ไผควรตี - ผีควรตาย 09.42 น. วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549ข้าฯ ไม่รู้ - ครูไม่ล้า ... ข้าฯ สองขวัญข้าฯ ต้องฝัน - ขันต้องคว้า ... หาน้ำดื่มข้าฯ กระหาย - ใครกล้าหา ... มาหลงปลื้มข้าฯ ไม่ลืม - ขรึมไหม ลา ... คว้าให้ทัน09.49 น. วันอาทิตย์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549........................................................................................วันที่ 27 กรกฎาคม 2549 คุณ : **คนผ่านมาเจอ** ... ตั้งกระทู้ ในห้องกวีการเมืองน่าเสียดาย ที่ กระทู้นี้ ถูก "ปฏิรูป" พันทิบลบหายไป........................................................................................เราและท่านตามหาฝันอะไรกันอยู่เราและท่านฝันจะอยู่รอดใช่ไหมเล่าฝันของเราและท่าน ... มันจะอยู่รอดได้อย่างไรขอยกกระทู้ทั้งหมดมาให้ท่านช่วยกันฝันต่อครับ****************************************************************************************เราและท่านที่ฝันกันในวันนี้เราและท่านต่างกระทำตามฝันมันจะมีผลต่อลูกหลานเราในวันหน้าท่านจะฝัน และจะกระทำตามฝันนั้นในแนวทางใด********************************************กระทู้ PANTIP_COM P4571462 บาป___บุญ___คุณ___โทษ___กฏแห่งกรรม [กวีการเมือง]********************************************บาป...บุญ...คุณ...โทษ...กฏแห่งกรรม? บาป...เพราะใจ ใฝ่ต่ำ อยากทำชั่วบาป...เพราะตัว ตามใจ ไปทำผิดบาป...เพราะใจ ไม่ปราม ห้ามใจคิดบาป...จึงติด ตรึงใน กาย-ใจตนบุญ...เพราะใจ ใฝ่ดี หนีความชั่วบุญ...เพราะตัว ทำดี มีมรรคผลบุญ...เพราะใจ เตือนใจ ไม่มืดมนบุญ...จึงดล สุขกาย สบายใจคุณ...คือผล กรรมดี ที่สะท้อนคุณ...คือพร แห่งสวรรค์ บันดาลให้คุณ...คือบารมี ที่เกรียงไกรคุณ...คือชัย ที่สง่า สมค่าคน โทษ...คือผล แห่งกรรม เมื่อทำชั่วโทษ...คือตัว ฉุดใจ ให้หมองหม่นโทษ...คือกรรม ที่ตามทัน บันดาลดลโทษ...คือผล ความชั่ว ติดตัวตายกฏแห่งกรรม? บาปหรือบุญ? คุณหรือโทษ?รู้ตั้งโจทย์ เตือนใจ ยังไม่สาย ก่อกรรมใด ย่อมผลให้ แก่ใจกายเพราะสุดท้าย ไม่พ้นกฏ "ชดใช้กรรม" ...นครา ประไพพงศ์... จากคุณ : **คนผ่านมาเจอ** - [ 27 ก.ค. 49 00:53:12 ] ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 1 ได้นอนคุกสี่ปีดีแท้แท้มาเสียมวยตอนแก่ไม่เข้าท่าสู้ลาออก ไปทำไร่ ไปทำนาเลิกหน้าหนา รู้จักอาย สบายเอย จากคุณ : cybrarian - [ 27 ก.ค. 49 01:06:33 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 2 ^^ชอบครับ จากคุณ : Filmnoir - [ 27 ก.ค. 49 01:10:49 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 3 คนที่รัก กกต. ต่อว่าศาลเตรียมสั่งเสียที่บ้านแต่เนิ่นๆคงได้ไปเยี่ยมพี่หนา พาเพลิดเพลินได้หยอกเอิน ในห้องขัง ไม่วังเวง จากคุณ : cybrarian - [ 27 ก.ค. 49 01:25:24 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 4 ู^^ชอบเช่นกันครับ จากคุณ : man8000 - [ 27 ก.ค. 49 01:25:52 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 5 ทำไมจึงต้องแยก แตกเป็นฝ่ายน่าเหนื่อยหน่าย เสียจริง อยากวิ่งหนีในหลวงท่าน ให้รัก สามัคคีช่วยคิดดี สร้างชาติ ดีกว่าไหม? จากคุณ : Mudady - [ 27 ก.ค. 49 02:20:05 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 6 กงล้อประวัติศาสตร์ จะย้อนมาอีกครั้ง ??9 ตุลาคม 2519 เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย วันเวลาหมุนไป 30 ปี15 ตุลาคม 2549จะมีเลือกตั้ง หรือ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิม ?? จากคุณ : honeymon - [ 27 ก.ค. 49 05:17:56 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 7 06.06 น.บาป.....ไม่บาป ทราบได้..........อย่างไรบุญ......ไม่บุญ คุณใคร............ทราบบ้างคุณ......ไม่ทราบ ทำไม.............ไม่ทราบโทษ....ไม่โทษ โปรดสร้าง........สติด้วยตัวคุณบาป....ใช่บุญ คุณรู้..................แก่ใจโบสถ์...หนึ่งพรรษา ไป............บวชบ้างคุณ.....ก็ใช่ คนไทย.................รักพ่อ หลวงแนทุน......พ่อสะสมสร้าง................เสื่อมแล้วหรือคุณ06.18 น.ฝากคำผวน ล้วนข้อไข ภาษาใจภาษาไทย ให้ท่าน **คนผ่านมาเจอ** พลั้งเผลอได้อักษรศิลป์ ปิ่นสวรรค์ ประหารใจบาป บุญ คุณ โทษ...ใคร เข้าใจจริง 06.24 น...........................................................................ขอฝากวลีกวีใจที่ได้จารึกไว้ในวันที่มีมหาหลงวัดและคณะจัดม้อบกองทัพธรรม มาประท้วงต้านเบียร์ช้าง ให้พิจารณา..........................................................................10.03 น. วันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2548บาปบุญ คุณโทษ ให้..............โทษใคร กันเฮยโทษบาปบุญ คุณไย...............โทษเจ้าโทษคุณท่านโทษไหม............เฒ่าไม่ โทษฮาคุณโทษ โคตรทุน เถ้า.......โทษเหล้าช้างเบียร์สมดุลเพี้ยน...เปลี่ยนบาปบุญ...คุณโทษเหล้า ใช่งี่เง่า...เฒ่าโทษคุณ...วุ่นวายไหมเฒ่าว่างงาน ท่านวางเง่า...ไม่เข้าใจ วุ่นวายไย...ไม่สวดมนต์...ฝึกฝนใจกลัวสร้างบาป กราบสร้างบัว...มัวใจหนัก เห็นกงจักร เป็นดอกบัว...มั่วกันใหญ่คิดได้บุญ คุณได้บิด...คิดหมุนไป โทษหมุนได้...หมุนโทษใคร ไม่โทษคุณโทษบาปบุญ ทุนบาปโบสถ์...โทษคุณชั่ว คนชี้มั่ว คนชั่วมี...ชี้หัวหมุนเฒ่ากลัวโทษ เฒ่าโกรธทั่ว...โทษตัวคุณ โทษบาปบุญ คุณโทษ โคตรทุน แรง11.04 น. วันพฤหัสบดี ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2548..........................................................................บาปบุญคุณโทษ...คุณคิดโทษใคร...ภาษาไทยมีอาถรรพ์ แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 06:52:25 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 27 ก.ค. 49 06:40:32 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 8 มาแต่งกลอนธรรมะ ป๊ะโท่นโท่นตีตะโพน ร้องยี่เก ทำเฉไฉเรื่องบาปกรรม ก็เห็นอยู่ว่ากรรมใครตัวบาปไซร้ส่งนอนคุก สนุก เอย จากคุณ : cybrarian - [ 27 ก.ค. 49 09:49:05 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 9 10.07 น.ร้องยี่เก...ทำเฉไฉ...ใครเล่า "เก"กลอนธรรมะ..."มะ" ฮาเฮ...เกไฉเฉ"เก" ใช้วัด...วัดอะไร...ใจดูเกนามก็เท่ห์...cybrarian - เซียนบ้า ไล่ฮา ห่า ห้า...อยู่นรก...โลกมนุษย์บาปบริสุทธิ์...สามหาว - สาวห่าม...ใหญ่ห้า ห่า ฮา...หลงบริสุทธิ์...กระสันใจตัวบาปไซร้ส่งนอนคุก...ฉุกคิดฮาตัวบาปไซร้...เสือกไสส่ง...จงเข้าคุกตีความถูก...ตัวบาปไซร้...ใครเล่าหนามองต่างมุม...รุม กอกอตอ...ตัวบาปนาcybrarian...ดันหาว่า "ศาล" ตัวบาป...สาปส่งใครภาษาไทย...ไปศึกษา...ให้กระจ่างอย่ามาอ้าง...ว่าแตกฉาน...มันบ้าใบ้ภาษาไทย - ภัยสาธาร์...ภาษาใจcybrarian - เซียนบ้า ไล่...ไป "โรงเรียน"10.25 น...........................................................................ฮา ห่า ห้า.....................555....................ห้าห่า ฮา แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 10:27:44 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 27 ก.ค. 49 10:26:47 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 10 คร้านจะอ่านกลอนยี่เก กลอนหัวกุดจะจับจุด จับประเด็นไม่เห็นได้แวะมาเยี่ยม ส่งข้าวผัด โอเลี้ยงไปฝากนกโก๊ก ส่งไป ให้พี่ชายพี่นอนรอ ขอประกัน สองวันแล้วเสวยแห้ว ต่างข้าว เขาถวายร้องยี่เก เสียงตกร่อง อยู่ไม่วายจะขอตายเพื่อประชาธิปตวย (55555) จากคุณ : cybrarian - [ 27 ก.ค. 49 11:49:16 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 11 12.13 น.เป็นคนไทย...ใจหน่อเนื้อ...เชื้อพ่อขุนเป็นคนไทย...ใจบุญ...หนุนส่งฟ้าเป็นคนไทย...ใจพระ...อนิจจาเป็นคนไทย...ใจหาญกล้า...อนิจจังเป็นเจ้าบท...เจ้ากลอน...สอนสลักเป็นจอมจักร์..จอมคน...มีมนต์ขลังเป็นยาจิต...ยาใจ...ไม่คุ้มคลั่งเป็นผู้เดิน...ตามหลัง...พระพุทธองค์เป็นไฉน...ไยเพียงกึ่ง...พุทธกาลเป็นคนพาล...เพียงเพื่อถึง...ซึ่งประสงค์เป็นคนขลาด...เขลาจิต...ไม่ปลิดปลงเป็นคนหลง...ข้ามไม้ล้ม...ขย่มคนฤๅพระอภัย...เพียงคำกลอน...สุนทรภู่ท้าวมาลีวราช...ว่าความอยู่...ในหนังสือcybrarian...เชิญหัวร่อ...ล้อครูฤๅธรรมจักร์...วงล้อหรือ...จะรู้ซึ้ง "เมื่อถึงวัยชรา"12.39 น.ฮ่า ฮ่า ฮ่า...ถ้าแน่จริงเซฟไว้อ่านตอนแก่เฒ่า...จะเข้าใจ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 27 ก.ค. 49 12:41:16 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 12 คุณนกโก๊ก โฮกป๊ก ตับนกแก้วทำเพลงช้าปี่ แล้ว พระเจ้าข้าอัน "ตัวบาป" มิใช่ "ศาล" อ่านกลอนมาโปรด "ศึกษา" ซึ่ง "สาร"ส่ง ความจงใจอันหม่อมฉัน "ยังเยาว์ เขลา และ ทึ่ง"หม่อมฉันจึง ตอบความตามวิสัย ยังห่างวัด ห่างเมรุ ไม่เจนใจจะล้อครู ล้อใคร นั่นไม่รู้รู้แต่ล้อไม้ล้ม ขย่มซ้ำใครกระทำ กรรมไว้ ให้อดสูภาษิตว่าลงไม้ไล่ตีงูจงปลิดชีพอย่าให้อยู่มากัดคนทำเพลงราชนิเกริง บำเทิงแล้วพ่อนกแก้ว นกโก๊ก โผผกหนไม่เซฟกลอนเซฟไรไห้กังวลอยู่กับตน กับ ขณะ ปัจจุบัน จากคุณ : cybrarian - [ 27 ก.ค. 49 13:12:18 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 13 14.02 น.ห้า ห่า ฮา..อยู่กับตน - ย่นกับตูยู อยู่ ยู่...กับ ขณะ - กะ ขับนะปัจจุบัน - ปันจุบัจ...บัตรอะไรวะบรรจุวิบัติ...กันแล้วว่ะ...ห้า ห่า ฮาอดีต - Eat ดะ...น่าจะรู้ปัจจุบัน...วิบัติแล้วหนู...นกรู้ว่าอนาคต - อดนาคะ...ฮา ห่า ห้าหลงเริงใจ...ไม่รู้หา...พระแสงอะไรกัน14.12 น.ไปเฝ้าพระอินทร์ดีก่า...ห้า ห่า ฮา แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 14:28:39 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 14:25:03 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 27 ก.ค. 49 14:14:01 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 14 บาป...บุญ...คุณ...โทษ...โทษ...คุณ...บุญ...บาปบาป ..ทำไป ไม่สำเหนียก เรียก หน้าที่บุญ ..เคยมี ยิ่งใหญ่ แผ่ไพศาลคุณ ..ประโยชน์ สั่งสมมา เป็นช้านานโทษ.....ของการ ทำความผิด ไม่คิดเลยโทษ.....ครั้งนี้ เป็นผล ที่ตนสร้างคุณ.....จะอ้าง วาจา มาเฉลยบุญ.....ก็ทำ อย่างตั้งใจ เหมือนไม่เคยบาป.....มาเกย เสยเอา เข้าใส่กรงบาป.....จะร้อง ผ่อนผัน ฉันนั้นขอบุญ.....ที่ก่อ จะรอรับ อย่าลืมหลงคุณ.....ได้โปรด คิดใหม่ เที่ยงตรงโทษ.....นี้คง ผ่อนผัน ให้บรรเทาโทษ.....นี้หนัก นักหนา ว่าตามผิดคุณ.....ไม่คิด เลิกรา เมื่อคราเก่าบุญ.....ที่ก่อ ไม่เพียงพอ ให้ทุเลาบาป.....ของเจ้า ยิ่งใหญ่ ไม่ต้องรอ(ลงอาญา) สั่งขัง เอย.................................................................................... แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 16:35:42 แก้ไขเมื่อ 27 ก.ค. 49 16:32:57 จากคุณ : Klass - [ 27 ก.ค. 49 16:31:32 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 15 บาป......เพราะเบียดเบียนกันนั่นแหละบาปบุญ.......เพราะจิตกำหราบกิเลสได้คุณ.......คือผลส่งให้ดีพ้นอบายโทษ.....คือผลส่งให้หายนะก็รู้กันดีอยู่รู้ดีชั่วไปเกลือกกลั้วชั่วจึงพาหาขยะเหม็นไปทั้งบุรีทั้งชีพระถึงคราวปะพบผลกรรมที่ทำไว้เมื่อคราวมีอำนาจก็อาจหาญหมดอำนาจก็พลันเปลี่ยนไปได้เคยยืดอกก็คอตกไม่มองใครเป็นเวรกรรมทำเอาไว้หนีไม่ทันบุญก็บุญบาปก็บาปรับต่างผลทำดีไว้หลายหนขึ้นสวรรค์ทำชั่วเข้าตกอบายไปตามกันคุณแลโทษผกผันตามตัวกรรม จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 27 ก.ค. 49 20:42:03 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 16 ........*รู้แต่ล้อไม้ล้ม ขย่มซ้ำใครกระทำ กรรมไว้ ให้อดสูภาษิตว่าลงไม้ไล่ตีงูจงปลิดชีพอย่าให้อยู่มากัดคน....*อนิจา....วาทีใครนี้หนอครื้นเครงพอ ความทุกข์ใคร ฉันไม่สนช่างแผกเหล่า ผ่ากอ ไทยทุกคนเออ ชอบกล เคียดแค้นใด ไยจองเวร*คำโบราณสอนไว้ ใจปิดรับแหมยังจับมาบิดเบือนเหมือนพวกเถรไม้ขอนโค่น คนล้มคว่ำ ตกลำเค็ญมีกฏเกณฑ์ คนดีนี้ มิข้ามไป*นี่กระไร ชื่นชม ขย่มซ้ำพาลขย้ำ ใครคิดแตกแยกไฉนคุณธรรมนั้นไม่มีที่ดวงใจชอบไปไย เฉยไม่เป็น โถ เวรกรรม *ยามดวงตก ผิดพลั้งไป จึงได้คุกจะนั่งลุก ก็ลำเค็ญ ไม่เห็นขำว่าศาลเที่ยง ตัดสินเลิศ ประเสริฐคำอ้างว่ากรรม แล้วไฉน ไยไม่พอ*แน่ใจหรือ ว่าไม่มี คดีซ้ำเริงระบำ โห่ฮิ้ว ฮา มาตามขอว่าชนะ กรรมไม่ถึง จึงต้องรอคุกมีพอยังใส่ได้อีกหลายมาร*ขออัญเชิญดวงวิญญาณบรรพบุรุษโปรดรีบรุดเด็ดชีพไปหลายสถานลูกนอกคอก หลานเนรคุณ วุ่นมานานพวกชอบผลาญแตก แยกไทยให้พ้นแดน*ความบันเทิงเริงรื่นชื่นพวกนี้เมื่อไทยไร้สามัคคี ที่หวงแหนคำพ่อหลวงทรงขอไว้ไยดูแคลนใครเป็นแกนทำลายชาติพินาศไป..... แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 49 00:31:40 จากคุณ : สิคีรียา - [ 28 ก.ค. 49 00:27:46 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 17 บ้านเมืองเรา ยามนี้ ที่วุ่นวุ่นก็เพราะคุณ มัวแต่หาว่า *ใครผิด*ตามลงโทษ *ตัวคน* กันสุดฤทธิ์ไม่มีจิต เป็นกลาง เหมือนอย่างควรควรกลับมา สงบใจ เพื่อได้คิดว่าสิ่งผิด คืออะไร แก้ไขด่วนแก้ที่ตัวหลักการ ผ่านกระบวนสิ่งใดควร ไม่ควร ค่อยคิดไปยึดที่หลัก มาวิจารณ์ กันไปทั่วไม่หมองมัว ขุ่นใจ เลยใช่ไหมวิจารณ์คน แตกฝ่าย กันไปใยควรอภัย แล้วกลับมา สามัคคี จากคุณ : Mudady - [ 28 ก.ค. 49 02:00:36 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 18 ถึงคุณสิคีรียา เจ้าข้าเอ๊ย ฟังกลอนแล้ว ฉันอยู่เฉยก็ไม่ได้แม่เห็นบัวเป็นกงจักรหรืออย่างไรนี่น้อยไซร้ ไม่พอสมกระบิลเมืองเป็นงูเงี้ยว เขี้ยวร้ายทำลายชาติสมควรฟาดให้หลังหักจึงจักเชื่องตีงู "หนา" งู "ด้าน" ประจานเมืองสมควรเคืองขึ้งโทษ โกรธ โกรธานี่อยู่ๆมายัดเยียดให้ดีฉันเป็นเผ่าพันธุ์เนรคุณ ไม่รู้ค่าโอ้ย.. มันคนละเรื่องโยงกันมาแค่ฉันสมน้ำหน้า กกต.เชิญก็เชิญมาเถิดทั้งปวงผีที่ตายโหง ตายดี ตายตกท่อมาแลบลิ้นปลิ้นตามาให้พอแต่ฉันขอหนึ่งเรื่อง ที่เคืองกันโปรดอย่าได้เอาองค์พระทรงยศมาโยงใยให้ปรากฎในกลอนฉันท์ ฟ้าอยู่สูง ดินอยู่ต่ำ เป็นสำคัญจะอ้างไร ให้ตรองกัน เป็นมั่นคงอย่าตีความตีขลุม ให้คลุมเครือตีความเพื่อว่าอื่นเขา เราแหละหลงธรรม คือ ธรรม ธงธรรม จะธำรง บัดเดี๋ยวส่งฝากนกโก๊ก คลายโศกเอย จากคุณ : cybrarian - [ 28 ก.ค. 49 02:06:14 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 19 12.57 น.บัดเดี๋ยวส่งฝากนกโก๊ก คลายโศกเอยส่ง cybrarian...ไปให้เฆี่ยนตีเลย...เอาไหมพี่สิคีรียา...ขุนเขาเทวาลัย...ตีให้ทีใต้ขุนเขา "มหา,ลัย ผี"... มีหลักสูตร...ให้ภูติเรียนกี่ปีตีงู "หนา" งู "ด้าน" ประจานเมืองตีงูให้กากิน...ได้ยินเรื่อง...อะไรนี่ตีงูให้หลังหัก...หรือจักเชื่อง...เรื่องรู้ดีเป็นแขกที่ แจมกระทู้...รู้เรื่องใด...ให้ตีแขกก่อนตีงูอย่าตีความตีขลุม ให้คลุมเครือ"อย่าเชือดเนื้อ ให้กากิน"...เลยน้องหนูทุกข้อความ...ทำขำขัน...ดัน "ล้างคำครู"อย่าลบหลู่...ครูไม่ล้างศิษย์...แต่...ศิษย์คิดล้างครู"13.41 น...........................................................................ศิษย์มีครู - สู้มีคิด...ลูก"สิทธิ์"ครูทำสู่รู้...Mercury - มีครูเร้อะJupiter - เจอปี้ตู...ยู่ยี่เยอะระวังเห้อะ...PluTo - โผล่ ตู...(รู้ไหม...พญายม).......................................................................... จากคุณ : นกโก๊ก - [ 28 ก.ค. 49 13:19:45 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 20 มาแล้วหรือเพคะ พี่นกโก๊กป๊กป๊กโฮก เพลงตับนก ตลกหลวงคำก็ศิษย์คิดล้างครู ดูแล้วเคืองคนละครู คนละเรื่อง อย่าปนกันเพิ่งรู้ว่ากระทู้นี้มีมาเฟียต้องเชลียร์ คาระวะดูน่าขันนักเลงกลอน ก็เอากลอนมาว่ากันมาข่มขู่ ดุดัน ฉันกลั๊ววว กลัวคนละครูคนละค่าย ไหว้ต่างท่าฉันทางป่า ไม่จำเป็นต้องก้มหัวดาวราหูเป็นดาวประจำตัว"พญายม" พญายั่ว พยายาม ชื่อราหูยกขึ้นลักคน์ ประจักษ์ชัดดาวไหนขัด สู้สุดใจ ไม่เกรงขามรำเชิดฉิ่งศรทนง เหมือนองค์รามไม่เลวทราม แค่เพลงแผละ แหละพ่อคุณ จากคุณ : cybrarian - [ 28 ก.ค. 49 13:47:57 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 21 คนทำชั่ว ควรรับกรรม ต้วทำไว้คนทำดี ควรได้ สุขสนองยึดกติกา ยุติธรรม ตามครรลองปรับมุมมอง ให้เห็น ตามเป็นจริง จากคุณ : Augustman (Augustman) - [ 28 ก.ค. 49 14:09:16 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 22 สูงส่งไม่เย่อหยิ่ง ชนะแล้วไม่ลำพองปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข็มแข็งแต่มีความอ่อนโยน (ขงเบ้ง) จากคุณ : สกรีน - [ 28 ก.ค. 49 14:47:41 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 23 จากบทพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง กรุณา *เข้าใจแปลว่าให้...........อภัยภาษิตนี้ควรตรอง...........ตริลึกเพราะเตือนจิตให้อา-.....รีต่อ เพื่อนแฮคำชอบควรตรึงให้..........แจ่มใจ*ในพุทธศาสน์พระ.........ทรงสอนให้แผ่เมตตาจิต..............แต่สัตว์ใครผิดคิดผ่อนปรน........ความผิด ให้แลถูกพุทธวัจนะ..................แน่นอน*ก่อนที่จะติโทษ..............ใครใครควรพิจารณาความ..........ถ่องแท้ว่าเหตุเกิดไฉนจึ่ง..........ผิดเช่น นั้นนอฟังพจน์เขาแก้ก่อน.........ตัดสิน*กวินฟังเหตุแล้ว............พิจา- รณาแฮผู้ผิดเพราะโมหะ.............มืดไซร้หรือเพราะว่าฐานะ..........บังคับก็อาจจะให้ซึ่ง..................อภัย*ตั้งใจเห็นอก.................ผู้ทำผิดและกรุณาออก................อุวาทอาจให้กลับจิตละ.............พยศ ได้นาดีกว่าอำนาจข่ม...............ขู่เข็ญ*หวังเป็นที่รักใคร่..........นับถือแห่งญาติมิตรและ..........พวกพ้องเมื่อใครจะดื้อดัน............อย่าดุ ตอบเลยคนที่ดื้อต้องดัด...............จึ่งดี*มีจิตประกอบด้วย...........เมตตารู้จักผ่อนผันยาม..............ผ่อนได้แสดงชัดว่าเห็น...............ใจอยู่แล้วและสอนให้กลับ........จิตเทอญ ฯ แก้ไขเมื่อ 28 ก.ค. 49 17:35:21 จากคุณ : สิคีรียา - [ 28 ก.ค. 49 17:32:33 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 24 จากบทพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง ความเขลา .............. *คนโง่ย่อมนึกว่าตนฉลาด แต่คนฉลาดย่อมนึกว่าตนโง่ (จาก ตามใจท่าน)*ความเขลาของคนที่สติไม่สมบูรณ์ ย่อมจะเป็นหินสำหรับลับความเฉลียวฉลาด.... (จาก ตามใจท่าน)*จะดับไฟด้วยเชื้อเพลิงเหมือนก่อไฟให้เถกิงยิ่งกว่าเก่า ฯ (รามเกียรติ) *ผู้ใดถูก ตลก กล่าวเย้ยหยันถึงเจ็บคันแม้โกรธโฉดถนัดอันความเขลาของปราชญ์ ปรากฏชัดถนัดแม้เมื่อ ตลก ชำเลืองตาฯ...... (จาก ตามใจท่าน) จากคุณ : สิคีรียา - [ 28 ก.ค. 49 17:47:15 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 25 จากบทพระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง รามเกียรติ.................................................** อันทารกยัง...ไม่มีสติรั้งไม่ควรเลยจะเข้ามานั่งในชุมนุมที่ประชุมปรึกษาการงานสำคัญมาพูดจา...หุนหัน...ไม่น่าฟังมา...อวดดี....น่าชัง..เป็นหนักหนามา...อวดฤทธิ์...อหังการ์..ไม่รู้กาลจะ..อวดหาญ...ไปม้วยมรณ์ ฯ จากคุณ : สิคีรียา - [ 28 ก.ค. 49 17:54:43 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 26 ความคิดเห็นที่ 22 สูงส่งไม่เย่อหยิ่ง ชนะแล้วไม่ลำพองปราดเปรื่องแต่รู้จักลงเวที เข็มแข็งแต่มีความอ่อนโยน (ขงเบ้ง) จากคุณ : สกรีน - [ 28 ก.ค. 49 14:47:41 ] ********************************** จากคุณ : สิคีรียา - [ 28 ก.ค. 49 17:58:53 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 27 ใครเล่าเริ่มก่นด่าว่าดีฉันโทษมหันต์ ถึงกับเชิญบรรดาผีจะทำเพลงหน้าพาทย์ ตะโพนตีเสมอผี แผละ กลม เสมอมารวาจาน้อยไม่เคยแหย่ ให้แม่ขัดนี่มายัด เลวบัดสีให้ ดีฉานบทกวีล้นเกล้าฯ มีเนานานจงคุณท่าน มีสำนึกไว้ฝึกตัว รู้ๆอยู่ว่ายืนคนละฟากยังลำบาก ว่ายนที มาตีหัวเออดีฉัน ก็มิใช่ ซึ่งควายวัวใครมายั่ว ย่อมมีขึ้ง ให้ตึงตังเอาเถอะแม่ถ้าเห็นแก่สมานฉันท์เลิกต่อกัน จะไม่ฉาวถึงคราวหลังฉันคนขำ อารมณ์ดี ปี่พาทย์ดังจงเอวัง เข้าม่านสำราญเทอญ จากคุณ : cybrarian - [ 31 ก.ค. 49 10:21:57 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 28 11.09 น.คนละครูคนละค่าย ไหว้ต่างท่า"ครูเทศ" มา...ตี "ครูไทย"...ไป๊ป์ "ไปเมืองเทศ"ไปเมืองเทศ - เปรตเมืองไทย...ไปอัพเกรดครูวิเศษ...นี้ "ครูเทศ"...หรือ "ครูไทย"ดาวราหูเป็นดาวประจำตัว"ราหู" กลัว..."หารู" อยู่...cybrarian รู้ไหมเซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก...รู้อะไรเซียนบ้า ไล่...ให้ไปเรียน...เซียน สู้ตายเซียนอยู่รู หมูอยู่ตึก - เซียนอยู่ลึก หมูยึกตูGod อยู่รู - กูอยู่รอด...คลอดมาได้ใครจะรู้...นายอยู่ตึก - นึกอยู่ ตายนกผีร้าย...นกทวนซ้ำ - นกทำสวน11.31 น.................................................................................พระอิศวร...เทพแห่งสรวงสวรรค์...อวตารไปครองจักรวาลอวโลกิเตศวร...พระอิศวรอวตารมาครองโลกราหูcybrarian รู้อะไร...ทำไมต้องเซ่นไหว้พระราหู ด้วยของสีดำแปดอย่างฮา ห่า ห้า...ดาวราหูเป็นดาวประจำตัวดาวไหนขัด สู้สุดใจ ไม่เกรงขาม...ห้า ห่า ฮา................................................................................แล้วนี่..."ครูเทศ"...จะวิสัชนาข้อปุจฉา..."ครูไทย...ได้ไหมเอ่ย จากคุณ : นกโก๊ก - [ 31 ก.ค. 49 11:41:59 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 29 "ศัตรูเพียงหนึ่ง ก็นับว่ามาก มิตรเป็นร้อย ก็นับว่าน้อย" ขออภัยถ้าทำให้ขุ่นเคือง และขอบคุณสำหรับคำชี้แนะ จากคุณ : สกรีน - [ 31 ก.ค. 49 11:56:39 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 30 11.46 น.ใครเล่าเริ่มก่นด่าว่าดีฉันแล้วใครกัน... กรอบ คห. 8 ... ที่แว้ดลั่นนกแจมกระทู้...แถลงอรรถ...วิสัชนากันเมื่อมี "กริยา" ดัน...มันก็มี "ปฏิกริยา" กลับ...กฎ "ฟิสิคส์" ครับครูอัน "โคลงฉันท์ กาพย์กลอน"...อักษรสวรรค์อย่าหลงรั้น...ฉันทลักษณ์ - ชักถลัน...ท่านก็รู้ฉันทะลัก...อักขระ...กลอนพระครูธ ชัก ลั่น...มันก็เป็นเช่นนี้แหละหนู...อยู่สุขสราญเทอญ11.57 น........................................................................................cybrarian คารวะสวัสดี...วันนี้มาประสานงากันโครมเลยหรือนี่เพียงกรณีชี้ที่...มองต่างมุม...กวีใจใช่กลุ้มรุมตีคนล้มคร้าบ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 31 ก.ค. 49 12:04:26 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 31 อีกแล้วหรือเพคะคุณนกโก๊กถูกโฉลกอันใดกับดีฉันคห.8 หรือประเด็นเป็นสำคัญ ล้วนเข้าขั้น วิตกจริตคิดเข้าตนอันกลอนนั้นแต่งงามตามหัวข้อมิได้ส่อถึงกลอนท่าน นั่นสับสนกลอนคำผวน ขี้เกียจอ่าน อลวลสำคัญตน ว่าเขาอิงเหมือนลิงกังฉันแต่งกลอนลอยๆ เหมือนหอยเบี้ยมานัวเนีย ก่นด่าเป็นบ้าหลังใครเล่าเริ่มเติมไฟให้มันพังควรระวัง ความคิดจริตตนจะครูไทยครูเทศเปรตสุทัศน์ไม่ถนัดถ้อยคำมาพร่ำบ่นขี้คร้านผวน คำกลับ สัปดนอลวล สื่อไม่ถึงซึ่งสาระ จากคุณ : cybrarian - [ 31 ก.ค. 49 12:46:44 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 32 อนิจจาความชรามิได้ช่วยมีสมองแต่ห่วยไม่เคยคิดมาดูหมิ่นว่าศาลประหารผิดผยองตัวเหมือนชิดในพระธรรมมาอ้างบุญคุณบาปฉันทราบรู้เป็นนกอยู่ในป่าช่างน่าขำปิดตาไว้สองข้างช่างน่ายำด้วยหลายบาทให้ช้ำตอกเตือนตนเห็นดอกบัวว่าบัวเป็นกงจักรมาตู่เขาเน่านักช่างสับสนเล่นคำผวนควนผำไม่เตือนตนมาเล่นกลเล่นคำทำตำบอน.........................อนิจจาสี่ปีขึ้ในคุกมานอนจุกสมเพศโดนสั่งสอนเขาเตือนแล้วว่าแล้วไม่สังวรณ์ลากไปนอนเสียหน่อยได้จดจำพวกหูตาบอดใบ้ไม่เคยคิดทำจริตดูเด่นให้น่าขำมาบิดเบือนความคิดให้เป็นธรรมทำชาติช้ำชาติไทยไม่พัฒนามีพวกบ้าตามเขาว่าเขาถูกสั่งขี้มูกของเสียทิ้งหน่อยหนาจมูกโล่งสูดความดีและศรัทธาเชื่อในศาลพิพากษาความเที่ยงตรงอนิจจาพวกบ้าไม่เชื่อศาลไม่ประหารแต่จะกุมจับไปส่งศรีธัญญายังดีกว่าอยู่กรงหรือจำจงอยู่คุกเป็นเพื่อนนอนขออัญเชิญดวงวิญญาณบรรพบุรุษมาเด็ดกุดคนอวดรู้โปรดสั่งสอนคนอัญเชิญคนแรกเอาไปนอนอยู่เป็นเพื่อนในกรยมบาลความบันเทิงเริงรื่นเรื่องไฉนมาอ้างคำพ่อไทยช่างกล้าหาญไม่ดูตัวทำชั่วเป็นคนพาลน่าสงสารทำลายชาติไม่รู้ตัว จากคุณ : buaravong - [ 31 ก.ค. 49 14:36:46 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 33 15.12 น.โลกมนุษย์นี้...ที่รัก มักมีสองรักพี่ เสียดายน้อง...หมองใจเศร้าดาวเคียงเดือน...เรือนใจ ไร้เดือนดาวน้ำร้อนปลาเป็น น้ำเย็นปลาตาย...เน่าคู่แฝด คู่ฝาด...เข้า ขย่มใจเพลงบัวตูม บัวบาน...บัวผันบัวเผื่อนลาวดวงเดือน - เลือนดวงดาว...ใครเจ้า - เข้าใจ...ได้ปลาเป็น ว่ายทวนน้ำ - ปลาปล้ำ ว่ายทวนเน้น...ว่ายเล่นไปประเดี๋ยวดี ประเดี๋ยวร้าย...จิตใครกันนกอยู่ป่า...หาทำสวน - หวนทำซ่าเป็นอีกา บอกข่าว...เขาเย้ยหยันอีกาในฝูงหงส์ - อีโก้งในฝูงห่า...ไม่ว่ากันวิหคหัน...บินผันผวน - บ้วน ผันผิน (บ้วน = หมื่น)นกผี - หนีผก...นกประหลาดนกชั่วชาติ - นาฏชั่วชก...หกล้มดิ้นปราชญ์สัพพัญญู - ปูสับพันญาติ...คลาดเคลื่อนสิ้นโศก ทำลิ้น - ศีลธรรมโลก...ลามกที่ "สรรพลี้หวน"15.43 น..............................................................................มันเป็นธรรมชาติ คำผวน เป็นคู่แฝดฝาด...ใจชาตรี - ใจชี้ตาตามองเห็นภาพ...ไม่ใช้จิตพิชิตใจ...ใจจะหลงภาพหลอนตาสามใจชา---แช่เย็นใจให้มันชาซะบ้าง---จะได้ไม่รู้สึกรู้สาตรัสรู้ - ตูสลัด...ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ...ตูสลัดใจ---ไม่มีให้ใครวัดแล้วว่ะ............................................................................. แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 49 16:10:31 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 49 16:09:13 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 49 16:05:49 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 49 16:00:53 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 31 ก.ค. 49 15:55:50 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 34 อยากเอาอย่างบูราณกลบทอัปยศทำได้แค่ปลายแถวขอตั้งชื่อกลบท ผักตดแมวไว้เป็นแนว ประดับโลกวรรณกรรมดูเผินๆ เหมือนสูงส่งทรงคุณค่าอ้างธรรมะ คะขา ดูน่าขำเหมือนใส่เครื่องพวกละคอนมาฟ้อนรำเป็นเครื่องกำมะลอเที่ยวขอยืมอย่างเก่งก็แค่ชั้นระบำไก่รัดเครื่องไปยากเย็นไม่เห็นปลื้มพระลอออก เสมอลาวเขาก็ลืมมาครางอืม เหมือนตลก ยกเตียงพลันควรแล้วหรือมาอ้างเป็นครูเขาขันกำนลเคยเอาไปไหว้หรือนั่นไม่เคยครอบ ถวายมือ นับถือกันอัศจรรย์ อ้างตู่ เป็นครูบา แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 49 19:16:43 จากคุณ : cybrarian - [ 31 ก.ค. 49 19:10:54 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 35 *เออหนอ cybrarian เป็นไรนั่นจะโมโหอะไรกันกระนั้นหนาขอเชิญอ่านดูใหม่ ให้เจนตาแล้วตีความ ตามมาให้เจนใจ*กรรมของใคร กรรมของเขา เราไม่เกี่ยวจะจำคุกสถานเดียว เกี่ยวไฉนอยากจะด่า ให้สาสม...เชิญด่าไปปากของใครแสดงออกบอกจิตตน*อันว่า 3 กกต.ใช่พ่อฉันอยากตีรันกระทืบใส่ ไม่เคยสนเพียงแต่แปลกในอุราประสาคนในกมลบางคนแค้นแน่นอุรา*สุภาษิตคำไทย ได้ยินสอนพึงสังวรณ์ รู้ ละ วาง อภัยหนาเมตตาธรรมค้ำจุนโลกเสมอมาทุกโทษาเขาทำไว้..เขาใช้กรรม*ไปอ่านใหม่ตรงไหนที่ว่ากล่าวไยเอาตัวมาแทนเข้า....แสนจะขำฉันทบทวนคำโบราณท่านกล่าวนำไม้ล้ม ย้ำ ไม่ให้ข้ามตามตำรา*เห็นยกผิดภาษิตไทย..ใจเลยแปลกเรื่องแตกแยกในชาติไซร้...ไม่หรรษาฉันไม่ได้ หลงใหล..ฝ่ายใด มาไม่มีเชือกคล้องรัดพาเดินตามใคร*จะว่าไป ทุกฝ่ายไซร้ ไม่ วิเศษราวกับเปรต แย่งประโยชน์โฉดไฉนใครจะปลื้มว่าประเสริฐ ก็ตามใจอนาถไป ใครนำแยกแตกปวงชน*ฉันจะเชิญวิญญาณบรรพบุรุษมาช่วยหยุดความวุ่นวายและสับสนมัน !คนใดทำชาติร้าว แลอับจนจะเก็บไว้หนักกมลไปทำไม*อพิโธ่ ตรงไหนใส่ชื่อท่านมาเกรี้ยวโกรธโมหันต์....ยังสงสัยไยเอาตัวมารองรับ...ว่าด่าไปร้อนท้องไย ดังตุ๊กแก...ที่กินปูน*แสนขำกลิ้ง เรื่องดอกบัวและกงจักรสงบพัก ทบทวนใหม่ยังไม่สูญใครคือบัว ใครคือจักร บอกหน่อยคุณไม่ให้หนุน กกต. เพราะเป็นบัว ?*คิดคมจัง อย่าเห็นบัวเป็นกงจักรโบราณทักอย่าเห็นจักรเป็นบัวสลัวคือคนชั่ว อย่าหมายเห็นเป็นดอกบัวใครเมามัว บัวเป็นจักร ชักเป็นงง*ที่เตือนกันฉันคนในไทยร่วมชาติหยุดอาฆาต เวรกรรมเขา เราอย่าหลงว่าเขาผิด ตัดสินไป น่าจะปลงไปผูกโยงกรรมโดยด่า ให้สาใจ*เอาเถอะ ถ้าอยากด่าใคร ใช่กิจฉันด่าเอามัน เหยียบให้ล่ม หัวจมหายว่า เห็นแก่สมานฉันท์ ก็ขอบใจเลิกแล้วไป (ถือว่า)ไม่เคยพบ หรือคบกัน *ไม่ต้องกลัวจะฉาวถึงคราวหลังเมื่อเอวัง ก็เอวัง ทั้งเธอ ฉัน ยินดีด้วย (ถ้า)อารมณ์ดี ปี่พาทย์ดังเชิญ...เอวัง ..เข้าม่านสำราญใจ จากคุณ : สิคีรียา - [ 1 ส.ค. 49 05:39:52 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 36 * เออ buaravong คือใคร ฉันไม่รู้มากรุ๊กกรู๊ อยากร่วมวง ยังสงสัยอยู่ดีดี คงเหงาเศร้าทรวงในอยากต่อกร ปากกราย กระไรเธอ*แหมขอบใจ ยกกลอนฉันมาสรรเสริญขอให้เพลินคลายเครียด ..หายหลง .เหลอเป็นวิทยาทาน ฉันพอใจในพรเธอได้เจอะเจอ ยมบาล ฝันเป็นจริง*แต่เสียใจ ... ไม่มีเวลาว่างมาเป็นคู่ สะสาง หรือ สุงสิงกระทู้เก่า เซ็งจะตาย ไม่ประวิงไปหาอิง ด่าคนใหม่ ให้ต่อกลอน... แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 49 06:04:19 จากคุณ : สิคีรียา - [ 1 ส.ค. 49 06:03:42 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 37 * อุแม่เจ้า นกโก๊ก เขายกเกริ่นว่า นกเดินในป่าช่างน่าขำไปเดินอยู่ที่ไหน..ให้เขาจำให้เขาขำเป็นทานหน่อย...พลอยได้บุญ*อยู่ในพงดงดอน..ยังค่อนรู้แสนอดสูวาจาหยาบ..น่าสาบสูญอยู่ดี ดีจะเหยียบ คน ว๊ายยย ทารุณปฏิกูล...นก ปลงใจ บิน ไกลตม...*ขอเตือนเพื่อน นก จงปลงใจเถิดคนเราเกิด นานาคิด จิตสะสมสองคนยลตามช่อง มองภาพชมคนหนึ่งเห็นโคลนตมประจักษ์ตา*อีกคนเห็นเป็นเพชรเกร็ดพราวเพริศเวรกรรมเกิดตามจิตตนที่บ่นหาคนพึงคบ คนที่ศิล เหมือนกันมาเปลืองเวลา กรรมของใคร ใช่กรรมเรา*เอาเวลาไปสร้างสรรสมานจิตกับมวลมิตร เคยคบไซร้ไม่อับเฉากลอนบริสุทธิ์ ผุดผ่องใจ ได้ขัดเกลาแฝงคติ ให้คลายเหงา เราเพื่อนกัน... จากคุณ : สิคีรียา - [ 1 ส.ค. 49 06:36:07 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 38 ปากก็บอก กกต. ใช่พ่อฉัน ครั้นหันหลังเอามีดฟันเข้าใส่หัวเออ ให้เป็นเช่นนี้ ดีใส่ตัวครั้นเรื่องชั่ว ป้ายเขา เอาละวาก็เห็นอยู่ว่าพาดพิงถึงดีฉานใครเขาอ่านก็ย่อมรู้ พระเจ้าข้าหรือศีลธรรมจำคนละตำรากุศลา ธรรมา ละ ธรรมเมาเขียนอะไรรับผิดชอบต่องานด้วยมิใช่กล้วย ดันมาบอกเป็นนกเขาถ้ากล้าทำก็กล้ารับ ทั้งหนักเบาจึงเขาสรรเสริญเจริญพร แก้ไขเมื่อ 01 ส.ค. 49 19:51:48 จากคุณ : cybrarian - [ 1 ส.ค. 49 11:35:38 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 39 12.07 น.นกโก๊ก...นกผี...วิหคนรก...โคกเขาเขินนกนอนโลง...ไม่หลงเดิน...ตามก้นเขาจิตวิญญาณ...นกเขา - เนาโคก...เน่า วิญญาณนกเจ้า...เจ้าโลก...นกอมตะเป็นนกอ่อน...ค่อนข้างแข็ง...แรงยังพอมีใครมาตี...สู้ไม่ถอย...มีแต่ฉะหนึ่งพึงประสงค์...บ้านดงกระสือ...ทำสวนค่ะผีเยอะนะ...ตำบลตะเคียนทอง กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ จันทบุรีอีกาในฝูงหงส์ - อีโก้งในฝูงห่า...ข้าฯ นกโก๊กบินร่อนร้อง...โฮกโป๊ก...ในห้องนี้กวนหวี คำพระ - กวีคำผวน - กวนวะคำผีศิษย์นกรู้...มีครูดี...ไม่มีดีกรี "ไม่กล้ามา"12.21 น..............................................................................ฮา ห่า ห้า...นกผีบ้า...ไม่เคยมาเป็นอีแอบอยู่ในห้องนี้สันติกวี...กวีใจ...ครูไล่ตี...ยิ่งตียิ่งดัง...ห้า ห่า ฮา.............................................................................คารวะสหายสันติกวีทุกท่านด้วยใจบริสุทธิ์คร้าบ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 1 ส.ค. 49 12:27:34 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 40 *สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตมอีกคนเห็นเพชรชม ว่าพราวพรายจนลายตา... จากคุณ : สิคีรียา - [ 1 ส.ค. 49 21:13:22 ] ........................................................................................มีต่อที่ comments 1 Create Date :12 พฤศจิกายน 2549 Last Update :12 พฤศจิกายน 2549 10:20:36 น. Counter : Pageviews. Comments :5 twitter google Comment * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก ต่อจากความเห็นที่ 40 ครับ-------------------------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 41 21.39 น."ศีลธรรม"...อ่านออกเสียงว่า...ศีล - ละ - ธรรมเป็นวลีคำ...สองพยางค์ อำพรางคำว่า "ละ"...จะนำทางให้"ศีล" เป็นข้อห้าม....พระสงฆ์ "ต้องห้ามปฏิบัติ"...ในเส้นทางสายตาย"ธรรม" เป็นข้อปฏิบัติ...คฤหัสถ์ นำไปใช้...ในเส้นทางสายเป็นหรือศีลธรรมจำคนละตำรา...ไม่รู้ว่า cybrarian ...จำตำราไหนจิตสำนึกมีหรือไม่...ใครเสียดสีป้ายเขา...มั่วเม้าปากเหม็นเขียนอะไรรับผิดชอบต่องานด้วย...ห่วยแตกซ้ำ...ย้ำประเด็นในมือยังมีไผ่เด่น...เล่นอม"สะเปโต"...นกไม่โม้ ถ้าตีมา "เสียค่าโง่" แน่นอน22.07 น...........................................................................................................คั่วสะเปโตคอยน็อคมืดอยู่นานแล้วนะนี่...รีรอช้าอยู่ไย...แน่จริงทำไมไม่ตีมาจะได้รู้ว่า --- บาป...บุญ...คุณ...โทษ...กฎแห่งกรรม --- พ่อย้ำสอนใจใคร แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 22:21:44 แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 22:19:48 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 5 ส.ค. 49 22:17:25 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 42 ใจบาปจิตรหยาบร้าย..........ทารุณกำเริบเอิบเกินสถุล.............หยิ่งก้ออีกหนึ่งห่อนรู้คุณ................ใครปลูก ฝังแฮสามสิ่งควรเกลียดท้อ...........จิตรแท้อย่าสมาน..*โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์...........................................พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ไว้โดยมีพระราชประสงค์ที่จะสั่งสอน จริยธรรมแก่ประชาชนทั่วไป จากคุณ : สิคีรียา - [ 6 ส.ค. 49 00:35:20 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 43 ขออภัยว่าจะไม่มาดูแล้วเหมือนมีพรายมาแว่วกระซิบหูเลยจรมาเพ่งพิศพินิจดูจึงได้รู้ ว่าเล่นไม่เลิกรานึกว่าสิ้นเวรกรรม ต่อกันแล้วยังมาร้องแจ้วๆ เขียนกลอนด่าอ้างธรรมะ ธรรมโม โฆษณาอุปโลกน์ อุปลาห์ เที่ยวด่าทอไม่แต่งกลบทตดแมว ดอกแล้วหรือ?เห็นลือชื่อโด่งดัง อย่างเปิดหวอทำไม่เป็นแล้วยังทำกำมะลอเดี๋ยวจะขอซีไรท์ให้ซีรองคล้ายสมี ตาเถน ข้าวเย็นฉันเที่ยวเทศน์ลั่นศาลาท่าผยองปากว่าธรรม ส่วนมือกำตะบองไปเที่ยวซ่อง แล้วมาสอนศีลธรรม เขาไม่เชื่อเบื่อแล้ว ตาเถนเอ๋ยเรียกยายชี ยายเชย มาร้องร่ำนิมนต์ไปสวดแหล่ เล่นแบกำเอาให้ขำ มุขตลกครบโปกฮา จากคุณ : cybrarian - [ 6 ส.ค. 49 22:56:53 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 44 ศรีมาลาว่าโอ้พุทโธ่เจ้ามาโดนเอาเปล่าเปล่าเจ้าแม่เอ๋ยที่เคยคันมันก็คันไปตามเคยสัญชาติเตยถึงจะงามก็หนามมีเกิดกอเป็นตออยู่ริมคลองเรือขึ้นเรือล่องต้องเสียดสีอนิจจาข้าได้ว่าอะไรมีไม่พอที่หุนหันจะคั้นคอเขาก็รู้อยู่ว่าต่อมันรานไฟข้าไม่พอใจไปที่รังต่อทั้งคารี้คารมเขาชมปรอเหมือนตอออกมาขวางที่ทางเรือเป็นตะพังวังวนก้นกระทะสวะสะว่อยลอยปะออกฟั่นเฝือเที่ยวแทรกไปทุกทางอย่างดีเกลือข้านี้เบื่อพูดมากน้ำหมากพรูฯ *บทเสภาขุนช้างขุนแผนตอนนางสร้อยฟ้าร้องว่านางศรีมาลา...........................................กวีโบราณมีจุดประสงค์จะให้เอาไว้ขับเสภา เป็นที่สนุกสนานแก่ประชาชนทั่วไป ไม่ต้องเที่ยวเอามาอ้างสั่งสอนแต่อย่างไร แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 49 23:16:16 จากคุณ : cybrarian - [ 6 ส.ค. 49 23:05:02 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 45 23.27 น.ตาม....ธรรม ว่า มนุษย์ ล้วน...........ตามใจบุญ.....บาป หยาบละเอียด ใคร.......ต่างรู้ตาม....แต่ จิต นิมิต ไป..................ปกติ กรรม...สัตว์ เกิดจากผู้...................ผลิตสร้างเอาเอง23.32 น.กวีโบราณมีจุดประสงค์จะให้เอาไว้ขับเสภา เป็นที่สนุกสนานแก่ประชาชนทั่วไป ไม่ต้องเที่ยวเอามาอ้างสั่งสอนแต่อย่างไร.....................................................................................อนิจจา...บทเสภา --- บทกวีไทยแต่งไว้เพื่อความสนุกสนานน่าเสียดายงบประมาณที่จ้างครูมาสอนวรรณคดีจังเลย แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 49 23:36:55 จากคุณ : นกโก๊ก - [ วันรพี 23:36:15 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 46 อันอิเหนาเอามาทำเป็นคำร้อง สำหรับงานการฉลองกองกุศลครั้นกรุงเก่าเจ้าสตรีเธอนิพนธ์ แต่เรื่องต้นตกหกหายพลัดพลายไปหากพระองค์ทรงพิภพปรารภเล่น ให้รำเต้นละครคิดรำใหม่เติมแต้มต่อติดประดิษฐ์ไว้ บำรุงใจไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน..........................................................................การแต่งบทกวีของคนโบราณ ยิ่งพวกบทละครนอก เสภาแล้วไซร้ มุ่งเน้นความสนุกสนาน บำเทิงใจเป็นที่ตั้ง อย่างพระราชนิพนธ์บทละครนอกของล้นเกล้า ร.2 นั้น มี เรื่อง สังข์ทอง เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่ทรงพระราชนิพนธ์ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง ส่วนพระราชนิพนธ์บทละครนอกเรื่องอื่น ๆ ทรงเลือกเฉพาะตอนที่มีการทะเลาะวิวาท บริภาษหึงหวง ตัดพ้อต่อว่า ปะทะคารม เป็นนาฏการสำคัญ รศ.จักกฤษณ์ ดวงพัตรา ครูสอนวรรณคดี ก็กล่าวไว้ชัดว่า " สำนวนกลอนพระราชนิพนธ์ บทละครนอกเป็นบทละครที่แต่งขึ้น เพื่อการแสดงที่มุ่งความสนุกสนานของผู้ชม มากกว่าความชื่นชมในอลังการทางนาฏศิลป์ ""ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อการแสดงละครนอก ที่มุ่งแสดงความตลกขบขันโดยแท้ เพราะแม้เพลงขับร้องจะบรรจุเพลงชมตลาด และเพลงลงสรงสุหร่าย เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวละครได้แสดงฝีมือทางนาฏศิลป์ ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาตัวบทแล้ว ก็เห็นได้ว่ามีพระราชประสงค์ให้เกิดความตลกขบขัน มากกว่าจะมุ่งพรรณนารายละเอียดการแต่งกายของตัวละคร โดยเฉพาะตัวบทยังเอื้อให้สามารถแสดงตลกตามแบบละครนอก ชนิดที่เรียกว่า "เล่นตลกลอยดอก""ส่วนการที่ผู้อ่านผู้ฟังจะได้คติเตือนใจนั้น เป็นเรื่องรองมิใช่วัตุประสงค์หลักของเสภา หรือกลอนบทละคร และเป็นการมองวรรณคดี ตามแบบฝรั่ง ซึ่งแม้จะนำมาใช้ในการพินิจวรรณกรรมไทยได้ แต่ก็ใช้ไม่ได้ดีนักอนึ่งข้าพเจ้าก็สลดใจที่คนที่อ้างว่ารู้ดีเรื่องวรรณคดี บทกวี ถึงขนาดมากล่าวเย้ยคนอื่นนั้น แท้แล้วรู้พอผิวๆ ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร จึงจักได้ฝากให้ไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมจากครูวรรณคดีของข้าพเจ้าบ้าง ได้แก่หนังสือ วรรณนัยวินิจของ ศาสตราจารย์ ดร.กุสุมา รักษมณี หนังสือวรรณคดีการแสดง ของ รองศาสตราจารย์จักกฤษณ์ ดวงพัตรา ทฤษฎีเบื้องต้นแห่งวรรณคดี ของ ศาสตราจารย์ ดร.เจตนา นาควัชระหนังสือพินิจวรรณการ ของ ศาสตราจารย์ดร.นิยะดา เหล่าสุนทร จากคุณ : cybrarian - [ 8 ส.ค. 49 01:27:01 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 47 ตาม....ไปเถิดตามไปในที่ชอบบุญ....ประกอบกรวดน้ำงามกุศลตาม....กลิ่นธูปกลิ่นเทียนอย่าเวียนวนกรรม...ของตน มิใช่ของใครเลยนี่พูดขึ้นลอยๆเหมือนหอยสังข์ไม่ได้หวังสอนสั่ง....นั่ง..นอน.เฉยด้วยดีฉันชั่วดีก็มีเคยไม่กล้าเอ่ยธรรมะมาสอนใครด้วยมิใช่สัพพัญญูรู้แจ้งโลกเที่ยวร่ายโศลกสอนสั่งยังสงสัยพวกหัวดำอยากเทศน์ผิดเพศไปทำเหมือนได้เห็นธรรมปฏิสัมภิทาขณะครองกองกิเลสตัวเบ้อเร่อยังเสร่อ ขึ้นธรรมาสน์เทศนา อภิโถตาเถน เมาธรรมาควรจะลา จบเห่ ลงเอวัง จากคุณ : cybrarian - [ 8 ส.ค. 49 02:07:28 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 48 07.24 น.ฤๅ.......กวีมีจิตแค้น...............ข้องคับ เห็น.....แต่ตามองจับ..............ภาพจ้อง เพียง....ตำราเล่มหนา นับ......ว่ากระจ่าง ใจฤๅภาพ.....พจน์ บทกวี คล้อง.......เกี่ยวไว้ให้คุณบาป.....เทพหนุน ให้เกิด........ในนรก โลกแลบุญ......พระพุทธคุณ ปรก........กระหม่อมป้องคุณ......มีจิตเทพหก................ตกหล่น หายฤๅโทษ.....พระ โทษเจ้า จ้อง........จิกด้วยภาษาใจโปรด....ไปเข้าวัด สร้าง...........เครื่องวัด ใจเถอะสัตว์......นรก รู้บาปสัตว์...........นรกแผ้วได้........ควันธูป นำลัด............ทางกลับ ใจแนบาป......ชดใช้หมดแล้ว..........กลับขึ้นคืนสวรรค์หยาบ....ละเอียดนั้นอยากรู้.....ดูกลอนช้า........ชั่ว แค่ "ต่อกร"..........กับข้าฯมา........วัดค่า ภาพหลอน........จิตเตลิดไข........บทกลอนครู บ้า..........ว่าล้วนเริงใจด่า........ใจ -ได้จ้า...ดุจ............เทียนไขใคร.......จุดสว่างจ้า ใน...........จิตบ้างdie........คำเทศคู่ไทย.............ตายแน่ฆ่า........ค่า ข้าฯ ห่าล้าง............ด่าแล้วสบายหรือ07.47 น..................................................................................ยึดถือ ใจตน ไปวัดใจคนอื่น ... จนตาย ก็วัดใจใครไม่ได้สะใจ ใคร ใสจ้ะ ... ไม่"สระใจ" ชอบไหม "สระผม""หวีเสนียด" ใช้หวีหัว เหาเหม็นนี่ ...สมัยนี้มีไหม ไปดม"คุณรักผม" ... ด่าผมไหม ... ได้ผมหมา.................................................................................ฮา ห่า ห้า...โคลงกลอนข้าฯ น่าหนุกหนาน...สามานย์จริงจริง07.57 น.มาแก้ไข ใส่ลูกเล่น...ให้เห็นกลอนสนุก...มุขนกตลกร้าย แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 08:15:11 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 08:06:14 แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 08:01:01 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 8 ส.ค. 49 07:58:50 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 49 เที่ยวเวียนวน บ่นบ้าเป็นหน้าหลังอยู่ๆตั้งตน เป็น"กวี"ศรีสยองเดี๋ยวจะมอบซีไรท์ให้ซีรองสมปองดังจิตอนิจจาไม่รู้เรื่องรู้ความตามขนบเหมือนกับกบใต้บัวมัวบ่นบ้าว่านี่แหละ ยอดกวี ทำหรี่ตาอ้างธรรมะ คะขา เจริญพรคนเป็นครูสอนคนให้พ้นทุกข์อย่างน้อยได้พบสุขจึงสั่งสอนอนาคาฯ อย่างต่ำ จำ สังวรณ์โลกวิทู ได้ก่อนจึงสอนคนมิใช่เป็น ตาเถน เย็นแล้วเป๊ก ! เปิบซกเล็ก ข้าวเย็น เป็นนิจผลเที่ยวงึมงำ เทศน์แหล่ สัปดนริสอนคนให้เข้าวัด หัดดูใจประทานโทษโปรดเถอะพระคุณเถนรับประเคนไม้ขีดกับเทียนไขเอาไว้จุด โมหะ ชำระใจเลิกข้าวเย็นได้เมื่อไรค่อยว่ากัน จากคุณ : cybrarian - [ 8 ส.ค. 49 21:11:31 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 50 บาป.....เทพหนุน ให้เกิด......ในนรก โลกแลบุญ......พระพุทธคุณ ปรก......กระหม่อมป้องคุณ......มีจิตเทพหก..............ตกหล่น หายฤๅโทษ.....พระ โทษเจ้า จ้อง......จิกด้วยภาษาใจ........................................................มีที่ไหน บาป--เทพหนุน บุญ--พระปรก [**ปรกปลุกเสก หรือนาคปรก จริงๆ ควรเป็นปกที่แปลว่าแผ่คุ้มจึงจะได้คำได้ความ** ]ตัวอย่างยก ธรรมปลอม ขอมดงป่าสัทธรรมปฏิรูป โฆษณาวิกิจฉา ขาฉิ่ง ลิงทะโมนไม่รู้จริงแล้วมาอิงกำแพงวัดทำนองดัดจริตคิดผาดโผนเป็นทางป่า รำไม่งามตามตะโพนอยากเล่นโขน ทำได้แค่ละครลิง.............................................ฤๅ.......กวีมีจิตแค้น..............ข้องคับ เห็น.....แต่ตามองจับ.............ภาพจ้อง เพียง....ตำราเล่มหนา นับ......ว่ากระจ่าง ใจฤๅภาพ.....พจน์ บทกวี คล้อง......เกี่ยวไว้ให้คุณ......................................................แล้วดูแคลนตำราครูว่าไว้คิดว่าตนยิ่งใหญ่ผยองหยิ่งอวดว่าเป็น"กลอนครู" หรูจริงๆเป็นกวีน้ำขิงกับเต้าฮวยไม่รู้เรื่องแล้วยังแสร้งสำแดงโง่เที่ยวอวดโอ้ โอษฐ์เอื้อนเหมือนโชว์ห่วยใครเล่าอยากต่อกลอน กระบักกระบวยเหมือนเอากล้วยล่อลิงให้ยิงฟัน ไม่รู้จักเสภาละครนอกปากก็บอกเป็นครูของเขานั่นรู้จักแต่สรรพลี้หวน ชวนเสียวกันอัศจรรย์ ทำได้แต่ไม่ดีของเก่านั้นเขาไว้"อ่านตามบ้านร้างหนำหรือห้างทะเล" ประจำที่มิได้แผ่บนเว็บไซต์ให้ อับ-ปรีช์เหมือน กลบท ผู้นี้ บัดสีเอย ......................................แก้ไขตัวสะกดการันตร์ แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 00:26:51 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 00:23:38 จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 00:20:54 ] ........................................................................................มีต่อที่ comments 2 โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) 12 พฤศจิกายน 2549 10:26:05 น.ต่อจากความเห็นที่ 50 ครับ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 51 06.30 น.มา...แก้ไขตัวสะกดการันตร์ที่ลงทัณฑ์...ทัณฑมาต... ร. เรือข้าฯครอบหัวโขน...ตะโกนเล่น...เช่นเคยมานอน...เต้นแร้ง เต้นกา...ตื่นมาดู ละครลิงฮา ห่า ห้า...ลามกสิ้นดี...สรรพลี้หวนนกผีทวน - นกผวนที...สวนผีสิงหวีเสนียด...หวีหาเหา..เศร้าจริงจริงเหาเหม็นนี่...สุดแสนลามกยิ่ง...ตลกร้าย ใครผวนกันเหาเหม็นนี่ - เหามี เน้น...เป็นคนเมืองไม่มีดอกคนบ้านนอก...ผมเผ้ารุงรัง...นั่งหวีหาเหานั่นบี้เหาดู...รู้ว่า "เหม็นฮิ"...จิจ๊ะกันเสนียดใน...ใจตนนั้น...หมั่นนั่งสระใจสมัยนี้จมปลัก...ไม่รู้จัก...หวีเสนียดมาทำเย้ย...หยามเหยียด...กันอยู่ได้หากแน่จริง...ตั้ง "ปุจฉา" มา...จะ "วิสัชนา" ให้หาก "cybrarian" วิสัชนา..."ปุจฉา" นี้ได้...นายแน่จริงนาสังคมไทย...สมัยก่อน...พ่อสอนลูกชายก่อนมีเมีย ให้...ไปบวชพระ...หนึ่งพรรษาพระพุทธองค์...ทรงกำนด...บทบัญญัติมาสามเณรบรรพชา...จะผนวชเป็นภิกษุ...ต้องอายุ 20 ปี25 มีอาถรรพ์...บุรุษนั้น "มรณะ"...ก่อนจะครบ "เบญจเพศ"พระพุทธองค์...ทรงสะกดเหตุ..."เพศภัย" นี้ช่วงอายุ 25 ± 5 ปี...ที่มี error ± 5...อาถรรพ์มีเกี่ยวข้องกับสตรี...มีนัยสำคัญ..."cybrarian" ท่านจะมีวิสัชนาใด07.12 น.............................................................................................ขอน้อมเตือนท่านว่า...โปรดศึกษาให้ถ่องแท้...ก่อนจะแก้ "ปัญหาใจ"ด้วยความปราถนาดี จาก...นกผี - หนีผก...กวีคำผวน แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:24:51 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:22:25 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:17:34 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:14:59 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 49 07:13:28 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 52 ฉันว่าแล้วว่าแค่นี้นกตีปีกผิดเขาเท่ากระผีก แล้วจับได้เติมรอเรือ กับการันต์ มันลงไปล่อนิสัยจับผิด คิดเพียงนี้ผิดของตนมองไม่เห็นเหมือนตัวเหามัวแต่เกา ไม่รู้เอามาสางหวีเที่ยวเร่ขายหวีเสนียด ทั้งธานีหัวตัวเองไม่ยอมหวี สังคะตังปากก็บอกออกคำทำนองพระตาเถนจ๊ะ เชิญเจ้าข้า--เป็นบ้าหลังไม่อยากเทศน์สองธรรมมาสน์--อุบาทว์จังทำเป็นตั้ง ปุจฉา เออบ้าบอเชิญตาเถนตกเย็นฉันมาม่าวิสัชนา ตนท่าน นั่นเถิดหนอฉันมิใช่ กวีผวนคำ กำมะลอมิใช่เถนชีกอ เที่ยวล่อชียิ่ง อ่านกลอนยิ่งอึดอัดกับทางป่าอยากเอาอย่างบูราณมามันบัดสีถึงทำได้แต่ก็ทำไม่ได้ดีตั้งตัวเป็นกวี อับ ปรีชาจำพวกคนเห็นใครดีไม่ได้มันร้อนอกร้อนใจ จะเป็นบ้าเหมือนจิ๊กโก๋ ปลายแถวมาร้องท้าทำไม่ถึงยังจะมาเป็นกวีฉันไม่แน่ หรอกตาเถน เป็นผู้น้อยเหมือนหิ่งห้อย วาบแสงแดงริบหรี่ไม่กล้าอวด ตัวเป็นเช่นกวีด้วยรู้ดี อย่างเก่งนักเลงกลอนเกิดเป็นอึ่ง โอ้อวด มันอุบาทว์มิใช่ชาติ คชสาร มาสั่งสอนถึงพองตัว ก็ไม่เท่า อย่าเว้าวอนกลับไปนอนในอ่างบัวเจียมตัวเทอญ จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 11:11:43 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 53 20.06 น.วัด....พลาด วาดพัด แล้ว....รำเพลินวา.....ศอก คืบคลานเดิน....แถกดิ้นว้า.....หลงตอบ เลยเยิน......ยับย่นวุ่น....แต่เล่นพลิกลิ้น..........เล่นต้มแม่กิน ( มาม่า=แม่) บาป...บิน เป็นหิ่งห้อย.........เห็นใจบุญ....ท่านแถกไถไป..........เปล่าปลี้คุณ....วิสัชนาอะไร..............อึ่งอ่าง ช้างฤๅโทษ...ที่ ไม่รู้ ชี้...................มั่วแล้วแมวหมา20.19 น. ..........................................................................ทำเป็นตั้ง ปุจฉา เออบ้าบอไม่รู้ก็ บอกมา อย่าบ้าบอ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 49 20:30:40 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 54 21.19 น.บาป....ที่ต่างตั้งแง่...................ตีความบุญ.....ที่บ่งบอกตาม................จิตนี้คุณ.....พ่อเป่ากระหม่อมยาม...วัยกระเตาะโทษ...ที่ คิดผิด ชี้....................พลาดด้วยเฉียวฉุนบาป....เทพหนุน ให้เกิด.........ในนรก โลกแลบุญ.... พระพุทธคุณ ปรก.........กระหม่อมป้องคุณ.... มีจิตเทพหก.................ตกหล่น หายฤๅโทษ....พระ โทษเจ้า จ้อง.........จิกด้วยภาษาใจโปรด...ไปอ่าน เทพนี้.............ได้กราบ บุญแนถาม.....นิด เทพทำบาป...........พลาดได้ผู้........เป็นเทพใหญ่ สาป.......มาเกิด โลกมนุษย์แนรู้.........บาปเทพ หนุนให้........เกิดแห้วตกสวรรค์พระ.....คุณนั้น ปรกเกล้า........ปรกกระ- หม่อมตูครู.......ปลุกเสกอักขระ............สะกดบ้าปก.......กับ ปรก เปิดพจน-......อนุกรมเถิดป้อง.....ปาก ขากถุย ช้า...........แต่ช้าน่าอาย21.52 น. แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 21:58:29 แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 21:55:30 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 49 21:54:21 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 55 @นิมนต์รับข้าวเย็นตาเถนฉันมีข้าวมันไก่ ไข้หวัดนกจักได้มีแรงแหล่ตลกสกปรกบัดสี อับ ปรีชาฯฯ[ปี่พาทย์ทำเพลงเข้าม่าน ] จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 23:01:12 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 56 โปรด...ไปอ่าน เทพนี้..............ได้กราบ บุญแนถาม.....นิด เทพทำบาป.............พลาดได้ผู้........เป็นเทพใหญ่ สาป.........มาเกิด โลกมนุษย์แนรู้.........บาปเทพ หนุนให้..........เกิดแห้วตกสวรรค์.................................................................มีที่ไหนเทพใหญ่มาส่งสาปเทพทำบาป อับ ปรีชญ์ มีที่ไหนที่มาเกิดเพราะบุญหมด รันทดใจมิใช่ไท้แถนส่ง หรือลงทัณฑ์บังเกิดปัญจบุพนิมิตหมดสิทธิ์จับจองครองสวรรค์ล้วนเพราะกรรมแห่งตนแต่หนนั้นหมดบุญพลันมาลงมาเกิด เตลิดไปเที่ยวทู่ซี้ชี้ความตามมั่วๆรู้ไม่ชัวร์ โฉเก ทำเฉไฉรู้ไม่จริง อิงหลักกรู ก็ จนใจรู้อะไรไม่สู้รู้ให้จริงไปเปิดอ่านไตรภูมิองค์พระร่วงจึงค่อยมาทักท้วงให้ยุ่งขิงใช่คิดเองเออเอง "เวง จริงจริง"เหมือนกับลิงหลอกเจ้าคุณทำหมุนคอจำพวกเถน แก่วัดถนัดนักไม่รู้จัก บาเรียน เขียน ก. ข.ทำเป็นอวด สวดพร่ำ ในลำคอ ให้เขายอ ว่ายอดพระอาจารย์แต่คำปรก ยังดำน้ำไปขุ่นๆเหมือนพวกตัวตุ่น เที่ยวจุ้นจ้านใช้คำผิด ประเภท เหตุอาการเชิญท่าน ทอดเนตร ทัศนา..........." ปรก ซุ้มเล็กๆ ที่พระสงฆ์อาศัยในเวลาอยู่ปริวาสปรก ปก, ปิด, คลุม, เช่น พระนาคปรก ผมปรกหน้าปรก เรียกผู้นั่งภาวนาในพิธีปลุกเสก เช่นในพิธีพุทธาภิเษก ว่า คณะปรกปก แผ่ออกคลุมเบื้องบน เช่น ตะไคร้ใบปกดิน.""บุญ......พระพุทธคุณ ปรก กระหม่อมป้อง"ควรใช้คำว่า "ปกป้อง คุ้มครองป้องกัน."....................................................บอกแล้วไงว่า ไม่อยากมาวิสัชนา มิใช่ตาเถน ยายชี จะมาทู่ซี้เทศน์สองธรรมมาสน์ อวดฉลาดกว่าพระ อ่านกลอนมั่งนะ อย่าสำแดงโง่ บารนี จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 23:57:04 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 57 06.13 น.พรรษาหนึ่ง ซึ่งพุทธองค์ ทรงเสด็จถึงสวรรค์ทำไมพระองค์นั้น ต้องไปเทศน์ โปรดเทพหนาทำไมต้องไป แสดงธรรม ให้พระมารดาเทพมีดวงตา เห็นธรรม จิตสลายไปจุติที่ใดกันสรวงสวรรค์ มีกี่ชั้น ท่านตรองเถิดจิตวิปริต คิดเตลิด ถึงไหนนั่นออกพรรษา มาร่วมตักบาตร เทโวกันเพราะพุทธองค์ท่าน เสด็จลงมาโปรดสัตว์นรก บนโลกมนุษย์เส้นผมคลุมปรกศรีษะ...หรือจะเปรียบได้...ใบตะไคร้ปกดินปกหนังสือขาดหวิ่น...ปกดินตะไคร้ใบหญ้า...ถ้า ถอด - ถอน ก็หลุดไม่เหมือนเส้นผม...ปรกศรีษะ...สตรีบุรุษ"ขุนช้าง" บุญหนา...แต่ว่า "รากผมเน่ากุด"...ผมหลุดหัวล้านเลี่ยนเลยจิตหลอนหลง...คงคิดแต่...เรื่อง "สกปรก"คำผวนลามก...นกไม่ผวน...ล้วนใครมาเอ่ยจิตคุณคิดผวน...นั่นล้วนจิตคุณ...หมุนคอใครเหวยหมุน 180 องศาไปเลย...นั่นแหละเว้ย "จิตนก"...โลกนี้ผันผวน06.42 น.....................................................................................................ต้องมาแก้ไขขยายความคำว่า...ตักบาตรเทโวทำไมต้อง...เทโว...คุยโวโอ้อวด...ท่านเตือนอะไร...ทำไมต้องคุยโว แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 18:04:23 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 06:56:19 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 10 ส.ค. 49 06:48:37 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 58 07.08 น.บังเกิดปัญจบุพนิมิตนั่นคือมีจิต...ติดอาถรรพ์ห้า...อาถรรพ์พระผีอาถรรพ์มะ ...ฮา ห่า ห้า...เลข 5 อาถรรพ์มีลองไปอ่านดูซี...มันต้องมีแพะ...เซ่น อาถรรพ์มะ07.17 น.................................................................................................................//www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4351916/P4351916.html จากคุณ : นกโก๊ก - [ 10 ส.ค. 49 07:20:56 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 59 เอาอีกแล้ว ไม่รู้จริงไปอิงวัดเจนจัดเจ้าตำราจะหาไหนเที่ยวอ้างอิงลิงกัง แหม จันทร์ ไรแถไปได้น้ำขุ่นๆ นะคุณตาประเด็นอยู่ที่เทพใหญ่ไหนสาปส่งให้เทพน้อยลงมาเกิดเป็นหมูหมาดันไปลากเอาพุทธมารดามาโบ๊เบ๊ ซี๊ซั๊วต่า บ้าหนอคนเออมานี่ดีฉันจะตอบให้ว่าทรงได้โสดาปัตติผลล้วนเป็นบุพกรรมมานำดลเสวยผลพบสุขสนุกสบายแต่ยังคงอยู่ในชลกระแสมีบังเกิดจุติแท้เป็นที่หมายจนกว่าได้อรหันตผลพ้นอบายจึงดับว่ายเวียนจบพบนิพพานมิได้มีตรงไหนที่กล่าวว่าเทพชั้นฟ้าสั่งมาเกิดก่อสังขารล้วนเป็นกรรมของตนทุกประการหมดบุญบานก็มาเกิดตามเพรงกรรมนี่แหละหนาตาเถน เย็นฉันโจ๊กเที่ยวต่อนกโป๊กฮุกกรู อยู่เช้าค่ำถนัดแปลงธรรมปลอม มาอ่อมยำพอได้อำเขาเล่น ตาเถนท้วยอยากเป็นเซ็น เป็นได้ แค่เซ็นเหล้าเที่ยวธรรมเมา ธรรมโม ตามโชว์ห่วยแสร้งมีปริศนาธรรม ตำตะบวยพอได้กุ้งแชบ้วยมาฉันเย็นอนิจจาเป็นพระปาราชิกปลัดขิก อีเป๋อ กะเหล็นเป๋นเชิญไปเทศน์ตอนสายบ่ายเย็นๆด้วยว่าเหม็นขี้ปากอยากอาเจียน ..................................................ไปศึกษาหนังสือพุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ของท่านพุทธทาสก่อนจะมาโม้เถิด แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 20:59:14 แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 20:57:59 จากคุณ : cybrarian - [ 10 ส.ค. 49 20:56:35 ] ........................................................................................มีต่อที่ comments 3 โดย: นกโก๊ก 12 พฤศจิกายน 2549 10:29:24 น.ต่อจากความเห็นที่ 59 ครับ........................................................................................ความคิดเห็นที่ 60 07.10 น.ประเด็นอยู่ที่เทพใหญ่ไหนสาปส่งให้เทพน้อยลงมาเกิดเป็นหมูหมาดันไปลากเอาพุทธมารดามาโบ๊เบ๊ ซี๊ซั๊วต่า บ้าหนอคน..........................................................................๐ ทุกองค์กร มีเจ้าหนึ่ง............ปกครองไม่เชื่อ ก็ไปลอง.......................ด่าเจ้าสวรรค์นรก เปรียบเช่นของ.....คิดเล่น แน่ฤๅ แค่คิดค้าน "ศาล" เศร้า...........สั่งเข้าคุกฮา๐ หนักหนา สาหัสแล้ว..............จันทร์ ไรมันเหยียบย่ำ น้ำใจ..................หนักแล้วเชี่ยวชาญอักษร ไฉน...............หน้ามืดด่านก ด่าเถิด แก้ว...................อย่าได้หยามจันทร์๐ ท่านคนไทย ไหว้พระ............เจ้าไหมคำสั่งเจ้านาย ใจ......................หวั่นว้า ไม่เชื่อ ไม่ฟัง ใคร....................ถูกอัป- เปหิแล"เจ้าหมดคุณธรรม" บ้า.............บอร์ดต้อง "อัปเปหิ" ไป๐ ไยเล่นลิ้น สิ้นท่า...................ด่า "เถน" ด่านก นกใช่เณร.....................พระนี้ทำสวนอยู่ "จันทร์" เวร............สัตว์นรกด้วยว่าเหม็น "ปากขี้"...............อยากอ้วกอาเจียน 07.45 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 07:50:04 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 61 อย่าหาว่าสอดเสียบเหยียบเงาท่านทั้งสองราว่ากันมานานเนิ่นดิฉันอ่านตามไปให้เพลิดเพลินแต่เหมือนเทินหินผาไว้บ่าตนเปรียบดังคราวพาลีตีกาสรเข้าต่อกรทรพีลั่นไพรสณฑ์ข้าสุครีพลิงน้อยต้องอดทนกลัวเลือดข้นกระเด็นใส่ใจไม่ดีจึงตั้งใจหมายปิดถ้ำใช้ต่อสู้ก็คิดอยู่อาจซวยซ้ำหมดสิ้นศรีพิษแห่งการประลองยุทธโยธีอาจทำให้สิ้นชีวีลงกลางดินจึงโดดหลบกบดานนานอีกหน่อยแต่ก็คอยแอบมองช่องโขดหินคอยดูเลือดของใครจะไหลรินแล้วจะได้เอาหินปิดประตู จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 11 ส.ค. 49 09:06:41 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 62 ไปอ่าน โลกทีนี ของเจ้าคุณพระพรหมโมลี วัดดอนยานนาวา มาให้แตกฉานก่อนจะมีคุยเรื่อง นรกสวรรค์เถิด เอวัง ..........................................@บัดนั้นพาลีผู้ใจหาญหักคอทรพีกระบือบาลเลือดฉานออกนองเนืองจึงร้องเรียกสุครีพผู้เป็นน้องมัวจดจ้องมองอยู่ตลอดเรื่องแสนเสียดายควายป่ามาตายเปลืองอยู่ในเหมืองเถื่อนถ้ำลำเนาไพรเป็นควายถึก คึกโครม กำลังแล่นมาวิ่งแจ้น เขาเขียว เที่ยวขวิดไล่ก่อแต่ ความอำ รำคาญใจสมควรน้องนำไปลาบสู่กิน ฯฯ--ปี่พาทย์ทำเพลงกราวนอก -- แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 11:05:20 จากคุณ : cybrarian - [ 11 ส.ค. 49 10:56:14 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 63 12.16 น.ไร้.......รูป ไร้ลักษณ์ ล้วน........ไร้แววบาป.....สาปส่ง หลงแนว...........นอกนั้นลาบ.....เลือด เชือด หมาแมว....โคกระ- บือใดใบ้.......บอด ฉอดชี้ ชั้น............เชือดด้วยภาษาใจไร้........รักษ์ ไร้หลัก ล้ม...........ตาม "กัน"บุญ......บาป ทราบอาถรรพ์.......ท่านแล้วลุ้น.......ต่อ - ล่อตุ่น มัน.............ชักเมื่อย ตุ้มแนใบ้.......บอก หลอกเล่น แห้ว.....เบื่อแล้วหัวหมุนไร้.......บุญ บาป คราบคลุ้ง........เหงื่อไคลคุณ......รักรูปลักษณ์ ใด...........อ่านได้ลุ้น.......สวรรค์นรก ตกใจ........ไม่ตื่น แลฤๅใคร......เล่น - เข่นไล่ ไห้..........ห่อนรู้หลงหายไร้........ศัตรู ไร้มิตร สิ้น...........ศึกสงบโทษ.....ที่คิดไม่ครบ..................กระบวนด้านโรจน์.....รุ่ง ใช่ พิโรธ พบ..........กระบวนพลิก แพลงเอยไทย.....ใช่เทศ เหตุค้าน...........ต่างด้านถือดี12.42 น...........................................................................ฉันเพลเสร็จสวัสดี...มีท่าน ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) มาเยี่ยมหินที่เตรียมเอาไว้ปิดถ้ำ....นำเอาออกมาใช้ได้แล้วครับ จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 12:46:32 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 64 อุ้ย! ฉันเพลเป็นด้วยหรือเจ้าคะนึกว่าจะรอฉันเย็น ควบเพลเช้าเปรตปลาไหล สุรากลั่น มาบรรเทามะขามเปรี้ยว กระปรี้ กระเปร่า --เมาธรรมมาเดี๋ยวไม่มีแรงพาทัวร์เที่ยวสวรรค์ชมชั้น จาตุม ปรนิม กิมเกี๊ยมฉ่าทั้งดุสิต ดาวดึงส์ ยามาเลยไปหานิมมานรดี ฉันแต่งกลอนนิทาน เรื่องตาเถนใครไม่เป็นอย่ามาร้อน นอนโลงผีที่หัวหงอก หงอกไปกะไรดีอย่าอับ-ปรีช์ ถอนหงอกออกมาดม นิทานเรื่องเถน ชี มีมาเก่าเป็นเรื่องเล่า ติดตลก อกฉาวฉมไว้สอนพระ ให้เป็นพระ ละอาจมจัดระเบียบสังคมให้สมดุล ....................อย่าลืมอ่าน โลกทีปนี มุนีนาถทีปนี วิปัสสนาทีปนี โลกนาถทีปนี ภาวนาทีปนี โพธิธรรมทีปนี ภูมิวิลาสินี วิมุตติรัตนมาลี ของเจ้าคุณพรหมฯ วัดดอนด้วย แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 14:15:19 จากคุณ : cybrarian - [ 11 ส.ค. 49 14:06:28 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 65 16.37 น.ไร้......คุณธรรม ค้ำโลก...........ล้มเหลวบาป....หล่มลึก ปลักเหว...........ลึกล้ำหราบ...จำ ย่ำในเปลว.............ปลักอะ- ไรฤๅใบ้......นั่น "อเวไนย" ย้ำ........อย่าได้ใส่ใจไร้......สติ ริเล่นล้วน................เหลวไหลบุญ.....ชาติหนึ่ง เวไนย............สัตว์นี้รุน......ผลักพลิกผันใจ.............ได้กลับ มาแนใบ้......บอก กลอกตาชี้..............มิกล้ากลัวใจไร้......ไฟรุน บ่รู้......................ร้อนหนาวคุณ.....ค่า ราคีคาว....................คละคลุ้งรุน......แต่เรื่อง โฉ่ฉาว............ราวท่อง จำนาไค้......แคะ แหวะผักบุ้ง...........พุ่งให้ใครหรือไร้......คือ ไร้จิต รู้....................ทางธรรมโทษ...ท่านหลงทาง นำ..............หกแห้วroad...ทางท่อง ไทยจำ..............มรรคแปดไท้......เทพ เสพธรรมแล้ว.......ระลึกรู้ใจตน17.10 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 17:08:40 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 66 อุ้ยต้าย ตาย ตาเถน เย็นตาฉ่ำเหมือนดื่มด่ำ กัญชา จนหน้าผีเริ่มบ่นบ้า ธรรมเมา เอาละซีแล้วกัณฑ์นี้ใครจะติดละหลวงตาทำนองออกบอกความตามเขาแหล่เหมือนลิงแก่สัปหงก นกเจ้าขามาสอนคนทำสติ อาณาปาน์ เดี๋ยวก็พาไปสวรรค์ ชั้นจาตุมฯทำหน้างอเป็นจวัก เทศน์มรรคแปด ได้แต่ทางช้างแรด นรกขุมเป็นทำนองกาฝากต้นมะรุมเกาะกุม เป็นเสนียด เบียดอินทรีย์ดูคล้ายๆเหมือนเรื่องตาเถนขวาดแสนประหลาด ปลุกเสกน้ำมันผี"ครั้นสำเร็จเสร็จแสร้งแปลงอินทรีย์รูปตาชีก็หายกลายเป็นแร้งสองเท้า ถีบดิน บินกระโชกหางโบก หัวเกลี้ยง เหนี่ยงแกว่งปากมุ้ม มู่ทู่ สองหูแดงลมแรง ร่อนมุ่ง กรุงอยุธยาฯ"**ของเก่า เสภาขุนช้าง ขุนแผน ตอนจรเข้เถนขวาด แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 17:52:55 จากคุณ : cybrarian - [ 11 ส.ค. 49 17:52:24 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 67 คุณนกโก๊กเกือบจะเป็นพหูสูตแล้ว... แต่คงไม่ค่อยมีเวลา.. จึงอ่านมานิด ๆ หน่อย ๆ แตะ ๆ คลำ ๆ รู้มาพอเหมือนตาบอดคลำช้าง แล้วก็สถาปนาตัวเองซะยิ่งใหญ่ บอกว่าเป็นครูอย่างโน๊น อย่างนี้ แล้วก็ลากเอาพุทธศาสนาเข้ามาในกลอน.. คนสติดี ๆ เค้าไม่น่าจะทำกัน เถียงกันเรื่องพุทธศาสนาเนี่ย เพราะถึงแม้จะบอกว่า ตัวเองรู้เยอะเกี่ยวกับพุทธศาสนาขนาดไหน ที่แท้มันก็เป็นเพียงความรู้ที่เรารู้ และถ่ายทอดออกมาได้...มันก็แค่ธุลี เท่านั้น... จึงอย่าได้นำเรื่องพุทธศาสนา อันเป็นสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องสมมติเล็ก ๆ เหล่านี้เลย... คุณนกโก๊กเป็นคนตะแบง ดื้อรั้น เคยเห็นที่เค้าเขียนร้อยกรองขำ ขำ เกี่ยวกับเรื่องไข้หวัดนกแบบคนไม่รู้เรื่อง ไม่มีข้อมูล เข้าใจผิดพลาด...พอมีสัตวแพทย์เข้ามาตอบ คุณนกโก๊ก ก็กลับไปด่าเค้ากลับ ยกทฤษฎีระดับทั่วไป (General Theory)...บอกว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นผู้ทำให้เกิดโรคร้ายทั้งมวล ไม่ควรฆ่าเป็ดโทษไก่ ฯลฯอ่านแล้วน่าสมเพช... คือทฤษฎีทั่วไปมันไม่ผิด.. แต่ไม่ใช่จะนำมาพูดกันในเวลานี้ หมอเค้ากำลังพูดถึงการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนกซึ่งเป็นปัญหาระดับ Micro ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้า แต่คุณนกโก๊ก กลับเอาทฤษฎีการพัฒนาระดับ Macro เข้ามาตอบ.. กลายเป็นการแสดงภูมิหลุด ๆ ไม่ต่อเนื่อง ไม่เต็มบาท..มันไม่ผิดก็จริง... แต่เค้าใช้ไม่เป็น...ไม่รู้จักกาละเทศะ สรุปได้ว่า....เวลาคุณนกโก๊ก ตอบไม่ได้ ไม่เข้าใจ...คุณนกโก๊กไม่คิดจะยอมรับ... แต่จะไปร่ายยาว หาทฤษฎี macro มาตะแบงให้กับปัญหา micro ของตัวเอง และใช้ลีลาการเขียนกลอนแบบวนไปวนมา ประเภท โคลงสี่ หรือ กลบท เป็นการสร้างความลึกลับฉลาดเฉลียว เข้าทำนอง ลีลาเด่น วาทศิลป์เป็นเลิศอ่านกระทู้นี้มานานแล้ว ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว... แต่แต่งกลอนไม่เป็น.. มือไม่ถึง.. ไม่กล้าเอาของสูงมาใช้อวดอ้างสรรพคุณ จึงขอตอบด้วยร้อยแก้วพื้น ๆ ตามประสาคนแวะผ่านมาละกัน จากคุณ : ผีกองกอย - [ 11 ส.ค. 49 18:16:41 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 68 20.27 น.๐ ฮา ห่า ห้า น่าลุ้น.............รอผลเซพกระทู้ไว้ทุกคน............เถิดเจ้ามีแรง แข่งขัน จน..............อยู่รอด แล้วฤๅแก่เฒ่าจะนั่งเศร้า.............เหี่ยวแห้งหัวโต๐ ทฤษฎี โค ต่างค้น..........คว้ากันทฤษฎี ร้อยพัน..................เปลี่ยนได้ข้อมูลใหม่ เปลี่ยนมัน.........ทุกเมื่อแต่กฎ ธรรมชาติ ไซร้........เปลี่ยนได้ด้วยหรือ๐ นกเชื่อถือ ด้วยกฎ..........แห่งธรรม- ชาตินากริยาเกิดปฏิกริยา กรรม....เกิดต้านยิ่งตี ยิ่งดัง ทำ.....................เป็นไม่ สนฤๅหยุดโรค ต้องหยุดด้าน........ปราบให้หายสูญ๐ ลงทุนค้นคว้า ฆ่า.............กันไยฝ่ายถูกฆ่าพัฒนาไป...........อีกขั้นฝ่ายฆ่ายิ่งวิจัย....................ทุนยิ่ง หนักแลสุดแห่งที่สุดนั้น..................พ่ายแพ้ทุกคน๐ สนแต่ตัวอยู่ยั้ง................ยืนยงหวัดนก พาหะคง................ฆ่าสิ้นกินได้รึ ไก่หลง...................ไล่จับ อะไรแลธรรมชาติวิปริต ดิ้น.............อยู่ได้สบายหรือ๐ ฮือฮา ว่าโลกร้อน.............ตายโหงห่วงโซ่อาหาร โครง..............ขาดแล้วนาโนเทคโนฯ โลง...............ศพรุ่งฮา ห่า ห้า ไม่แคล้ว..............อยู่ถ้ำมนุษย์หิน21.24 น. จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 21:33:58 ] ........................................................................................มีต่อที่ comments 4 โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) 12 พฤศจิกายน 2549 10:35:14 น.ต่อจากความเห็นที่ 68 ครับ ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 69 เมื่อท่านมากล่าวท้าวความย้ำเพื่อความเชื่อมั่นใน "กฎแห่งการอยู่รอด"ขอคัดลอกกลอนชุดนั้นมาให้เก็บตรวจผลสรุปกัน...........................................................................กลอนชุดนี้มีอาถรรพ์...พันทิบท่านห้ามโพสต์คร้าบบ...........................................................................วังเวงสวัสดิ์ทุกท่าน บ๊ายยย... แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 22:26:18 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 22:07:19 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 70 อัญเชิญนกขึ้นสู่.................พระเมรุทองเผานกมานั่งมอง................นกปิ้งนกตายเพราะไข้ครอง.........จับจิตขำนกตกเกลือกกลิ้ง............พลาดแล้ว ไวรัสอันธรรมละเอียดแท้.............วิตถารแปลงออกเป็นพิสดาร...........หนึ่งแท้สองคือหนึ่งหรือวาน.............ช่วยบอกสองหนึ่งบาลีแก้..................ออกแจ้ง สันสกฤตนกน้อยมาอวดรู้..................ธรรมวิเศษแท้ติดอุปกิเลส...................เศร้าหมองอ้างคำรสธรรมเทศน์............มากล่าว สอนนาตรองตรึกนึกเถิดน้อง...........กลับย้อน มองตนแผลงกวนผวนแกล้งกล่าว......คำโคลงเอกโทโอ้ทุเรศโยง...............ยักย้ายแมวตดนุ่งห่มโจง.................แกล้งแต่งกฎระคนกลบทคล้าย............ตดแม้ว นกยาปล. ไม่เคยทำฉบับแก้ไข แก้แล้วแก้อีก...อิอิอิ จากคุณ : buaravong - [ วันแม่แห่งชาติ 00:58:35 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 71 ได้เวลาฉันเย็นหรือเจ้าคะถึงได้มาตะแบง ตะบันบี้คืนร่างแปลง แร้งทึ้ง ถึงธานีกลายเป็นเถน สมี เกี้ยวสีกาหวายๆเชื่อกฎธรรมชาติประหลาดพอเป็นไข้ไม่รักษาเมื่อวานเห็นไปสุขศาลาเจียดยาเจ้ากรมเป๋อ มาต้มกินเป็นโรคเวรโรคกรรมอัมพฤกษ์เพราะสมีไม่ยอมสึก รักษาศีลมัวแต่แปลงเป็นแร้ง กระพือบินเขารู้สิ้น รู้ไส้ ไปทั้งบางคนเขารู้มาเตือนก็ด่าเขาอ้างธรรมเมา โม้มั่ว ขึ้นมาอ้างยอดตะแบง แถไปได้ทุกทางเอาสีข้างเข้าถูหรูอลังฯยังอุตสาห์ขุดของเก่ากลิ่นเน่าฉมออกมาดม อวดอ้างอย่างของขลังปลัดขิก สีผึ้ง นะตึงตังคร้านจะฟังแหล่ตลก หวัดนกเอย จากคุณ : cybrarian - [ วันแม่แห่งชาติ 01:00:40 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 72 กลับเข้ามาอ่านอีกรอบ.. ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรจะเขียนแล้ว... แต่อยากมาเตือนน้อง ๆ และพี่ๆ ว่า ได้โปรดอย่ามารุมกินโต๊ะคุณนกโก๊กกันเลย.. เท่าที่อ่านที่แกเขียนตลอดมา.. แกไม่ใช่คนเลวร้าย หรือเห็นแก่ตัวอะไร.. แกแค่เป็นคนตะแบง ทิฐิสูง ดื้อรั้น เท่านั้นเอง ไม่ผิดหรอก.. อัจฉริยะส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ ไม่งั้นเอดิสัน คงผลิตคิดหลอดไฟไม่ได้หรอกยิ่งไปดูกลอนเก่า ๆ ที่คุณนกโก๊กเอาขึ้นมาให้ดู ยิ่งชัดเจนว่า แกไม่ใช่คนไม่ดี.. ตรงกันข้าม...เป็นคนมีอุดมการณ์ชัดเจน แกมองการแก้ไขปัญหาแบบเป็นองค์รวม.. ไม่ใช่การแก้ไขแบบเฉพาะหน้าของวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาแก้ไขปัญหา.. แกเป็นคนพยายามจะมองอะไรเป็นองค์รวม.. บูรณาการ.. เต๋าอิซึ่ม เซ็น อะไรทำนองนั้น แกใช้ได้เลยนะ... พูดรวม ๆ แล้วถูกต้องทั้งหมดแหล่ะ วิถีการพัฒนาของเราที่เริ่มมาตั้งแต่ยุคภูมิธรรมในศตวรรษที่ 18 จะพาเราไปสู่หายนะอย่างแน่นอน... เนื่องจากเราฝ่าฝืนกฎธรรมชาติ กีอายน่า... ระบบชีวะของโลก.....เข้าทำนองเด็ดปีกผีเสื้อสะเทือนถึงดวงดาวอันลือลั่น... อันเป็นทฤษฎีที่อธิบายได้แต่ปัญหา เสียแค่ที่ว่า...มันไม่ได้เป็นทฤษฎีที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาใด ๆ เลยก็ขอยืนยันว่า แกรู้เยอะ.. เยอะจนอาจจะเลอะ และน่ารำคาญ โดยเฉพาะกับประเด็นที่ไม่ได้ให้คำตอบกับปัญหาเฉพาะหน้า.. แกเลยดูเหมือนเป็นคนไม่แยแส...เอาแต่เห็นแต่ความผิดคนอื่น .. เหมือนคนอยู่ในเรือที่กำลังล่ม มือไม่พาย มือไม่วักน้ำออก.. ดีที่แกยังไม่เอาเท้าราน้ำ.. เพียงแค่ร้องตะโกนว่า แกต้องตายกันหมดเรือ เพราะพวกแกดันนั่งเรือนั่นออกมา เก็บแกไว้ให้เป็นคนสอนใจ เตือนสติคอยฉุดรั้งพวกเราที่วิ่งตามกระแสพัฒนาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเถิด.. อย่างน้อยจะได้ทราบว่า การขาดสติไม่ใช่เรื่องดีเลย จากคุณ : ผีกองกอย - [ วันแม่แห่งชาติ 01:28:39 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 73 บัดนั้นเตาฟืนผู้เมาอัชฌาสัยได้ยลยินระบิลความตามนัยยกมือป้ายน้ำตาอุรารานแสนสงสารวิหคเจ้านกผีลำบากแล้วครานี้ละออท่านพายุใหญ่ไล่พัดซัดเรือนชานจนกระไดเรือนสั่นเจียนจะพังเห็นแววตาฉายแล้วเป็นแววจิตฉายความคิดตรงเด่ไม่เลหลังปากว่าไปใจอย่างนั้นดันทุรังเป็นที่ตั้งแห่งกวีมีมากมายไม่ซ่อนเร้นปากหวานทะนานหนึ่งแต่ใจนั้นเคียดขึ้งตำลึงได้แกว่ามาตัวข้าก็ว่าไปเราต่างเป็นสหายใช่ริปูเล่นกันแบบหนุกหนุกรับมุกหน่อยจะไม่หงอยแก่หงำทำหน้ายู่แลกกันคนละหมัดวัดความรู้คนอื่นเขาดูอยู่ก็ขื่นชมไม่เถียงกันไม่ถกกันมันน่าเบื่อจะเข้าเนื้อไปบ้างอย่างยาขมก็เป็นยารักษาไข้ใจอย่าตรมเราไม่ข้ามไม้ล้มเราเจริญหลังพายุดินก็เลี่ยนดูเตียนโล่งน่าจะได้ลาโรงด้วยนานเนิ่นขอกราบลาท่านผู้ชมที่เพลิดเพลินเหล่ากวีต่างก็เดินเข้าโรงไปเสมอ-เชิด-ลา-สรรเสริญพระบารมี จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ วันแม่แห่งชาติ 08:47:20 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 74 **ความคิดเห็นที่ 73 คุณ ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 49 13:05:49 แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 49 13:04:42 จากคุณ : สิคีรียา - [ วันแม่แห่งชาติ 13:02:29 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 75 15.48 น.เพียงรู้ "คิด" ... พิจารณา ... ธรรมชาติเพียงรู้ "คำ" ... เฉลียวฉลาด ... ที่ปราชญ์สอนเพียงรู้ "ภาพ"...ดาบสองคม ... ที่ซับซ้อนเพียงรู้ "เห็น" ...ภัยแฝงซ่อน ...ศรเสียบหลังไม่รู้ "กัน" ... รู้แต่ "แก้" ... แพ้หมดรูปไม่รู้ "สูบ" ... รู้แต่ "ฉีด" ... เลือดไหลหลั่งไม่รู้ "จบ" ... รู้แต่ "สิ้น" ... กินเพิ่มพลังไม่รู้ "หลัง" ... รู้แต่ "หน้า" ... ล้วนบ้าบอจงหัด "คิด" ... อย่าหัด "ฝัน" ... มันเพ้อเจ้อจงร่วม "เธอ"...อย่าร่วม "ฉัน"... กันนะพ่อจงฝึก "ทำ" ... อย่าฝึก "พูด" ... แค่นี้พอจงเริ่ม "ให้" ... อย่าเริ่ม "ขอ" ...ให้ "พอ" ดี16.10 น.......................................................................ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมจนอวสานขอความสุขสวัสดี จงมีแด่พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน จากคุณ : นกโก๊ก - [ 13 ส.ค. 49 16:17:50 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 76 *ก่อนอวสานมีกลอนกานท์อันวิจิตร ผู้ลิขิต คือจอมปราชญ์แห่งศาสนา นำมาฝาก... ผู้น้องชาย...คลายอุรา ยกจิตมา อย่าเต้นตามความของใคร *อันคนรักสำหรับเราเท่าผืนหนัง คนชั่วชังเท่าผืนเสื่อ...เบื่อไฉน อันคนเราถ้ามีจิต มิตรน้ำใจ สัมผัสได้..ฉะนั้นหนาอย่าปรารมย์ *อันคารม คมคนปะปนอยู่ มีขัดหู รื่นหู ดูผสม คำว่าเพื่อน ย่อมเข้าใจในคารม ไม่ใช่เพื่อน แม้เราชม..ยังขัดใจ *ใครมาดี มาร้าย ให้ใจรู้ แล้วอำลาสุดกู่ อยู่ไฉน เพื่อน คือ เพื่อน ผิดหูบ้างยังอภัย เพราะว่าใจบริสุทธิ์..พูดสิ่งดี *ขอยอกรอัญชลี..ท่านพุทธทาส ก่อนน้อมนำ คำปราชญ์อักษรศรี มามอบให้ นกโก๊ก ....ด้วยไมตรี เพราะหวังดี จาก พี่สาว..ที่เข้าใจ.. *********************** *เป็นมนุษย์หรือเป็นคน? *เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูงเหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขนถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคนย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา*ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสาเพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลาเปรมปรีดา คืนวัน สุขสันต์จริง *ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่าใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิงเพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิงแต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย*คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตกจงรีบยก ใจตน รีบขวนขวายให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตายก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอยฯ (โดยพุทธทาสภิกขุ) แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 49 01:58:42 จากคุณ : สิคีรียา - [ 14 ส.ค. 49 01:58:04 ] ........................................................................................ ความคิดเห็นที่ 77 10.34 น.๐ ยามว่าง นั่งอ่านทู้..............บาปบุญฯ"ช่างโง่เง่าเต่าตุ่น" คุณ........ว่ามั้ยทุกสิ่งที่ นำหนุน...................คุณโทษ ใครแน"คนที่ผ่านมาเจอ" ให้...........อ่านด้วยจิตตน๐ เป็นคน ควรรู้เหตุ.............เพศภัยคุณโทษคนอื่น ไย.................ยึดย้ำคุณต้องเหตุ เป็นไป...............ต้องโทษ คุณนารักลูกเสือ (อยากได้) เข้าถ้ำ....ถูกขย้ำ "ร้องเสียงหลง"๐ จงฟังเสียงเพื่อนบ้าง...........นะคุณเพื่อนห่วงเพื่อน ห่วงบุญ.........บาปห้ามเพื่อนโกรธเพื่อน เฉียวฉุน....บุญแบ่ง ไหมฮาถูกจับ แบ่งบาป ซ้ำ.................โทษชี้เพื่อนทำ๐ ยามโกรธ โทษชี้มั่ว............."ทำมัน" มันทำนะโทษนรก โทษสวรรค์.............ว่าเจ้าทุกอย่าง ต่างโทษกัน...............ไม่โทษ คุณนาต้องโทษ ที่มั่วเม้า....................ไม่เข้าใจเลย11.00 น..............................................................................คงจะมีอริยะสงฆ์เท่านั้นที่ท่านเข้าใจ...บาป บุญ คุณ โทษนกถามด้วยใจจริง...ทุกสิ่งที่ปรากฎ...สิคีรียา โทษใครครับ แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 49 11:15:29 จากคุณ : นกโก๊ก - [ 16 ส.ค. 49 11:05:07 ] -------------------------------------------------------------------------------- โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) 12 พฤศจิกายน 2549 10:46:31 น.ผี | เว็บผี |ละครผี|คนอวดผี | กุมารทอง | เรื่องผี|คลิปผี|หนังผี โดย: amulet108 14 พฤษภาคม 2555 18:14:57 น.
--------------------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 41
21.39 น.
"ศีลธรรม"...อ่านออกเสียงว่า...ศีล - ละ - ธรรม
เป็นวลีคำ...สองพยางค์ อำพรางคำว่า "ละ"...จะนำทางให้
"ศีล" เป็นข้อห้าม....พระสงฆ์ "ต้องห้ามปฏิบัติ"...ในเส้นทางสายตาย
"ธรรม" เป็นข้อปฏิบัติ...คฤหัสถ์ นำไปใช้...ในเส้นทางสายเป็น
หรือศีลธรรมจำคนละตำรา...ไม่รู้ว่า cybrarian ...จำตำราไหน
จิตสำนึกมีหรือไม่...ใครเสียดสีป้ายเขา...มั่วเม้าปากเหม็น
เขียนอะไรรับผิดชอบต่องานด้วย...ห่วยแตกซ้ำ...ย้ำประเด็น
ในมือยังมีไผ่เด่น...เล่นอม"สะเปโต"...นกไม่โม้ ถ้าตีมา "เสียค่าโง่" แน่นอน
22.07 น.
..........................................................................................................
คั่วสะเปโตคอยน็อคมืดอยู่นานแล้วนะนี่...รีรอช้าอยู่ไย...แน่จริงทำไมไม่ตีมา
จะได้รู้ว่า --- บาป...บุญ...คุณ...โทษ...กฎแห่งกรรม --- พ่อย้ำสอนใจใคร
แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 22:21:44
แก้ไขเมื่อ 05 ส.ค. 49 22:19:48
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 5 ส.ค. 49 22:17:25 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 42
ใจบาปจิตรหยาบร้าย..........ทารุณ
กำเริบเอิบเกินสถุล.............หยิ่งก้อ
อีกหนึ่งห่อนรู้คุณ................ใครปลูก ฝังแฮ
สามสิ่งควรเกลียดท้อ...........จิตรแท้อย่าสมาน..
*โคลงสุภาษิตโสฬสไตรยางค์
...........................................
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงพระราชนิพนธ์ไว้โดยมีพระราชประสงค์
ที่จะสั่งสอน จริยธรรมแก่ประชาชนทั่วไป
จากคุณ : สิคีรียา - [ 6 ส.ค. 49 00:35:20 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 43
ขออภัยว่าจะไม่มาดูแล้ว
เหมือนมีพรายมาแว่วกระซิบหู
เลยจรมาเพ่งพิศพินิจดู
จึงได้รู้ ว่าเล่นไม่เลิกรา
นึกว่าสิ้นเวรกรรม ต่อกันแล้ว
ยังมาร้องแจ้วๆ เขียนกลอนด่า
อ้างธรรมะ ธรรมโม โฆษณา
อุปโลกน์ อุปลาห์ เที่ยวด่าทอ
ไม่แต่งกลบทตดแมว ดอกแล้วหรือ?
เห็นลือชื่อโด่งดัง อย่างเปิดหวอ
ทำไม่เป็นแล้วยังทำกำมะลอ
เดี๋ยวจะขอซีไรท์ให้ซีรอง
คล้ายสมี ตาเถน ข้าวเย็นฉัน
เที่ยวเทศน์ลั่นศาลาท่าผยอง
ปากว่าธรรม ส่วนมือกำตะบอง
ไปเที่ยวซ่อง แล้วมาสอนศีลธรรม
เขาไม่เชื่อเบื่อแล้ว ตาเถนเอ๋ย
เรียกยายชี ยายเชย มาร้องร่ำ
นิมนต์ไปสวดแหล่ เล่นแบกำ
เอาให้ขำ มุขตลกครบโปกฮา
จากคุณ : cybrarian - [ 6 ส.ค. 49 22:56:53 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 44
ศรีมาลาว่าโอ้พุทโธ่เจ้า
มาโดนเอาเปล่าเปล่าเจ้าแม่เอ๋ย
ที่เคยคันมันก็คันไปตามเคย
สัญชาติเตยถึงจะงามก็หนามมี
เกิดกอเป็นตออยู่ริมคลอง
เรือขึ้นเรือล่องต้องเสียดสี
อนิจจาข้าได้ว่าอะไรมี
ไม่พอที่หุนหันจะคั้นคอ
เขาก็รู้อยู่ว่าต่อมันรานไฟ
ข้าไม่พอใจไปที่รังต่อ
ทั้งคารี้คารมเขาชมปรอ
เหมือนตอออกมาขวางที่ทางเรือ
เป็นตะพังวังวนก้นกระทะ
สวะสะว่อยลอยปะออกฟั่นเฝือ
เที่ยวแทรกไปทุกทางอย่างดีเกลือ
ข้านี้เบื่อพูดมากน้ำหมากพรูฯ
*บทเสภาขุนช้างขุนแผนตอนนางสร้อยฟ้าร้องว่านางศรีมาลา
...........................................
กวีโบราณมีจุดประสงค์จะให้เอาไว้ขับเสภา เป็นที่สนุกสนานแก่ประชาชนทั่วไป ไม่ต้องเที่ยวเอามาอ้างสั่งสอนแต่อย่างไร
แก้ไขเมื่อ 06 ส.ค. 49 23:16:16
จากคุณ : cybrarian - [ 6 ส.ค. 49 23:05:02 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 45
23.27 น.
ตาม....ธรรม ว่า มนุษย์ ล้วน...........ตามใจ
บุญ.....บาป หยาบละเอียด ใคร.......ต่างรู้
ตาม....แต่ จิต นิมิต ไป..................ปกติ
กรรม...สัตว์ เกิดจากผู้...................ผลิตสร้างเอาเอง
23.32 น.
กวีโบราณมีจุดประสงค์จะให้เอาไว้ขับเสภา
เป็นที่สนุกสนานแก่ประชาชนทั่วไป
ไม่ต้องเที่ยวเอามาอ้างสั่งสอนแต่อย่างไร
.....................................................................................
อนิจจา...บทเสภา --- บทกวีไทยแต่งไว้เพื่อความสนุกสนาน
น่าเสียดายงบประมาณที่จ้างครูมาสอนวรรณคดีจังเลย
แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 49 23:36:55
จากคุณ : นกโก๊ก - [ วันรพี 23:36:15 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 46
อันอิเหนาเอามาทำเป็นคำร้อง
สำหรับงานการฉลองกองกุศล
ครั้นกรุงเก่าเจ้าสตรีเธอนิพนธ์
แต่เรื่องต้นตกหกหายพลัดพลายไป
หากพระองค์ทรงพิภพปรารภเล่น
ให้รำเต้นละครคิดรำใหม่
เติมแต้มต่อติดประดิษฐ์ไว้
บำรุงใจไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน
..........................................................................
การแต่งบทกวีของคนโบราณ ยิ่งพวกบทละครนอก เสภาแล้วไซร้ มุ่งเน้นความสนุกสนาน บำเทิงใจเป็นที่ตั้ง อย่างพระราชนิพนธ์บทละครนอกของล้นเกล้า ร.2 นั้น มี เรื่อง สังข์ทอง เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ที่ทรงพระราชนิพนธ์ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง ส่วนพระราชนิพนธ์บทละครนอกเรื่องอื่น ๆ ทรงเลือกเฉพาะตอนที่มีการทะเลาะวิวาท บริภาษหึงหวง ตัดพ้อต่อว่า ปะทะคารม เป็นนาฏการสำคัญ
รศ.จักกฤษณ์ ดวงพัตรา ครูสอนวรรณคดี ก็กล่าวไว้ชัดว่า
" สำนวนกลอนพระราชนิพนธ์ บทละครนอกเป็นบทละครที่แต่งขึ้น เพื่อการแสดงที่มุ่งความสนุกสนานของผู้ชม มากกว่าความชื่นชมในอลังการทางนาฏศิลป์ "
"ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อการแสดงละครนอก ที่มุ่งแสดงความตลกขบขันโดยแท้ เพราะแม้เพลงขับร้องจะบรรจุเพลงชมตลาด และเพลงลงสรงสุหร่าย เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวละครได้แสดงฝีมือทางนาฏศิลป์ ก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาตัวบทแล้ว ก็เห็นได้ว่ามีพระราชประสงค์ให้เกิดความตลกขบขัน มากกว่าจะมุ่งพรรณนารายละเอียดการแต่งกายของตัวละคร โดยเฉพาะตัวบทยังเอื้อให้สามารถแสดงตลกตามแบบละครนอก ชนิดที่เรียกว่า "เล่นตลกลอยดอก""
ส่วนการที่ผู้อ่านผู้ฟังจะได้คติเตือนใจนั้น เป็นเรื่องรองมิใช่วัตุประสงค์หลักของเสภา หรือกลอนบทละคร และเป็นการมองวรรณคดี ตามแบบฝรั่ง ซึ่งแม้จะนำมาใช้ในการพินิจวรรณกรรมไทยได้ แต่ก็ใช้ไม่ได้ดีนัก
อนึ่งข้าพเจ้าก็สลดใจที่คนที่อ้างว่ารู้ดีเรื่องวรรณคดี บทกวี ถึงขนาดมากล่าวเย้ยคนอื่นนั้น แท้แล้วรู้พอผิวๆ ไม่ได้ลึกซึ้งอะไร จึงจักได้ฝากให้ไปอ่านหนังสือเพิ่มเติมจากครูวรรณคดีของข้าพเจ้าบ้าง ได้แก่
หนังสือ วรรณนัยวินิจของ ศาสตราจารย์ ดร.กุสุมา รักษมณี
หนังสือวรรณคดีการแสดง ของ รองศาสตราจารย์จักกฤษณ์ ดวงพัตรา
ทฤษฎีเบื้องต้นแห่งวรรณคดี ของ ศาสตราจารย์ ดร.เจตนา นาควัชระ
หนังสือพินิจวรรณการ ของ ศาสตราจารย์ดร.นิยะดา เหล่าสุนทร
จากคุณ : cybrarian - [ 8 ส.ค. 49 01:27:01 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 47
ตาม....ไปเถิดตามไปในที่ชอบ
บุญ....ประกอบกรวดน้ำงามกุศล
ตาม....กลิ่นธูปกลิ่นเทียนอย่าเวียนวน
กรรม...ของตน มิใช่ของใครเลย
นี่พูดขึ้นลอยๆเหมือนหอยสังข์
ไม่ได้หวังสอนสั่ง....นั่ง..นอน.เฉย
ด้วยดีฉันชั่วดีก็มีเคย
ไม่กล้าเอ่ยธรรมะมาสอนใคร
ด้วยมิใช่สัพพัญญูรู้แจ้งโลก
เที่ยวร่ายโศลกสอนสั่งยังสงสัย
พวกหัวดำอยากเทศน์ผิดเพศไป
ทำเหมือนได้เห็นธรรมปฏิสัมภิทา
ขณะครองกองกิเลสตัวเบ้อเร่อ
ยังเสร่อ ขึ้นธรรมาสน์เทศนา
อภิโถตาเถน เมาธรรมา
ควรจะลา จบเห่ ลงเอวัง
จากคุณ : cybrarian - [ 8 ส.ค. 49 02:07:28 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 48
07.24 น.
ฤๅ.......กวีมีจิตแค้น...............ข้องคับ
เห็น.....แต่ตามองจับ..............ภาพจ้อง
เพียง....ตำราเล่มหนา นับ......ว่ากระจ่าง ใจฤๅ
ภาพ.....พจน์ บทกวี คล้อง.......เกี่ยวไว้ให้คุณ
บาป.....เทพหนุน ให้เกิด........ในนรก โลกแล
บุญ......พระพุทธคุณ ปรก........กระหม่อมป้อง
คุณ......มีจิตเทพหก................ตกหล่น หายฤๅ
โทษ.....พระ โทษเจ้า จ้อง........จิกด้วยภาษาใจ
โปรด....ไปเข้าวัด สร้าง...........เครื่องวัด ใจเถอะ
สัตว์......นรก รู้บาปสัตว์...........นรกแผ้ว
ได้........ควันธูป นำลัด............ทางกลับ ใจแน
บาป......ชดใช้หมดแล้ว..........กลับขึ้นคืนสวรรค์
หยาบ....ละเอียดนั้นอยากรู้.....ดูกลอน
ช้า........ชั่ว แค่ "ต่อกร"..........กับข้าฯ
มา........วัดค่า ภาพหลอน........จิตเตลิด
ไข........บทกลอนครู บ้า..........ว่าล้วนเริงใจ
ด่า........ใจ -ได้จ้า...ดุจ............เทียนไข
ใคร.......จุดสว่างจ้า ใน...........จิตบ้าง
die........คำเทศคู่ไทย.............ตายแน่
ฆ่า........ค่า ข้าฯ ห่าล้าง............ด่าแล้วสบายหรือ
07.47 น.
.................................................................................
ยึดถือ ใจตน ไปวัดใจคนอื่น ... จนตาย ก็วัดใจใครไม่ได้
สะใจ ใคร ใสจ้ะ ... ไม่"สระใจ" ชอบไหม "สระผม"
"หวีเสนียด" ใช้หวีหัว เหาเหม็นนี่ ...สมัยนี้มีไหม ไปดม
"คุณรักผม" ... ด่าผมไหม ... ได้ผมหมา
.................................................................................
ฮา ห่า ห้า...โคลงกลอนข้าฯ น่าหนุกหนาน...สามานย์จริงจริง
07.57 น.
มาแก้ไข ใส่ลูกเล่น...ให้เห็นกลอนสนุก...มุขนกตลกร้าย
แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 08:15:11
แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 08:06:14
แก้ไขเมื่อ 08 ส.ค. 49 08:01:01
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 8 ส.ค. 49 07:58:50 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 49
เที่ยวเวียนวน บ่นบ้าเป็นหน้าหลัง
อยู่ๆตั้งตน เป็น"กวี"ศรีสยอง
เดี๋ยวจะมอบซีไรท์ให้ซีรอง
สมปองดังจิตอนิจจา
ไม่รู้เรื่องรู้ความตามขนบ
เหมือนกับกบใต้บัวมัวบ่นบ้า
ว่านี่แหละ ยอดกวี ทำหรี่ตา
อ้างธรรมะ คะขา เจริญพร
คนเป็นครูสอนคนให้พ้นทุกข์
อย่างน้อยได้พบสุขจึงสั่งสอน
อนาคาฯ อย่างต่ำ จำ สังวรณ์
โลกวิทู ได้ก่อนจึงสอนคน
มิใช่เป็น ตาเถน เย็นแล้วเป๊ก !
เปิบซกเล็ก ข้าวเย็น เป็นนิจผล
เที่ยวงึมงำ เทศน์แหล่ สัปดน
ริสอนคนให้เข้าวัด หัดดูใจ
ประทานโทษโปรดเถอะพระคุณเถน
รับประเคนไม้ขีดกับเทียนไข
เอาไว้จุด โมหะ ชำระใจ
เลิกข้าวเย็นได้เมื่อไรค่อยว่ากัน
จากคุณ : cybrarian - [ 8 ส.ค. 49 21:11:31 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 50
บาป.....เทพหนุน ให้เกิด......ในนรก โลกแล
บุญ......พระพุทธคุณ ปรก......กระหม่อมป้อง
คุณ......มีจิตเทพหก..............ตกหล่น หายฤๅ
โทษ.....พระ โทษเจ้า จ้อง......จิกด้วยภาษาใจ
........................................................
มีที่ไหน บาป--เทพหนุน บุญ--พระปรก [**ปรกปลุกเสก หรือนาคปรก จริงๆ ควรเป็นปกที่แปลว่าแผ่คุ้มจึงจะได้คำได้ความ** ]
ตัวอย่างยก ธรรมปลอม ขอมดงป่า
สัทธรรมปฏิรูป โฆษณา
วิกิจฉา ขาฉิ่ง ลิงทะโมน
ไม่รู้จริงแล้วมาอิงกำแพงวัด
ทำนองดัดจริตคิดผาดโผน
เป็นทางป่า รำไม่งามตามตะโพน
อยากเล่นโขน ทำได้แค่ละครลิง
.............................................
ฤๅ.......กวีมีจิตแค้น..............ข้องคับ
เห็น.....แต่ตามองจับ.............ภาพจ้อง
เพียง....ตำราเล่มหนา นับ......ว่ากระจ่าง ใจฤๅ
ภาพ.....พจน์ บทกวี คล้อง......เกี่ยวไว้ให้คุณ
......................................................
แล้วดูแคลนตำราครูว่าไว้
คิดว่าตนยิ่งใหญ่ผยองหยิ่ง
อวดว่าเป็น"กลอนครู" หรูจริงๆ
เป็นกวีน้ำขิงกับเต้าฮวย
ไม่รู้เรื่องแล้วยังแสร้งสำแดงโง่
เที่ยวอวดโอ้ โอษฐ์เอื้อนเหมือนโชว์ห่วย
ใครเล่าอยากต่อกลอน กระบักกระบวย
เหมือนเอากล้วยล่อลิงให้ยิงฟัน
ไม่รู้จักเสภาละครนอก
ปากก็บอกเป็นครูของเขานั่น
รู้จักแต่สรรพลี้หวน ชวนเสียวกัน
อัศจรรย์ ทำได้แต่ไม่ดี
ของเก่านั้นเขาไว้"อ่านตามบ้านร้าง
หนำหรือห้างทะเล" ประจำที่
มิได้แผ่บนเว็บไซต์ให้ อับ-ปรีช์
เหมือน กลบท ผู้นี้ บัดสีเอย
......................................
แก้ไขตัวสะกดการันตร์
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 00:26:51
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 00:23:38
จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 00:20:54 ]
........................................................................................
มีต่อที่ comments 2
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) 12 พฤศจิกายน 2549 10:26:05 น.
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 51
06.30 น.
มา...แก้ไขตัวสะกดการันตร์
ที่ลงทัณฑ์...ทัณฑมาต... ร. เรือข้าฯ
ครอบหัวโขน...ตะโกนเล่น...เช่นเคยมา
นอน...เต้นแร้ง เต้นกา...ตื่นมาดู ละครลิง
ฮา ห่า ห้า...ลามกสิ้นดี...สรรพลี้หวน
นกผีทวน - นกผวนที...สวนผีสิง
หวีเสนียด...หวีหาเหา..เศร้าจริงจริง
เหาเหม็นนี่...สุดแสนลามกยิ่ง...ตลกร้าย ใครผวนกัน
เหาเหม็นนี่ - เหามี เน้น...เป็นคนเมืองไม่มีดอก
คนบ้านนอก...ผมเผ้ารุงรัง...นั่งหวีหาเหานั่น
บี้เหาดู...รู้ว่า "เหม็นฮิ"...จิจ๊ะกัน
เสนียดใน...ใจตนนั้น...หมั่นนั่งสระใจ
สมัยนี้จมปลัก...ไม่รู้จัก...หวีเสนียด
มาทำเย้ย...หยามเหยียด...กันอยู่ได้
หากแน่จริง...ตั้ง "ปุจฉา" มา...จะ "วิสัชนา" ให้
หาก "cybrarian" วิสัชนา..."ปุจฉา" นี้ได้...นายแน่จริงนา
สังคมไทย...สมัยก่อน...พ่อสอนลูกชาย
ก่อนมีเมีย ให้...ไปบวชพระ...หนึ่งพรรษา
พระพุทธองค์...ทรงกำนด...บทบัญญัติมา
สามเณรบรรพชา...จะผนวชเป็นภิกษุ...ต้องอายุ 20 ปี
25 มีอาถรรพ์...บุรุษนั้น "มรณะ"...ก่อนจะครบ "เบญจเพศ"
พระพุทธองค์...ทรงสะกดเหตุ..."เพศภัย" นี้
ช่วงอายุ 25 ± 5 ปี...ที่มี error ± 5...อาถรรพ์มี
เกี่ยวข้องกับสตรี...มีนัยสำคัญ..."cybrarian" ท่านจะมีวิสัชนาใด
07.12 น.
............................................................................................
ขอน้อมเตือนท่านว่า...โปรดศึกษาให้ถ่องแท้...ก่อนจะแก้ "ปัญหาใจ"
ด้วยความปราถนาดี จาก...นกผี - หนีผก...กวีคำผวน
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:24:51
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:22:25
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:17:34
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 07:14:59
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 49 07:13:28 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 52
ฉันว่าแล้วว่าแค่นี้นกตีปีก
ผิดเขาเท่ากระผีก แล้วจับได้
เติมรอเรือ กับการันต์ มันลงไป
ล่อนิสัยจับผิด คิดเพียงนี้
ผิดของตนมองไม่เห็นเหมือนตัวเหา
มัวแต่เกา ไม่รู้เอามาสางหวี
เที่ยวเร่ขายหวีเสนียด ทั้งธานี
หัวตัวเองไม่ยอมหวี สังคะตัง
ปากก็บอกออกคำทำนองพระ
ตาเถนจ๊ะ เชิญเจ้าข้า--เป็นบ้าหลัง
ไม่อยากเทศน์สองธรรมมาสน์--อุบาทว์จัง
ทำเป็นตั้ง ปุจฉา เออบ้าบอ
เชิญตาเถนตกเย็นฉันมาม่า
วิสัชนา ตนท่าน นั่นเถิดหนอ
ฉันมิใช่ กวีผวนคำ กำมะลอ
มิใช่เถนชีกอ เที่ยวล่อชี
ยิ่ง อ่านกลอนยิ่งอึดอัดกับทางป่า
อยากเอาอย่างบูราณมามันบัดสี
ถึงทำได้แต่ก็ทำไม่ได้ดี
ตั้งตัวเป็นกวี อับ ปรีชา
จำพวกคนเห็นใครดีไม่ได้
มันร้อนอกร้อนใจ จะเป็นบ้า
เหมือนจิ๊กโก๋ ปลายแถวมาร้องท้า
ทำไม่ถึงยังจะมาเป็นกวี
ฉันไม่แน่ หรอกตาเถน เป็นผู้น้อย
เหมือนหิ่งห้อย วาบแสงแดงริบหรี่
ไม่กล้าอวด ตัวเป็นเช่นกวี
ด้วยรู้ดี อย่างเก่งนักเลงกลอน
เกิดเป็นอึ่ง โอ้อวด มันอุบาทว์
มิใช่ชาติ คชสาร มาสั่งสอน
ถึงพองตัว ก็ไม่เท่า อย่าเว้าวอน
กลับไปนอนในอ่างบัวเจียมตัวเทอญ
จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 11:11:43 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 53
20.06 น.
วัด....พลาด วาดพัด แล้ว....รำเพลิน
วา.....ศอก คืบคลานเดิน....แถกดิ้น
ว้า.....หลงตอบ เลยเยิน......ยับย่น
วุ่น....แต่เล่นพลิกลิ้น..........เล่นต้มแม่กิน ( มาม่า=แม่)
บาป...บิน เป็นหิ่งห้อย.........เห็นใจ
บุญ....ท่านแถกไถไป..........เปล่าปลี้
คุณ....วิสัชนาอะไร..............อึ่งอ่าง ช้างฤๅ
โทษ...ที่ ไม่รู้ ชี้...................มั่วแล้วแมวหมา
20.19 น.
..........................................................................
ทำเป็นตั้ง ปุจฉา เออบ้าบอ
ไม่รู้ก็ บอกมา อย่าบ้าบอ
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 49 20:30:40 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 54
21.19 น.
บาป....ที่ต่างตั้งแง่...................ตีความ
บุญ.....ที่บ่งบอกตาม................จิตนี้
คุณ.....พ่อเป่ากระหม่อมยาม...วัยกระเตาะ
โทษ...ที่ คิดผิด ชี้....................พลาดด้วยเฉียวฉุน
บาป....เทพหนุน ให้เกิด.........ในนรก โลกแล
บุญ.... พระพุทธคุณ ปรก.........กระหม่อมป้อง
คุณ.... มีจิตเทพหก.................ตกหล่น หายฤๅ
โทษ....พระ โทษเจ้า จ้อง.........จิกด้วยภาษาใจ
โปรด...ไปอ่าน เทพนี้.............ได้กราบ บุญแน
ถาม.....นิด เทพทำบาป...........พลาดได้
ผู้........เป็นเทพใหญ่ สาป.......มาเกิด โลกมนุษย์แน
รู้.........บาปเทพ หนุนให้........เกิดแห้วตกสวรรค์
พระ.....คุณนั้น ปรกเกล้า........ปรกกระ- หม่อมตู
ครู.......ปลุกเสกอักขระ............สะกดบ้า
ปก.......กับ ปรก เปิดพจน-......อนุกรมเถิด
ป้อง.....ปาก ขากถุย ช้า...........แต่ช้าน่าอาย
21.52 น.
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 21:58:29
แก้ไขเมื่อ 09 ส.ค. 49 21:55:30
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 9 ส.ค. 49 21:54:21 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 55
@นิมนต์รับข้าวเย็นตาเถนฉัน
มีข้าวมันไก่ ไข้หวัดนก
จักได้มีแรงแหล่ตลก
สกปรกบัดสี อับ ปรีชาฯฯ
[ปี่พาทย์ทำเพลงเข้าม่าน ]
จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 23:01:12 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 56
โปรด...ไปอ่าน เทพนี้..............ได้กราบ บุญแน
ถาม.....นิด เทพทำบาป.............พลาดได้
ผู้........เป็นเทพใหญ่ สาป.........มาเกิด โลกมนุษย์แน
รู้.........บาปเทพ หนุนให้..........เกิดแห้วตกสวรรค์
.................................................................
มีที่ไหนเทพใหญ่มาส่งสาป
เทพทำบาป อับ ปรีชญ์ มีที่ไหน
ที่มาเกิดเพราะบุญหมด รันทดใจ
มิใช่ไท้แถนส่ง หรือลงทัณฑ์
บังเกิดปัญจบุพนิมิต
หมดสิทธิ์จับจองครองสวรรค์
ล้วนเพราะกรรมแห่งตนแต่หนนั้น
หมดบุญพลันมาลงมาเกิด เตลิดไป
เที่ยวทู่ซี้ชี้ความตามมั่วๆ
รู้ไม่ชัวร์ โฉเก ทำเฉไฉ
รู้ไม่จริง อิงหลักกรู ก็ จนใจ
รู้อะไรไม่สู้รู้ให้จริง
ไปเปิดอ่านไตรภูมิองค์พระร่วง
จึงค่อยมาทักท้วงให้ยุ่งขิง
ใช่คิดเองเออเอง "เวง จริงจริง"
เหมือนกับลิงหลอกเจ้าคุณทำหมุนคอ
จำพวกเถน แก่วัดถนัดนัก
ไม่รู้จัก บาเรียน เขียน ก. ข.
ทำเป็นอวด สวดพร่ำ ในลำคอ
ให้เขายอ ว่ายอดพระอาจารย์
แต่คำปรก ยังดำน้ำไปขุ่นๆ
เหมือนพวกตัวตุ่น เที่ยวจุ้นจ้าน
ใช้คำผิด ประเภท เหตุอาการ
เชิญท่าน ทอดเนตร ทัศนา...........
" ปรก ซุ้มเล็กๆ ที่พระสงฆ์อาศัยในเวลาอยู่ปริวาส
ปรก ปก, ปิด, คลุม, เช่น พระนาคปรก ผมปรกหน้า
ปรก เรียกผู้นั่งภาวนาในพิธีปลุกเสก เช่นในพิธีพุทธาภิเษก ว่า คณะปรก
ปก แผ่ออกคลุมเบื้องบน เช่น ตะไคร้ใบปกดิน."
"บุญ......พระพุทธคุณ ปรก กระหม่อมป้อง"
ควรใช้คำว่า "ปกป้อง คุ้มครองป้องกัน."
....................................................
บอกแล้วไงว่า ไม่อยากมาวิสัชนา มิใช่ตาเถน ยายชี จะมาทู่ซี้เทศน์สองธรรมมาสน์ อวดฉลาดกว่าพระ อ่านกลอนมั่งนะ อย่าสำแดงโง่ บารนี
จากคุณ : cybrarian - [ 9 ส.ค. 49 23:57:04 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 57
06.13 น.
พรรษาหนึ่ง ซึ่งพุทธองค์ ทรงเสด็จถึงสวรรค์
ทำไมพระองค์นั้น ต้องไปเทศน์ โปรดเทพหนา
ทำไมต้องไป แสดงธรรม ให้พระมารดา
เทพมีดวงตา เห็นธรรม จิตสลายไปจุติที่ใดกัน
สรวงสวรรค์ มีกี่ชั้น ท่านตรองเถิด
จิตวิปริต คิดเตลิด ถึงไหนนั่น
ออกพรรษา มาร่วมตักบาตร เทโวกัน
เพราะพุทธองค์ท่าน เสด็จลงมาโปรดสัตว์นรก บนโลกมนุษย์
เส้นผมคลุมปรกศรีษะ...หรือจะเปรียบได้...ใบตะไคร้ปกดิน
ปกหนังสือขาดหวิ่น...ปกดินตะไคร้ใบหญ้า...ถ้า ถอด - ถอน ก็หลุด
ไม่เหมือนเส้นผม...ปรกศรีษะ...สตรีบุรุษ
"ขุนช้าง" บุญหนา...แต่ว่า "รากผมเน่ากุด"...ผมหลุดหัวล้านเลี่ยนเลย
จิตหลอนหลง...คงคิดแต่...เรื่อง "สกปรก"
คำผวนลามก...นกไม่ผวน...ล้วนใครมาเอ่ย
จิตคุณคิดผวน...นั่นล้วนจิตคุณ...หมุนคอใครเหวย
หมุน 180 องศาไปเลย...นั่นแหละเว้ย "จิตนก"...โลกนี้ผันผวน
06.42 น.
....................................................................................................
ต้องมาแก้ไขขยายความคำว่า...ตักบาตรเทโว
ทำไมต้อง...เทโว...คุยโวโอ้อวด...ท่านเตือนอะไร...ทำไมต้องคุยโว
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 18:04:23
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 06:56:19
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 10 ส.ค. 49 06:48:37 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 58
07.08 น.
บังเกิดปัญจบุพนิมิต
นั่นคือมีจิต...ติดอาถรรพ์ห้า...อาถรรพ์พระผี
อาถรรพ์มะ ...ฮา ห่า ห้า...เลข 5 อาถรรพ์มี
ลองไปอ่านดูซี...มันต้องมีแพะ...เซ่น อาถรรพ์มะ
07.17 น.
................................................................................................................
//www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P4351916/P4351916.html
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 10 ส.ค. 49 07:20:56 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 59
เอาอีกแล้ว ไม่รู้จริงไปอิงวัด
เจนจัดเจ้าตำราจะหาไหน
เที่ยวอ้างอิงลิงกัง แหม จันทร์ ไร
แถไปได้น้ำขุ่นๆ นะคุณตา
ประเด็นอยู่ที่เทพใหญ่ไหนสาปส่ง
ให้เทพน้อยลงมาเกิดเป็นหมูหมา
ดันไปลากเอาพุทธมารดา
มาโบ๊เบ๊ ซี๊ซั๊วต่า บ้าหนอคน
เออมานี่ดีฉันจะตอบให้
ว่าทรงได้โสดาปัตติผล
ล้วนเป็นบุพกรรมมานำดล
เสวยผลพบสุขสนุกสบาย
แต่ยังคงอยู่ในชลกระแส
มีบังเกิดจุติแท้เป็นที่หมาย
จนกว่าได้อรหันตผลพ้นอบาย
จึงดับว่ายเวียนจบพบนิพพาน
มิได้มีตรงไหนที่กล่าวว่า
เทพชั้นฟ้าสั่งมาเกิดก่อสังขาร
ล้วนเป็นกรรมของตนทุกประการ
หมดบุญบานก็มาเกิดตามเพรงกรรม
นี่แหละหนาตาเถน เย็นฉันโจ๊ก
เที่ยวต่อนกโป๊กฮุกกรู อยู่เช้าค่ำ
ถนัดแปลงธรรมปลอม มาอ่อมยำ
พอได้อำเขาเล่น ตาเถนท้วย
อยากเป็นเซ็น เป็นได้ แค่เซ็นเหล้า
เที่ยวธรรมเมา ธรรมโม ตามโชว์ห่วย
แสร้งมีปริศนาธรรม ตำตะบวย
พอได้กุ้งแชบ้วยมาฉันเย็น
อนิจจาเป็นพระปาราชิก
ปลัดขิก อีเป๋อ กะเหล็นเป๋น
เชิญไปเทศน์ตอนสายบ่ายเย็นๆ
ด้วยว่าเหม็นขี้ปากอยากอาเจียน
..................................................
ไปศึกษาหนังสือพุทธประวัติจากพระโอษฐ์ ของท่านพุทธทาสก่อนจะมาโม้เถิด
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 20:59:14
แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 49 20:57:59
จากคุณ : cybrarian - [ 10 ส.ค. 49 20:56:35 ]
........................................................................................
มีต่อที่ comments 3
โดย: นกโก๊ก 12 พฤศจิกายน 2549 10:29:24 น.
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 60
07.10 น.
ประเด็นอยู่ที่เทพใหญ่ไหนสาปส่ง
ให้เทพน้อยลงมาเกิดเป็นหมูหมา
ดันไปลากเอาพุทธมารดา
มาโบ๊เบ๊ ซี๊ซั๊วต่า บ้าหนอคน
..........................................................................
๐ ทุกองค์กร มีเจ้าหนึ่ง............ปกครอง
ไม่เชื่อ ก็ไปลอง.......................ด่าเจ้า
สวรรค์นรก เปรียบเช่นของ.....คิดเล่น แน่ฤๅ
แค่คิดค้าน "ศาล" เศร้า...........สั่งเข้าคุกฮา
๐ หนักหนา สาหัสแล้ว..............จันทร์ ไร
มันเหยียบย่ำ น้ำใจ..................หนักแล้ว
เชี่ยวชาญอักษร ไฉน...............หน้ามืด
ด่านก ด่าเถิด แก้ว...................อย่าได้หยามจันทร์
๐ ท่านคนไทย ไหว้พระ............เจ้าไหม
คำสั่งเจ้านาย ใจ......................หวั่นว้า
ไม่เชื่อ ไม่ฟัง ใคร....................ถูกอัป- เปหิแล
"เจ้าหมดคุณธรรม" บ้า.............บอร์ดต้อง "อัปเปหิ" ไป
๐ ไยเล่นลิ้น สิ้นท่า...................ด่า "เถน"
ด่านก นกใช่เณร.....................พระนี้
ทำสวนอยู่ "จันทร์" เวร............สัตว์นรก
ด้วยว่าเหม็น "ปากขี้"...............อยากอ้วกอาเจียน
07.45 น.
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 07:50:04 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 61
อย่าหาว่าสอดเสียบเหยียบเงาท่าน
ทั้งสองราว่ากันมานานเนิ่น
ดิฉันอ่านตามไปให้เพลิดเพลิน
แต่เหมือนเทินหินผาไว้บ่าตน
เปรียบดังคราวพาลีตีกาสร
เข้าต่อกรทรพีลั่นไพรสณฑ์
ข้าสุครีพลิงน้อยต้องอดทน
กลัวเลือดข้นกระเด็นใส่ใจไม่ดี
จึงตั้งใจหมายปิดถ้ำใช้ต่อสู้
ก็คิดอยู่อาจซวยซ้ำหมดสิ้นศรี
พิษแห่งการประลองยุทธโยธี
อาจทำให้สิ้นชีวีลงกลางดิน
จึงโดดหลบกบดานนานอีกหน่อย
แต่ก็คอยแอบมองช่องโขดหิน
คอยดูเลือดของใครจะไหลริน
แล้วจะได้เอาหินปิดประตู
จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ 11 ส.ค. 49 09:06:41 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 62
ไปอ่าน โลกทีนี ของเจ้าคุณพระพรหมโมลี วัดดอนยานนาวา มาให้แตกฉานก่อนจะมีคุยเรื่อง นรกสวรรค์เถิด เอวัง
..........................................
@บัดนั้น
พาลีผู้ใจหาญ
หักคอทรพีกระบือบาล
เลือดฉานออกนองเนือง
จึงร้องเรียกสุครีพผู้เป็นน้อง
มัวจดจ้องมองอยู่ตลอดเรื่อง
แสนเสียดายควายป่ามาตายเปลือง
อยู่ในเหมืองเถื่อนถ้ำลำเนาไพร
เป็นควายถึก คึกโครม กำลังแล่น
มาวิ่งแจ้น เขาเขียว เที่ยวขวิดไล่
ก่อแต่ ความอำ รำคาญใจ
สมควรน้องนำไปลาบสู่กิน ฯฯ
--ปี่พาทย์ทำเพลงกราวนอก --
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 11:05:20
จากคุณ : cybrarian - [ 11 ส.ค. 49 10:56:14 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 63
12.16 น.
ไร้.......รูป ไร้ลักษณ์ ล้วน........ไร้แวว
บาป.....สาปส่ง หลงแนว...........นอกนั้น
ลาบ.....เลือด เชือด หมาแมว....โคกระ- บือใด
ใบ้.......บอด ฉอดชี้ ชั้น............เชือดด้วยภาษาใจ
ไร้........รักษ์ ไร้หลัก ล้ม...........ตาม "กัน"
บุญ......บาป ทราบอาถรรพ์.......ท่านแล้ว
ลุ้น.......ต่อ - ล่อตุ่น มัน.............ชักเมื่อย ตุ้มแน
ใบ้.......บอก หลอกเล่น แห้ว.....เบื่อแล้วหัวหมุน
ไร้.......บุญ บาป คราบคลุ้ง........เหงื่อไคล
คุณ......รักรูปลักษณ์ ใด...........อ่านได้
ลุ้น.......สวรรค์นรก ตกใจ........ไม่ตื่น แลฤๅ
ใคร......เล่น - เข่นไล่ ไห้..........ห่อนรู้หลงหาย
ไร้........ศัตรู ไร้มิตร สิ้น...........ศึกสงบ
โทษ.....ที่คิดไม่ครบ..................กระบวนด้าน
โรจน์.....รุ่ง ใช่ พิโรธ พบ..........กระบวนพลิก แพลงเอย
ไทย.....ใช่เทศ เหตุค้าน...........ต่างด้านถือดี
12.42 น.
..........................................................................
ฉันเพลเสร็จสวัสดี...มีท่าน ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) มาเยี่ยม
หินที่เตรียมเอาไว้ปิดถ้ำ....นำเอาออกมาใช้ได้แล้วครับ
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 12:46:32 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 64
อุ้ย! ฉันเพลเป็นด้วยหรือเจ้าคะ
นึกว่าจะรอฉันเย็น ควบเพลเช้า
เปรตปลาไหล สุรากลั่น มาบรรเทา
มะขามเปรี้ยว กระปรี้ กระเปร่า --เมาธรรมมา
เดี๋ยวไม่มีแรงพาทัวร์เที่ยวสวรรค์
ชมชั้น จาตุม ปรนิม กิมเกี๊ยมฉ่า
ทั้งดุสิต ดาวดึงส์ ยามา
เลยไปหานิมมานรดี
ฉันแต่งกลอนนิทาน เรื่องตาเถน
ใครไม่เป็นอย่ามาร้อน นอนโลงผี
ที่หัวหงอก หงอกไปกะไรดี
อย่าอับ-ปรีช์ ถอนหงอกออกมาดม
นิทานเรื่องเถน ชี มีมาเก่า
เป็นเรื่องเล่า ติดตลก อกฉาวฉม
ไว้สอนพระ ให้เป็นพระ ละอาจม
จัดระเบียบสังคมให้สมดุล
....................
อย่าลืมอ่าน โลกทีปนี มุนีนาถทีปนี วิปัสสนาทีปนี โลกนาถทีปนี ภาวนาทีปนี โพธิธรรมทีปนี ภูมิวิลาสินี วิมุตติรัตนมาลี ของเจ้าคุณพรหมฯ วัดดอนด้วย
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 14:15:19
จากคุณ : cybrarian - [ 11 ส.ค. 49 14:06:28 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 65
16.37 น.
ไร้......คุณธรรม ค้ำโลก...........ล้มเหลว
บาป....หล่มลึก ปลักเหว...........ลึกล้ำ
หราบ...จำ ย่ำในเปลว.............ปลักอะ- ไรฤๅ
ใบ้......นั่น "อเวไนย" ย้ำ........อย่าได้ใส่ใจ
ไร้......สติ ริเล่นล้วน................เหลวไหล
บุญ.....ชาติหนึ่ง เวไนย............สัตว์นี้
รุน......ผลักพลิกผันใจ.............ได้กลับ มาแน
ใบ้......บอก กลอกตาชี้..............มิกล้ากลัวใจ
ไร้......ไฟรุน บ่รู้......................ร้อนหนาว
คุณ.....ค่า ราคีคาว....................คละคลุ้ง
รุน......แต่เรื่อง โฉ่ฉาว............ราวท่อง จำนา
ไค้......แคะ แหวะผักบุ้ง...........พุ่งให้ใครหรือ
ไร้......คือ ไร้จิต รู้....................ทางธรรม
โทษ...ท่านหลงทาง นำ..............หกแห้ว
road...ทางท่อง ไทยจำ..............มรรคแปด
ไท้......เทพ เสพธรรมแล้ว.......ระลึกรู้ใจตน
17.10 น.
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 17:08:40 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 66
อุ้ยต้าย ตาย ตาเถน เย็นตาฉ่ำ
เหมือนดื่มด่ำ กัญชา จนหน้าผี
เริ่มบ่นบ้า ธรรมเมา เอาละซี
แล้วกัณฑ์นี้ใครจะติดละหลวงตา
ทำนองออกบอกความตามเขาแหล่
เหมือนลิงแก่สัปหงก นกเจ้าขา
มาสอนคนทำสติ อาณาปาน์
เดี๋ยวก็พาไปสวรรค์ ชั้นจาตุมฯ
ทำหน้างอเป็นจวัก เทศน์มรรคแปด
ได้แต่ทางช้างแรด นรกขุม
เป็นทำนองกาฝากต้นมะรุม
เกาะกุม เป็นเสนียด เบียดอินทรีย์
ดูคล้ายๆเหมือนเรื่องตาเถนขวาด
แสนประหลาด ปลุกเสกน้ำมันผี
"ครั้นสำเร็จเสร็จแสร้งแปลงอินทรีย์
รูปตาชีก็หายกลายเป็นแร้ง
สองเท้า ถีบดิน บินกระโชก
หางโบก หัวเกลี้ยง เหนี่ยงแกว่ง
ปากมุ้ม มู่ทู่ สองหูแดง
ลมแรง ร่อนมุ่ง กรุงอยุธยาฯ"*
*ของเก่า เสภาขุนช้าง ขุนแผน ตอนจรเข้เถนขวาด
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 17:52:55
จากคุณ : cybrarian - [ 11 ส.ค. 49 17:52:24 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 67
คุณนกโก๊กเกือบจะเป็นพหูสูตแล้ว... แต่คงไม่ค่อยมีเวลา.. จึงอ่านมานิด ๆ หน่อย ๆ แตะ ๆ คลำ ๆ รู้มาพอเหมือนตาบอดคลำช้าง แล้วก็สถาปนาตัวเองซะยิ่งใหญ่ บอกว่าเป็นครูอย่างโน๊น อย่างนี้ แล้วก็ลากเอาพุทธศาสนาเข้ามาในกลอน.. คนสติดี ๆ เค้าไม่น่าจะทำกัน เถียงกันเรื่องพุทธศาสนาเนี่ย เพราะถึงแม้จะบอกว่า ตัวเองรู้เยอะเกี่ยวกับพุทธศาสนาขนาดไหน ที่แท้มันก็เป็นเพียงความรู้ที่เรารู้ และถ่ายทอดออกมาได้...มันก็แค่ธุลี เท่านั้น...
จึงอย่าได้นำเรื่องพุทธศาสนา อันเป็นสัจธรรมที่ยิ่งใหญ่ มาเกี่ยวข้องกับเรื่องสมมติเล็ก ๆ เหล่านี้เลย...
คุณนกโก๊กเป็นคนตะแบง ดื้อรั้น เคยเห็นที่เค้าเขียนร้อยกรองขำ ขำ เกี่ยวกับเรื่องไข้หวัดนกแบบคนไม่รู้เรื่อง ไม่มีข้อมูล เข้าใจผิดพลาด...พอมีสัตวแพทย์เข้ามาตอบ คุณนกโก๊ก ก็กลับไปด่าเค้ากลับ ยกทฤษฎีระดับทั่วไป (General Theory)...บอกว่าแท้จริงแล้วมนุษย์เป็นผู้ทำให้เกิดโรคร้ายทั้งมวล ไม่ควรฆ่าเป็ดโทษไก่ ฯลฯ
อ่านแล้วน่าสมเพช... คือทฤษฎีทั่วไปมันไม่ผิด.. แต่ไม่ใช่จะนำมาพูดกันในเวลานี้ หมอเค้ากำลังพูดถึงการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนกซึ่งเป็นปัญหาระดับ Micro ซึ่งเป็นปัญหาเฉพาะหน้า แต่คุณนกโก๊ก กลับเอาทฤษฎีการพัฒนาระดับ Macro เข้ามาตอบ.. กลายเป็นการแสดงภูมิหลุด ๆ ไม่ต่อเนื่อง ไม่เต็มบาท..มันไม่ผิดก็จริง... แต่เค้าใช้ไม่เป็น...ไม่รู้จักกาละเทศะ
สรุปได้ว่า....เวลาคุณนกโก๊ก ตอบไม่ได้ ไม่เข้าใจ...คุณนกโก๊กไม่คิดจะยอมรับ... แต่จะไปร่ายยาว หาทฤษฎี macro มาตะแบงให้กับปัญหา micro ของตัวเอง และใช้ลีลาการเขียนกลอนแบบวนไปวนมา ประเภท โคลงสี่ หรือ กลบท เป็นการสร้างความลึกลับฉลาดเฉลียว เข้าทำนอง ลีลาเด่น วาทศิลป์เป็นเลิศ
อ่านกระทู้นี้มานานแล้ว ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว... แต่แต่งกลอนไม่เป็น.. มือไม่ถึง.. ไม่กล้าเอาของสูงมาใช้อวดอ้างสรรพคุณ จึงขอตอบด้วยร้อยแก้วพื้น ๆ ตามประสาคนแวะผ่านมาละกัน
จากคุณ : ผีกองกอย - [ 11 ส.ค. 49 18:16:41 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 68
20.27 น.
๐ ฮา ห่า ห้า น่าลุ้น.............รอผล
เซพกระทู้ไว้ทุกคน............เถิดเจ้า
มีแรง แข่งขัน จน..............อยู่รอด แล้วฤๅ
แก่เฒ่าจะนั่งเศร้า.............เหี่ยวแห้งหัวโต
๐ ทฤษฎี โค ต่างค้น..........คว้ากัน
ทฤษฎี ร้อยพัน..................เปลี่ยนได้
ข้อมูลใหม่ เปลี่ยนมัน.........ทุกเมื่อ
แต่กฎ ธรรมชาติ ไซร้........เปลี่ยนได้ด้วยหรือ
๐ นกเชื่อถือ ด้วยกฎ..........แห่งธรรม- ชาตินา
กริยาเกิดปฏิกริยา กรรม....เกิดต้าน
ยิ่งตี ยิ่งดัง ทำ.....................เป็นไม่ สนฤๅ
หยุดโรค ต้องหยุดด้าน........ปราบให้หายสูญ
๐ ลงทุนค้นคว้า ฆ่า.............กันไย
ฝ่ายถูกฆ่าพัฒนาไป...........อีกขั้น
ฝ่ายฆ่ายิ่งวิจัย....................ทุนยิ่ง หนักแล
สุดแห่งที่สุดนั้น..................พ่ายแพ้ทุกคน
๐ สนแต่ตัวอยู่ยั้ง................ยืนยง
หวัดนก พาหะคง................ฆ่าสิ้น
กินได้รึ ไก่หลง...................ไล่จับ อะไรแล
ธรรมชาติวิปริต ดิ้น.............อยู่ได้สบายหรือ
๐ ฮือฮา ว่าโลกร้อน.............ตายโหง
ห่วงโซ่อาหาร โครง..............ขาดแล้ว
นาโนเทคโนฯ โลง...............ศพรุ่ง
ฮา ห่า ห้า ไม่แคล้ว..............อยู่ถ้ำมนุษย์หิน
21.24 น.
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 21:33:58 ]
........................................................................................
มีต่อที่ comments 4
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) 12 พฤศจิกายน 2549 10:35:14 น.
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 69
เมื่อท่านมากล่าวท้าวความย้ำ
เพื่อความเชื่อมั่นใน "กฎแห่งการอยู่รอด"
ขอคัดลอกกลอนชุดนั้นมาให้เก็บตรวจผลสรุปกัน
...........................................................................
กลอนชุดนี้มีอาถรรพ์...พันทิบท่านห้ามโพสต์คร้าบบ
...........................................................................
วังเวงสวัสดิ์ทุกท่าน บ๊ายยย...
แก้ไขเมื่อ 11 ส.ค. 49 22:26:18
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 11 ส.ค. 49 22:07:19 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 70
อัญเชิญนกขึ้นสู่.................พระเมรุทอง
เผานกมานั่งมอง................นกปิ้ง
นกตายเพราะไข้ครอง.........จับจิต
ขำนกตกเกลือกกลิ้ง............พลาดแล้ว ไวรัส
อันธรรมละเอียดแท้.............วิตถาร
แปลงออกเป็นพิสดาร...........หนึ่งแท้
สองคือหนึ่งหรือวาน.............ช่วยบอก
สองหนึ่งบาลีแก้..................ออกแจ้ง สันสกฤต
นกน้อยมาอวดรู้..................ธรรมวิเศษ
แท้ติดอุปกิเลส...................เศร้าหมอง
อ้างคำรสธรรมเทศน์............มากล่าว สอนนา
ตรองตรึกนึกเถิดน้อง...........กลับย้อน มองตน
แผลงกวนผวนแกล้งกล่าว......คำโคลง
เอกโทโอ้ทุเรศโยง...............ยักย้าย
แมวตดนุ่งห่มโจง.................แกล้งแต่ง
กฎระคนกลบทคล้าย............ตดแม้ว นกยา
ปล. ไม่เคยทำฉบับแก้ไข แก้แล้วแก้อีก...
อิอิอิ
จากคุณ : buaravong - [ วันแม่แห่งชาติ 00:58:35 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 71
ได้เวลาฉันเย็นหรือเจ้าคะ
ถึงได้มาตะแบง ตะบันบี้
คืนร่างแปลง แร้งทึ้ง ถึงธานี
กลายเป็นเถน สมี เกี้ยวสีกา
หวายๆเชื่อกฎธรรมชาติ
ประหลาดพอเป็นไข้ไม่รักษา
เมื่อวานเห็นไปสุขศาลา
เจียดยาเจ้ากรมเป๋อ มาต้มกิน
เป็นโรคเวรโรคกรรมอัมพฤกษ์
เพราะสมีไม่ยอมสึก รักษาศีล
มัวแต่แปลงเป็นแร้ง กระพือบิน
เขารู้สิ้น รู้ไส้ ไปทั้งบาง
คนเขารู้มาเตือนก็ด่าเขา
อ้างธรรมเมา โม้มั่ว ขึ้นมาอ้าง
ยอดตะแบง แถไปได้ทุกทาง
เอาสีข้างเข้าถูหรูอลังฯ
ยังอุตสาห์ขุดของเก่ากลิ่นเน่าฉม
ออกมาดม อวดอ้างอย่างของขลัง
ปลัดขิก สีผึ้ง นะตึงตัง
คร้านจะฟังแหล่ตลก หวัดนกเอย
จากคุณ : cybrarian - [ วันแม่แห่งชาติ 01:00:40 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 72
กลับเข้ามาอ่านอีกรอบ.. ทั้ง ๆ ที่ไม่มีอะไรจะเขียนแล้ว... แต่อยากมาเตือนน้อง ๆ และพี่ๆ ว่า ได้โปรดอย่ามารุมกินโต๊ะคุณนกโก๊กกันเลย.. เท่าที่อ่านที่แกเขียนตลอดมา.. แกไม่ใช่คนเลวร้าย หรือเห็นแก่ตัวอะไร.. แกแค่เป็นคนตะแบง ทิฐิสูง ดื้อรั้น เท่านั้นเอง ไม่ผิดหรอก.. อัจฉริยะส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้ ไม่งั้นเอดิสัน คงผลิตคิดหลอดไฟไม่ได้หรอก
ยิ่งไปดูกลอนเก่า ๆ ที่คุณนกโก๊กเอาขึ้นมาให้ดู ยิ่งชัดเจนว่า แกไม่ใช่คนไม่ดี.. ตรงกันข้าม...เป็นคนมีอุดมการณ์ชัดเจน แกมองการแก้ไขปัญหาแบบเป็นองค์รวม.. ไม่ใช่การแก้ไขแบบเฉพาะหน้าของวิธีการทางวิทยาศาสตร์เข้ามาแก้ไขปัญหา.. แกเป็นคนพยายามจะมองอะไรเป็นองค์รวม.. บูรณาการ.. เต๋าอิซึ่ม เซ็น อะไรทำนองนั้น
แกใช้ได้เลยนะ... พูดรวม ๆ แล้วถูกต้องทั้งหมดแหล่ะ วิถีการพัฒนาของเราที่เริ่มมาตั้งแต่ยุคภูมิธรรมในศตวรรษที่ 18 จะพาเราไปสู่หายนะอย่างแน่นอน... เนื่องจากเราฝ่าฝืนกฎธรรมชาติ กีอายน่า... ระบบชีวะของโลก.....เข้าทำนองเด็ดปีกผีเสื้อสะเทือนถึงดวงดาวอันลือลั่น... อันเป็นทฤษฎีที่อธิบายได้แต่ปัญหา เสียแค่ที่ว่า...มันไม่ได้เป็นทฤษฎีที่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาใด ๆ เลย
ก็ขอยืนยันว่า แกรู้เยอะ.. เยอะจนอาจจะเลอะ และน่ารำคาญ โดยเฉพาะกับประเด็นที่ไม่ได้ให้คำตอบกับปัญหาเฉพาะหน้า.. แกเลยดูเหมือนเป็นคนไม่แยแส...เอาแต่เห็นแต่ความผิดคนอื่น .. เหมือนคนอยู่ในเรือที่กำลังล่ม มือไม่พาย มือไม่วักน้ำออก.. ดีที่แกยังไม่เอาเท้าราน้ำ.. เพียงแค่ร้องตะโกนว่า แกต้องตายกันหมดเรือ เพราะพวกแกดันนั่งเรือนั่นออกมา
เก็บแกไว้ให้เป็นคนสอนใจ เตือนสติคอยฉุดรั้งพวกเราที่วิ่งตามกระแสพัฒนาอย่างเป็นบ้าเป็นหลังเถิด.. อย่างน้อยจะได้ทราบว่า การขาดสติไม่ใช่เรื่องดีเลย
จากคุณ : ผีกองกอย - [ วันแม่แห่งชาติ 01:28:39 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 73
บัดนั้น
เตาฟืนผู้เมาอัชฌาสัย
ได้ยลยินระบิลความตามนัย
ยกมือป้ายน้ำตาอุราราน
แสนสงสารวิหคเจ้านกผี
ลำบากแล้วครานี้ละออท่าน
พายุใหญ่ไล่พัดซัดเรือนชาน
จนกระไดเรือนสั่นเจียนจะพัง
เห็นแววตาฉายแล้วเป็นแววจิต
ฉายความคิดตรงเด่ไม่เลหลัง
ปากว่าไปใจอย่างนั้นดันทุรัง
เป็นที่ตั้งแห่งกวีมีมากมาย
ไม่ซ่อนเร้นปากหวานทะนานหนึ่ง
แต่ใจนั้นเคียดขึ้งตำลึงได้
แกว่ามาตัวข้าก็ว่าไป
เราต่างเป็นสหายใช่ริปู
เล่นกันแบบหนุกหนุกรับมุกหน่อย
จะไม่หงอยแก่หงำทำหน้ายู่
แลกกันคนละหมัดวัดความรู้
คนอื่นเขาดูอยู่ก็ขื่นชม
ไม่เถียงกันไม่ถกกันมันน่าเบื่อ
จะเข้าเนื้อไปบ้างอย่างยาขม
ก็เป็นยารักษาไข้ใจอย่าตรม
เราไม่ข้ามไม้ล้มเราเจริญ
หลังพายุดินก็เลี่ยนดูเตียนโล่ง
น่าจะได้ลาโรงด้วยนานเนิ่น
ขอกราบลาท่านผู้ชมที่เพลิดเพลิน
เหล่ากวีต่างก็เดินเข้าโรงไป
เสมอ-เชิด-ลา-สรรเสริญพระบารมี
จากคุณ : ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน) - [ วันแม่แห่งชาติ 08:47:20 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 74
**ความคิดเห็นที่ 73 คุณ ไม่เอาถ่าน (เตาฟืน)
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 49 13:05:49
แก้ไขเมื่อ 12 ส.ค. 49 13:04:42
จากคุณ : สิคีรียา - [ วันแม่แห่งชาติ 13:02:29 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 75
15.48 น.
เพียงรู้ "คิด" ... พิจารณา ... ธรรมชาติ
เพียงรู้ "คำ" ... เฉลียวฉลาด ... ที่ปราชญ์สอน
เพียงรู้ "ภาพ"...ดาบสองคม ... ที่ซับซ้อน
เพียงรู้ "เห็น" ...ภัยแฝงซ่อน ...ศรเสียบหลัง
ไม่รู้ "กัน" ... รู้แต่ "แก้" ... แพ้หมดรูป
ไม่รู้ "สูบ" ... รู้แต่ "ฉีด" ... เลือดไหลหลั่ง
ไม่รู้ "จบ" ... รู้แต่ "สิ้น" ... กินเพิ่มพลัง
ไม่รู้ "หลัง" ... รู้แต่ "หน้า" ... ล้วนบ้าบอ
จงหัด "คิด" ... อย่าหัด "ฝัน" ... มันเพ้อเจ้อ
จงร่วม "เธอ"...อย่าร่วม "ฉัน"... กันนะพ่อ
จงฝึก "ทำ" ... อย่าฝึก "พูด" ... แค่นี้พอ
จงเริ่ม "ให้" ... อย่าเริ่ม "ขอ" ...ให้ "พอ" ดี
16.10 น.
......................................................................
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมจนอวสาน
ขอความสุขสวัสดี จงมีแด่พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 13 ส.ค. 49 16:17:50 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 76
*ก่อนอวสานมีกลอนกานท์อันวิจิตร
ผู้ลิขิต คือจอมปราชญ์แห่งศาสนา
นำมาฝาก... ผู้น้องชาย...คลายอุรา
ยกจิตมา อย่าเต้นตามความของใคร
*อันคนรักสำหรับเราเท่าผืนหนัง
คนชั่วชังเท่าผืนเสื่อ...เบื่อไฉน
อันคนเราถ้ามีจิต มิตรน้ำใจ
สัมผัสได้..ฉะนั้นหนาอย่าปรารมย์
*อันคารม คมคนปะปนอยู่
มีขัดหู รื่นหู ดูผสม
คำว่าเพื่อน ย่อมเข้าใจในคารม
ไม่ใช่เพื่อน แม้เราชม..ยังขัดใจ
*ใครมาดี มาร้าย ให้ใจรู้
แล้วอำลาสุดกู่ อยู่ไฉน
เพื่อน คือ เพื่อน ผิดหูบ้างยังอภัย
เพราะว่าใจบริสุทธิ์..พูดสิ่งดี
*ขอยอกรอัญชลี..ท่านพุทธทาส
ก่อนน้อมนำ คำปราชญ์อักษรศรี
มามอบให้ นกโก๊ก ....ด้วยไมตรี
เพราะหวังดี จาก พี่สาว..ที่เข้าใจ..
***********************
*เป็นมนุษย์หรือเป็นคน?
*เป็นมนุษย์ เป็นได้ เพราะใจสูง
เหมือนหนึ่งยูง มีดี ที่แววขน
ถ้าใจต่ำ เป็นได้ แต่เพียงคน
ย่อมเสียที ที่ตน ได้เกิดมา
*ใจสะอาด ใจสว่าง ใจสงบ
ถ้ามีครบ ควรเรียก มนุสสา
เพราะทำถูก พูดถูก ทุกเวลา
เปรมปรีดา คืนวัน สุขสันต์จริง
*ใจสกปรก มืดมัว และร้อนเร่า
ใครมีเข้า ควรเรียก ว่าผีสิง
เพราะพูดผิด ทำผิด จิตประวิง
แต่ในสิ่ง นำตัว กลั้วอบาย
*คิดดูเถิด ถ้าใคร ไม่อยากตก
จงรีบยก ใจตน รีบขวนขวาย
ให้ใจสูง เสียได้ ก่อนตัวตาย
ก็สมหมาย ที่เกิดมา อย่าเชือนเอยฯ
(โดยพุทธทาสภิกขุ)
แก้ไขเมื่อ 14 ส.ค. 49 01:58:42
จากคุณ : สิคีรียา - [ 14 ส.ค. 49 01:58:04 ]
........................................................................................
ความคิดเห็นที่ 77
10.34 น.
๐ ยามว่าง นั่งอ่านทู้..............บาปบุญฯ
"ช่างโง่เง่าเต่าตุ่น" คุณ........ว่ามั้ย
ทุกสิ่งที่ นำหนุน...................คุณโทษ ใครแน
"คนที่ผ่านมาเจอ" ให้...........อ่านด้วยจิตตน
๐ เป็นคน ควรรู้เหตุ.............เพศภัย
คุณโทษคนอื่น ไย.................ยึดย้ำ
คุณต้องเหตุ เป็นไป...............ต้องโทษ คุณนา
รักลูกเสือ (อยากได้) เข้าถ้ำ....ถูกขย้ำ "ร้องเสียงหลง"
๐ จงฟังเสียงเพื่อนบ้าง...........นะคุณ
เพื่อนห่วงเพื่อน ห่วงบุญ.........บาปห้าม
เพื่อนโกรธเพื่อน เฉียวฉุน....บุญแบ่ง ไหมฮา
ถูกจับ แบ่งบาป ซ้ำ.................โทษชี้เพื่อนทำ
๐ ยามโกรธ โทษชี้มั่ว............."ทำมัน" มันทำนะ
โทษนรก โทษสวรรค์.............ว่าเจ้า
ทุกอย่าง ต่างโทษกัน...............ไม่โทษ คุณนา
ต้องโทษ ที่มั่วเม้า....................ไม่เข้าใจเลย
11.00 น.
.............................................................................
คงจะมีอริยะสงฆ์เท่านั้นที่ท่านเข้าใจ...บาป บุญ คุณ โทษ
นกถามด้วยใจจริง...ทุกสิ่งที่ปรากฎ...สิคีรียา โทษใครครับ
แก้ไขเมื่อ 16 ส.ค. 49 11:15:29
จากคุณ : นกโก๊ก - [ 16 ส.ค. 49 11:05:07 ]
--------------------------------------------------------------------------------
โดย: นกโก๊ก (นกโก๊ก ) 12 พฤศจิกายน 2549 10:46:31 น.
โดย: amulet108 14 พฤษภาคม 2555 18:14:57 น.