bloggang.com mainmenu search


ช่วงวัยที่มีความสุขที่สุดของผม

อยู่ที่อายุตั้งแต่จำความได้จนถึง 7 ขวบ

ผมเกิดมาก็พบกับเสรีภาพอันเปี่ยมล้น

ครั้งหนึ่งเคยดื้อตามผู้ใหญ่ไปเที่ยวถึงหัวหิน

ตอนที่ผมเกิดมา ประเทศไทยมีพลเมืองแค่ 17 ล้านคน

คนอีก 46 ล้านอยู่ระหว่างเดินทางมาโลกใบนี้

ช่วงนั้นประชาชนคนไทยน่าจะอยู่หลวมๆ สบายๆ

แต่ทำไมยังลำบากยากจนนักก็ไม่ทราบได้

อาชีพเกษตรกรรมของบ้านเราใช้แรงกายเข้าแลก

ยังจำวันที่มีอิสระเสรีได้ไม่เคยลืม

กระโดดโลดเต้นไปตามเรื่องตามราว

ปีนป่ายต้นไม้ไวอย่างกับลิง

ว่ายน้ำ ดำผุด ดำว่าย จนตระไคร่ขึ้นปากสีเขียวคล้ำ

วันหนึ่งที่บ้านบอกว่าถึงเวลาไปโรงเรียนแล้ว

แรกๆก็ตื่นเต้น พอไปได้วันสองวัน เริ่มเบื่อ

โรงเรียนในความหมายของผม

จึงไม่ห่างไกลจากคำว่า "ค่ายกักกัน"

เราต้องนั่งกันเรียบร้อยในห้องเรียนนับชั่วโมงๆ

เวลาที่ดีใจที่สุดคือก่อนกลับบ้าน

นักเรียนพร้อมเพรียงกันท่องบทอาขยาน

ในยามเย็นแสงรำไรรอดเข้ามาเป็นดวงๆ

ให้อารมณ์ลิงโลด เปล่งเสียงก้องกังวาลและเร่งรีบ

“เห็นกวาง ย่างเยื้องชำเลืองเดิน เหมือนอย่างนางเชิญ

พระแสงสำอางข้างเคียง..."

ปีหนึ่งผ่านไป

แม่เฝ้าดูผมไม่ไปโรงเรียนอยู่หลายวัน (ชั้นป.1)

วันนั้นท่านหยุดลงสวนเก็บผัก ดายหญ้า

จะกำหราบเจ้าลูกชายตัวดี

ตอนเช้าทุกวันเรือหางยาวที่มีเด็กเต็มลำจะมาจอดรอที่หน้าบ้าน

ผมเป็นคนสุดท้ายที่เขามารับ

เป็นไง เป็นกัน แม่ผมคงคิดเช่นเดียวกัน

ไม้เรียวในมือแม่หวดที่ก้นผมเท่าไรไม่ทันนับ

แล้วโยนผมลงเรือหางยาวลำนั้น

ท่ามกลางสายตาอันงุนงงของเพื่อนๆ

เมื่อเรือออกจากหน้าบ้านไปแล้ว

ผมเริ่มสงบ และยอมรับความเป็นไป

นั่นเป็นรากฐานของความมีตัวตนในวันนี้

หากแม่ไม่ปฏิบัติการในวันนั้น วันนี้ไม่รู้จะเป็นอย่างไร.
Create Date :23 ธันวาคม 2554 Last Update :3 มกราคม 2555 22:48:43 น. Counter : Pageviews. Comments :0