จองตั๋วบินฟรีกับสายการบินไทยดองไว้นานแล้ว
วันที่ 8 ธันวาคมได้โบยบิน ซักที

เข้าเล้าจน์ King Power เพื่อจัดกระเป๋าใหม่ เปลี่ยนเงินตราญี่ปุ่นเข้าเป๋าตังค์
กินและดื่มกาแฟเป็นประจำ ใช้ห้องน้ำเสร็จ




ได้เวลาขึ้นเครื่อง ทริปนี้ตั๋วฟรีเขาให้ไฟล์ทเช้าง่ะ ไม่ชอบเลย
แต่นอนสบาย ครอบครองเก้าอี้ทั้งแถบ อิๆ




วันที่ 9 ธันวาคม
****ไปซื้อรองเท้าบู๊ทที่ห้าง TOBU ( Ikebukuro )






เดินไป เดินมา อยู่เป็นชั่วโมง เพราะมันเยอะมากๆ
และเสียเวลาพลิกดูพื้นรองเท้าด้วยว่า มีร่องเกาะหิมะดีไหม
เรียกใส่แล้วไม่ให้ลื่นล้ม งวดหน้าอยากได้ความยาวแค่หัวเข่าหรือหน้าแข้งพอ
ตกลงซื้อได้ยี่ห้อ Beau Fort ผลโดยญี่ปุ่น ราคา 21.080 yen
มีขนนุ่มรอบแข้ง จะพับลง พับขึ้นก็ได้ ใส่แล้วอุ่นดีจัง







เสร็จจากอิเคะบุคุโระ นั่งรถไฟสาย Yamanote ไปลงที่ Shibuya
เป้าหมายซื้อกระเป๋ายี่ห้อ Diaulo ที่ร้าน Twisty
และ เสื้อโค๊ตผ้าร่มใส่เล่นซักตัว



มองไปข้างหน้า หันหลังให้สถานีรถไฟ ขวามือตึก 109 ขายเสื้อผ้าผู้ชาย



ด้านซ้ายมือ จะเป็นตึก 109 ขายเสื้อผ้าผู้หญิง



ไปถึงตึกผู้หญิง ขวามือมีบันไดดารา เป็นคริสตัลสีทองแว๊ปๆ



ทางเข้าได้ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง







ยิงตรงไปที่ร้าน Twisty ขายกระเป๋าเลยค่ะ เวลาของซินเดอร์เรลล่ายิ่งไม่พออยู่ด้วย รีบซื้อ รีบกลับ





กระเป๋าออกมาใหม่ล่าสุด แต่ป้าซิ่งว่ากระเป๋าร้านนี้ที่ซื้อไปสวยกว่านะ



กระเป๋าใบเก่าของป้าซิ่งค่ะ เป็นพวกชอบกระเป๋าแต่เบื่อง่าย ถือนานเป็นปีไม่ชอบ



แต่ก็ซื้อเป๋าใหม่มาแว๊วววว เป๋าใหม่จะมีห่วงสีทองๆ ค่ะ
ราคาไม่แพงมาก แต่หนังดีและฝีมือเย็บปราณีตนะคะ 9,000 yen




ภายในกระเป๋าเป็นพลาสติกลายเสือดำ


เห็นที่เข็มขัดคาดเอวมีกระเป๋าน้อยๆห้อย มีขนมิ้งค์นุ่มๆด้วย
อยากได้แต่ก้มดูหน้าท้องตัวเอง แล้วต้องหน้างอ อดซื้อง่ะ
ต้องเป็นสาววัยรุ่นหน้าท้องแบนถึงจะคาดเอวได้สวย
ถ้าป้าซิ่งกลับไปเป็นสาวรุ่น จะซื้อแล้วเดินให้สะบัดไปเร้ยยยย ล่ะค่ะ



เดินลงบันไดไปข้างล่างไปซื้อเสื้อโค๊ตดีกว่า
ตัวป้าซิ่งก็อ้วน ไส้คงบวมในท้องแหละ ลองเสื้อโค๊ตซักตัวมันยากเย็นดีจริงๆ
ในที่สุดก็ได้มาหนึ่งตัว ที่ร้าน Heaven & Earth หนับหนุนยุ่นไป 13,400 yen
เกรงใจสาวยุ่นที่ขายเสื้อโค๊ตวิ่งเอาเสื้อโค๊ตมาให้ป้าซิ่งลองที่ห้องลองชุดจนเหงื่อตก
แต่เขาก็ยังยิ้มตลอด วิ่งๆไปกลับที่ราวแขวนมาทั้งห้องลองชุดคงเป็นกิโล
ป้าซิ่งทดลองใส่ไม่ได้ก็ต้องกล่าว โคะ-เมน-นา-ไซ ไปสามรอบ
ถึงจะได้ตัวนี้มา










ช๊อปปิ้งแล้วหิวจังอยากกินสปาเก็ตตี้สไตร์ญี่ปุ่น ยิงตรงไปร้าน Tapas ฝั่งตรงข้าม Tokyu Hands
ระหว่างทางแวะร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ เสื้อผ้าและคุณภาพเหมือนร้าน Top man



ถึงร้านอาหารแล้ว อย่าห่วงเรื่องราคากิน ร้านนี้ไม่แพงค่ะ แต่อร่อย





สั่งสลัดผักราดครีมซอส กับ สปาเก็ตตี้เห็ดอิรินจิกับปลาหมึกสดย่าง



ออกมาเจอะร้านนี้ ตึกสวย ภายในร้านน่ารักตรงตุ๊กตาหมี เสื้อผ้ามีนิดเดียว





เดี๋ยวนี้ตู้กดน้ำดืมในโตเกียวมันทันสมัยขึ้นแห๊ะ เป็นระบบจอสัมผัส ( Touch Screen )
ไม่มีของปลอมให้โชว์อีกแล้ว มีแต่รูปภาพ ปรับตามความสัมผัสเหมือนเราได้ดูทีวีเลย
มีการ์ดสำหรับจ่ายได้ตามกำลังหลากความบริการของบัตร
หรือ จะหยอดเหรียญ หยอดธนบัตร ก็ได้ค่ะ







วันที่ 10 ธันวาคม

ไปร้านน้องก้อย ที่ WARABI เจ้าของร้านโอเบนโตะรสเด็ด ลูกค้าตรึม
เธอสั่งซื้อปฏิทินพระแม่กวนอิม กับ หนังสือดูดวง เสริมดวงทุกปี
มีขนมไทยไปเป็นของแถม
ส่วนป้าซิ่งก็ชอบไปร้านเธอ เพื่อกินโอเบนโตะเหมือนกัน ก็เขาทำอร่อย
ราคาไม่แพง
กินไม่ฟรีนะ จ่ายตังค์ค่ะ ของซื้อ ของขาย





ป้าซิ่งโคตรจะอยากถ่ายรูปเลย ลูกค้าหน้าร้านก็เยอะ
เราก็เกรงใจนะ ถ่ายปุ๊บ แล้ววิ่งไปหลังร้าน เพราะเราเกะกะร้านมาก
เมนูนี้ของลูกค้า ร้านน้องก้อยเขาดังเรื่องไก่ชุบแป้งทอด หรือ ฮาราเงะ



ป้าซิ่งกินอันนี้ดีกว่า มี คาเร ด้วย



แล้วก็ไปร้านนวดไทยของเพื่อนที่ Nippori
เธอสั่งยาสมุนไพรน้ำบลูเบอรี่ คือ Pinklady สูตร 1 ซื้อ 2 ขวด



นั่งคุยที่ร้านประมาณ 30 นาทีพอ เพราะเธอบอกว่า คิดถึงๆ
ส่วนป้าซิ่งเหรอ ว้าย!! ฉันไม่มีเวลาคุยแล้ว ฉันจะรีบไปช๊อปต่อ
เดี๋ยวหิมะร่วง โดนหนุ่มยุ่นฉุด ล่ะแย่เลยเธอ ใครจะรับผิดชอบชีวิตของอู๊ด

ไปต่อที่ Ikebukuro ซื้อเสื้อผ้า กับ ไปร้าน Kitty





ซื้อกระเป๋าขนนุ่มมาถือเล่นในเมืองไทยดีกว่า




กระเป๋าสตางค์วิบๆแว๊บๆ อีกซักใบ



กางเกงวอล์มขนฟูสีหวานๆอีกตัว




จับสลากได้ที่ร้านคิ๊ตตี้ เป็นกระบอกและผ้าขนหนูชุบน้ำ



แวะซื้อที่ทาเปลือกตาร้าน ANNA SUI



เห็นเสื้อไซร์ที่ป้าซิ่งใส่ได้ราคา 1,995 yen เองค่ะ



กางเกงร้านนี้เจ๋งดี ชอบ ซื้อไปใส่เล่น ไว้ตอนเป็นแจ๋วที่บ้านดีกว่า เซ็กซี่ที่ตูด แปะไว้ว่า เชียร์



วันที่ 11 ธันวาคม
มีนัดกับพี่ศรี (adachiku) ที่ Laketown เดินเล่นและทานสปาเก็ตตี้กัน





กินที่ร้าน Pastel อร่อยๆ







ตบท้ายการกินด้วยของหวาน คือ พุดดิ้ง
อร่อยมากๆ จนป้าซิ่งต้องเบิ้ลอีกถ้วย ถ้วยก็เอากลับบ้านได้ด้วยค่ะ ไว้ไปจิบชา











ร้านนี้ก็มีที่เมืองไทย เคยเห็นที่ ห้าง Terminal 21 ใกล้ BTS อโศก





ขอบคุณพี่ศรีมากๆค่ะ ที่ให้ของขวัญวันคริสต์มาสแก่โรบินเป็นรองเท้าบู๊ทซานต้าครอส
ที่บรรจุขนมญี่ปุ่นเยอะแยะ และ ขอบคุณของฝากมี่ให้ป้าซิ่งด้วยค่ะ
ไว้ป้าซิ่งจะให้โรบินในวันเสาร์ที่ 24 ธันวาคมนี้นะคะ ตอนนี้เก็บของเป็นความลับแอบลูกโรบินอยู่ค่ะ









วันที่ 12 ธันวาคม

ไป Tokyo Disney Sea คนเดียว เป็นช่วงเทศกาลวันคริสต์มาส







สามารถดูภาพและบรรยากาศโตเกียวดิสนีย์ซี ได้ที่บล๊อคข้างล่าง นะคะ

วันที่ 13 ธันวาคม

ไปกองตรวจคนเข้าเมือง เพื่อทำเรื่อง Re-entry เอาแบบ Multiple ได้ 3 ปี
เสียค่าภาษีอากรแสตมป์ 6,000 yen







ร้านนี้เป็นร้านที่คนญี่ปุ่นเข้าคิวซื้อก้นเยอะ
ที่เมืองไทย คนไทยยังเฉยๆ



ดูของเล่น ของใช้ให้ลูกน้องกล้วย ที่ร้าน Shimamura



ชอบเครื่องดื่มแนว Sprking และไอศครีมชาเขียว ก็ต้องยี่ห้อนี้ค่ะ



วันที่ 14 ธันวาคม
เดินเล่นแถวบ้านซื้อของแป๊บเดียว วันนี้อากาศครึ้มจัง อยู่บ้านดีกว่า

โฟมล้างหน้าจากร้าน 100 yen มีคำสั่งจากเมืองไทย




แชมพูและทริสเม้นต์มีเก็บไว้ใช้เองที่เมืองไทย กักตุนไว้ค่ะเพราะมันดีมาก



ครีมอาบน้ำบีโอเร ยู กลิ่นส้มและโฟมล้างหน้า โดป กลิ่นส้ม



วันที่ 15 ธันวาคม
กลับเมืองไทยแล้ว เย้! ไฟล์ท TG 677 เวลาออก 17:15 P.M.
ถึงเมืองไทยที่สนามบินสุวรรณภูมิประมาณสี่ทุ่ม
วันนี้อากาศดีจังเลย จนต้องผ่าโปรแกรมเอาสัมภาระไปฝากไว้ที่ล๊อคเกอร์
Nippori
เพราะป้าซิ่งจะเดินทางโดยสารรถไฟคนจน Keisei Line ไปลงที่สนามบินนาริตะ





แต่ก่อนไปขอไปช๊อปต่อที่ย่าน Harajuku เป้าหมายซื้อตุ้มหูร้านประจำ
และกินขนมเคฟสอดไส้ เท่านั้นค่ะ



ซื้อตุ้มหูร้านประจำที่นี่ค่ะ







กินขนมเคฟสอดไส้ แถวถนน Takashita













เดินเล่นอยู่แค่ต้นทางเดินใกล้สถานีรถไฟเท่านั้นแล้วก็รีบกลับ







กลับมาเอาสัมภาระที่สถานี Nippori เตรียมพร้อมเดินทางขึ้นเครื่องกลับเมืองไทยแล้ว

ดื่มน้ำแอปเปิ้ลสปาร์คกิ้งระหว่างเดินทางรถไฟเป็นชั่วโมงกว่านิดๆสู่สนามบินนาริตะ


ช๊อปต่อที่ดิวตี้ฟรี สนับสนุนร้านเพิ่งเปิดใหม่






ซื้อนาฬิกาข้อมือสายสีม่วงแสงวิบๆมาเรือนหนึ่งราคา 15,000 yen



ไอโซดีนเสปรย์ เป็นของฝากที่รัก



เห็นราเมงน่ากิน ไม่กินไม่ได้แล้ว



ได้เวลาขึ้นเครื่องซักที นอนยาวถึงเมืองไทยเลยค่ะ