ศาลอุทธรณ์ กลับคำสั่งศาลชั้นต้น สั่งจำคุก 5 ปี "ชูวิทย์" กับพวก ไม่รอลงอาญา รื้อบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิท ปี 2546

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ศาลอาญากรุงเทพใต้ อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีรื้อบาร์เบียร์ สุขุมวิท 10 ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย พ.ท.หิมาลัย ผิวพรรณ นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุด พ.ต.ธัญเทพ ธรรมธร กับพวกรวม 131 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืนและกักขังหน่วงเหนี่ยวข่มขืนใจให้บุคคลอื่นปราศจากเสรีภาพ

จากกรณีเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 26 ม.ค. ปี 2546 จำเลยได้สั่งกลุ่มชายฉกรรจ์ไปรื้อบาร์เบียร์ 60 ร้าน ในซอยสุขุมวิท 10 จนได้รับความเสียหาย ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก 8 เดือน นายชาญเวทย์ มาลัยบูชา จำเลยที่ 49 ซึ่งเป็นทนายความที่นำเอกสารสิทธิ์การครอบครองที่ดินไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี ให้ลงบันทึกประจำวันให้คนอื่นเข้าใจว่าการรื้อถอนของกลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง ในชั้นศาลอุทธรณ์ได้พิพากษากลับว่า นายชูวิทย์ กับพวกอีก 2 คน ที่เป็นนายทหาร มีความผิดจริงสั่งจำคุกคนละ 5 ปี โดยไม่รอลงอาญา ซึ่งต่อมานายทหารทั้ง 2 ได้ยื่นเงิน 5 แสนบาทบาท เพื่อประกันตัว ส่วนด้านนายชูวิทย์ ได้ปล่อยตัวเพราะมีเอกสิทธิ์ ส.ส.คุ้มครอง

"ชูวิทย์" โพสต์เฟซบุ๊กแสดงความเสียใจ หลัง ศาลอุทธรณ์ ตัดสินจำคุก 5 ปี คดีรื้อบาร์เบียร์ ขอฎีกาพิสูจน์อีกครั้ง พร้อมรับคำวิจารณ์

หลังศาลอุทธรณ์ได้อ่านคำพิพากษากลับคำสั่งศาลชั้นต้น คดีรื้อบาร์เบียร์ ย่านสุขุมวิท ปี 2546 โดยสั่งจำคุก 5 ปี นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทยกับพวก โดยไม่รอลงอาญานั้น ล่าสุด หน้าแฟนเพจของนายชูวิทย์ ที่ใช้ชื่อว่า "ชูวิทย์ I'm No.5" นั้น ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการตัดสินในครั้งนี้ พร้อมข้อความแสดงความเสียใจและขอโทษ ใจความว่า

"เป็นธรรมดาของปุถุชนย่อมเกิดการท้อแท้หวั่นไหว แต่ผมจะพยายามไม่ให้กระทบต่องานเพื่อส่วนรวม เพราะมีข้อมูลอีกจำนวนมากที่เตรียมจะเปิดเผย ต้องขอโทษด้วย ลูกผู้ชายชั่ว 7 ที ดี 7 หน ข้อดีของระบบยุติธรรมในประเทศนี้ คือ มี 3 ศาล เมื่อศาลชั้นต้นยก ศาลอุทธรณ์ลงโทษ ผมยังเหลือศาลฎีกา ให้พิสูจน์อีกศาล"

"อย่าเพิ่งหัวเราะเยาะ อย่าเพิ่งตัดสินผม จนกว่าจะถึงวันที่ศาลฎีกา อ่านคำพิพากษา ขอบคุณสำหรับกำลังใจ (ถ้ามี) ส่วนคำวิพากษ์วิจารณ์ขอรับฟัง เป็นธรรมดาของมนุษย์ โบราณเขาบอก "คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ"

สนับสนุนเนื้อหา