13 เมื่อ Swigert เปิดมอเตอร์เพื่อกวนถังออกซิเจนหมายเลข 2 มันระเบิดออกทำลายห้องเก็บแบตเตอรี่หมายเลข 4 และตัวถังยานที่ทำจากอลูมิเนียมความดันก๊าซในถังลดลงจาก 1000 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ไปเรื่อยๆทั้งนักบินอวกาศและเจ้าหน้าภาคพื้นดินต่างตกใจในสิ่งที่เกิดขึ้นแรงระเบิดของถังหมายเลข 2 ยังทำลายท่อและวาล์วของถังหมายเลข 1 ทำให้ก๊าซออกซิเจนอันมีค่าไหลออกไปจนหมดภายใน 130 นาทีต่อมาผู้อำนวยการโครงการ Gene Kranz สั่งให้ยกเลิกภารกิจและอพยพนักบินอวกาศจาก Service Module ที่เสียหายมายังLunar Module ที่ระบบต่างๆ ยังสามารถทำงานได้ให้นักบินมีชีวิตรอดซึ่งขัดแย้งกับโปรโตคอลฉุกเฉินของขั้นตอนกลับสู่โลกที่กำหนดว่า ให้สลัด Lunar modur ทิ้งแล้วหันยานกลับ จากนั้นจุดจรวดขับดันของส่วน Service Module จนได้ความเร็วถึง 1,853 m/s ซึ่งเพียงพอที่จะกลับสู่โลกในเวลา 56 ชั่วโมง แต่มันทำไม่ได้เพราะตอนนี้พวกเค้าไม่รู้ว่าเครื่องยนต์หลักอยู่ในสภาพที่ทำงานได้หรือไม่การระเบิดทำลายอะไรไปบ้าง ถ้าผลีพลามอาจจะเสี่ยงต่อการทำลายยานในขณะเดียวกันพวกเค้าก็ไม่สามารถจะทิ้ง Lunar module ที่ยังให้ชีวิตได้ดังนั้นพวกเค้าจึงต้องคิดแผนใหม่ นั่นก็คือใช้แรงเฉื่อยที่มีอยู่ในตอนนี้ขณะที่ยานยังคงมุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ ให้โคจรผ่านหน้าแล้วอาศัยแรงดึงดูดเพื่อเหวี่ยงยานให้กลับมายังโลก จากนั้นใช้เครื่องยนต์ขนาดเล็กของ LMที่ยังเชื่อมั่นว่าไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากแรงระเบิดในการเร่งความเร็วแต่ปัญหาคือ วิธีนี้จะเพิ่มเวลาของนักบินที่ต้องอยู่ในอวกาศไปอีก 3 วันแทนที่จะเป็นวันเดียว ในขณะที่เหลือออกซิเจนและพลังงานที่น้อยเต็มทีและต้องแบก Lunar module ที่เทอะทะ แต่มีพลังงานและออกซิเจนสะสมไว้สำหรับการลงจอดบนดวงจันทร์ เพื่อให้รอดชีวิตมาถึงระยะใกล้โลกอีกครั้งที่ 61 ชั่วโมงครึ่ง พวกเค้าต้องปรับทิศทางยานเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์บนภาคพื้นดิน มีการถกเถียงอย่างยาวนานเรื่องตัวเลือกระหว่าง ปล่อยให้ยานอวกาศอาศัยเพียงแรงเหวี่ยงกลับมาสู่โลก หรือจะจุดระเบิดเครื่องยนต์ แต่ปัญหาก็คือ เครื่องยนต์หลักของ LM ถูกออกแบบมาให้ทำงานช่วงสั้นๆ เพียงพอชะลอการลงดวงจันทร์ และขึ้นจากดวงจันทร์กลับไปยังวงโคจรถ้าพวกเค้าจะระเบิดนานไปกว่าที่ออกแบบไว้เป็นไปได้ที่อาจเกิดระเบิดในที่สุด Gene Kranze เลือกที่จะสั่งจุดระเบิดและคำนวณเวลาที่เหมาะสมเมื่อยานอวกาศออกจากด้านมืดของดวงจันทร์ นักบินก็ติดเครื่องยนต์ของ LMเพื่อจะร่นระยะเวลาการมุ่งหน้ากลับสู่โลกลงอีกราว 56 ชั่วโมงช่วยเพิ่มโอกาสให้นักบินอวกาศสามารถมีชีวิตรอดกลับมาสู่โลกLunar module ออกแบบไว้สำหรับมนุษย์อวกาศสองคนเป็นเวลา 1 วันครึ่งไม่ใช่สำหรับสามคนในเวลา 4 วัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก๊าซออกซิเจนที่เก็บในถังขนาดเล็กเพียงพอสำหรับแค่ใช้ในการสำรวจดวงจันทร์นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องพลังงาน ใน LM มีเพียงแบตเตอรี่เก็บไฟต่างจาก SM ที่ผลิตกระแสไฟฟ้าเองได้จากปฏิกิริยาของเซลล์เชื้อเพลิง และผลพลอยได้อีกอย่างที่สำคัญก็คือ น้ำที่ได้จากสมการเคมีดังนั้นพวกเค้าจำเป็นต้องปิดระบบทุกอย่างจนกว่าจะใช้งานมันอีกครั้งเพื่อเปิดระบบนำทางกลับในกรณียกเลิกภารกิจ ที่มีไว้ใน LM ซึ่งเครื่องนี้ใช้น้ำและแบตเตอรี่น้อยกว่าระบบนำทางปรกติใน SMปัญหาอย่างที่สามคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้นจากการหายใจซึ่งบนยานใช้สารเคมีที่เรียกว่า ลิเธี่ยมไฮดรอกไซด์เพื่อเก็บกักมันไว้แต่ด้วยเวลาที่เพิ่มขึ้นจะทำให้มันมีใช้ไม่เพียงพอจนกว่าจะกลับสู่โลกเพราะ SM ที่พังไป ทำให้พวกเค้าต้องมาหลบภัยใน Lunar moduleแต่แผ่นดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ของ LM นั้นต่างไปจากของ SMและก็เป็นอย่างที่เห็นในหนังคือ พวกที่อยู่บนโลกต้องพยายามหาหรทางใช้ของที่มีตรงหน้าดัดแปลงแผ่นสีเหลี่ยมให้ไปอยู่ในกระบอกทรงกลมปัญหายังมีไม่จบสิ้น เนื่องจากพวกเค้าต้องปิดระบบคอมพิวเตอร์ใน Command Module ทั้งที่มันถูกออกแบบให้ต้องทำงานตลอดเวลาดังนั้นไม่มีใครรับรองได้ว่า เมื่อพวกเค้าต้องเปิดมันอีกครั้งเมื่อใกล้โลกมันจะสามารถเปิดขึ้นมาใหม่ได้อีกครั้งหรือไม่และปัญหาที่สำคัญก็คือ การเปิดขึ้นใหม่มันจะไม่ได้พลังเท่าปรกติเพราะตอนนี้ระบบแบตเตอรี่ในยานหลักที่เป็นเซลล์เชื้อเพลิงพังไปแล้วพวกเค้าต้อง reboot มันด้วยพลังงานแบตเตอรี่ที่มีแรงดันน้อยของ LMในหนังเราจะเห็นภาพการจำลองสถานการณ์ดังกล่าวโดยนักบินอวกาศMatthingly II คนที่เป็นสงสัยว่าจะเป็นหัดเยอรมันเลยอดขึ้นบินในยานจำลองเพื่อหาหนทางในการ boot computer ขึ้นมาใหม่ นอกจากปัญหากระแสไฟต่ำ เค้ายังต้องเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับปัญหาว่าในยาน LM ที่เปิดระบบทำความร้อนให้อุณหภูมิลดต่ำลงเหลือเพียง 4 องศานั่นเอาจะเป็นไปได้ว่า เครื่องคอมพิวเตอร์ที่จำเป็นต่อการใช้ลงจอดใน CMจะมีน้ำในอากาศที่จับตัวเป็นละออง เมื่อพวกเค้าปล่อยไฟเข้า มันจะเสียหาย แต่พวกเค้ายังคงเชื่อมั่นว่า หลังเหตุการณ์ไฟใหม่ใน Apollo 1 อุปกรณ์เหล่านี้จะถูกห่อหุ้มไว้เป็นอย่างดี ไม่น่าจะเป็นปัญหาหลังจากต่อสู่ต่อความหนาวเย็น และการแก้ปัญหาหลายอย่างก่อนที่ Apollo 13 จะถึงจุดปฏิบัติการช่วงสุดท้าย ก็มีคำถามว่า จะปลดยาน service module อย่างไรก่อนขบวนการกลับสู่โลกเพราะตอนนี้ ไม่มีพลังงานที่จะไปสั่งการอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ปลดในที่สุดพวกเค้าก็หาทางออกด้วยการใช้แรงดันที่แตกต่างระหว่างยานซึ่งต้องมีการคำนวณ เพื่อให้เกิดระยะห่างที่จะไม่เกิดอันตรายต่อยานหลังจากเดินทางมา 138 ชั่วโมง นับจากออกจากโลก ในที่สุดนักบินอวกาศก็ได้เห็นภาพความเสียหายของ service moduleพวกเค้าได้เก็บภาพนั้นไว้ ซึ่งจะถูกนำมาวิเคราะห์สาเหตุในภายหลัง3 ชั่วโมงถัดมาพวกเค้าก็ได้เวลาออกจาก lunar module ยานที่ช่วยชีวิตเค้ามาตลอดระยะเวลาสี่วันหลังการระเบิดเข้าสู่ command module เพื่อเข้าสู่กระบวนการกลับสู่โลก บนสถานีภาคพื้นดิน ไม่มีอะไรที่พวกเค้าทำได้หลังจากนี้อีกแล้วเพราะความร้อนที่เกิดจากการเสียดสีของเกราะกันความร้อนจะเผาไหม้อากาศรอบๆ ให้กลายสถานะเป็นไอพลาสมาซึ่งขัดขวางการรับส่งสัญญาณวิทยุ ทำไม่สามารถติดต่อนักบินได้พวกเค้าได้แต่ภาวนาให้เกราะกันความร้อนและร่มชูชีพไม่เสียหายการเข้าสู่กระบวนการนับถอยหลัง ซึ่งกินระยะเวลาประมาณ 1 นาทีหลังครบกำหนดเวลา ที่คาดว่ายานจะตกถึงพื้นมหาสมุทร วิทยุติดต่อยังคงเงียบสนิท จนกระทั่งผ่านไปถึง 87 วินาทีนานกว่าโครงการ Apollo ใดๆ ที่ผ่านมา พวกเค้าก็ตอบวิทยุจบสิ้นการเฝ้าคอยการกลับมาของชาวอเมริกันทั้งประเทศหลังจากนี้คงเป็นเวลาที่สาธารณชนตั้งคำถามว่าเกิดอะไรกับโครงการที่ใช้ภาษีไปนับพันล้านเหรียญนี้ Create Date :08 มกราคม 2559 Last Update :8 มกราคม 2559 10:48:28 น. Counter : 1124 Pageviews. Comments :3 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก หนังฝรั่ง บางทีดูแล้วก็งงค่ะ จบแบบทิ้งท้ายให้เราหาคำตอบเอง คิดเอง โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 8 มกราคม 2559 19:41:03 น.ขอบคุณที่นำสาระดีดีมาฝากเสมอสวัสดีปีใหม่ค่ะ โดย: อุ้มสี 11 มกราคม 2559 10:20:24 น.เขาน่าจะไม่ใช้เลย 13 ด้วยนะคะ เอาไสยศาสตร์เข้าด้วย โดย: tuk-tuk@korat 13 มกราคม 2559 12:43:52 น.
โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ 8 มกราคม 2559 19:41:03 น.
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
โดย: อุ้มสี 11 มกราคม 2559 10:20:24 น.
โดย: tuk-tuk@korat 13 มกราคม 2559 12:43:52 น.