'แพนด้า ฟีเวอร์' จะมาเยือนชาวฝรั่งเศสในวันที่ 15 ม.ค. เมื่อทางการจีนเตรียมส่งแพนด้าอีกสองตัว ชื่อ หยวนไจ๋ และ ฮ้วนฮ้วน ไปกระชับสัมพันธ ไมตรีถึงสวนสัตว์โบแวล ประเทศฝรั่งเศส

ต่อเนื่องจากต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สวนสัตว์เมืองเอดินเบอระ ในสกอตแลนด์ ได้แพนด้าคู่หนึ่งชื่อว่า เถียนเถียน และหยาง กวง จากเมืองจีนมาให้ชาวสกอตฮือฮา

ประเพณี 'การทูตผ่านแพนด้า' ปฏิบัติกันมาช้านาน มีหลักฐานว่าจักรพรรดิจีนเคยส่งแพนด้าให้ญี่ปุ่นตั้งแต่ปีพ.ศ.1228

ส่วนในยุคปัจจุบันการส่งทูตแพนด้านี้มีจุดประสงค์เพื่อการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และการอนุรักษ์ว่าด้วยการวิจัย การรักษา และเพาะพันธุ์แพนด้า

ตั้งแต่ปี 2537 เป็นต้นมา มีแพนด้าจำนวนทั้งหมด 26 ตัวที่รัฐบาลจีนส่งไปประจำตามสวนสัตว์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สเปน ออสเตรีย สหราชอาณาจักร และไทยด้วย

ด้วยกระแสความนิยมแพนด้าของคนทั่วโลก คงจะต้องมีอีกหลายสวนสัตว์ที่จะได้มีแพนด้าเป็นแขกคนสำคัญในอนาคต

แต่น้อยคนนักที่จะทราบว่า วัฒนธรรม 'เดินสายแพนด้า' ทั่วโลกของรัฐบาลจีน บางทีก็กลายเป็นวิบากกรรมให้เจ้าทูตสี่ขาแดนมังกรต้องแบกรับ!

รายงานจาก 'ไชน่าเดลี่' เปิดเผยเรื่องราวอีกด้านของแพนด้าที่ต้องระหกระเหินไปต่างแดน

แม้แต่การนำแพนด้าขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศก็เสี่ยงต่อสุขภาพของสัตว์ (ขอบ) ตาดำๆ แล้ว

เช่นในปี 2550 เมื่อเจ้าหน้าที่นำแพนด้าสองตัวขึ้นเครื่องบินจากมณฑลเฉินตูไปเปลี่ยนเครื่องที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อเดินทางต่อไปยังสวนสัตว์ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน

ปรากฏว่าเกิดปัญหา เจ้าหน้าที่สนามบินเซี่ยงไฮ้ยังไม่ยอมให้เครื่องบินขึ้น แพนด้าทั้งสองในกรงต้องค้างเติ่งอยู่หลายชั่วโมงท่ามกลางเสียงรบกวนต่างๆ ในสนามบิน ทั้งเครื่องบินขึ้นเครื่องบินลง แพนด้าทั้งสองกระวนกระวายทั้งคืนก่อนจะผล็อยหลับไป และขึ้นบินได้ในเช้าวันต่อมา

ในบางครั้งเมื่อไปถึงบ้านใหม่ได้แล้วก็ใช่ว่าแพนด้าจะปรับตัวได้ ยกตัวอย่างกรณีหวังหวัง และฟุหนี่ จากฐานรักษาพันธุ์แพนด้าปี้เฟิงเซียะ มณฑลเสฉวน ไม่สามารถปรับตัวกับสภาพอากาศร้อน 35 องศาเซลเซียสและแห้งในบ้านใหม่ที่สวนสัตว์อเดเลด ประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากที่บ้านเกิดของทั้งสองนั้นมีอากาศที่หนาวเย็น อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียสเท่านั้น

ถึงแม้เจ้าหน้าที่จะสร้างอาคารอุณหภูมิ 18-20 องศาให้อาศัยและพยายามฝึกให้แพนด้าปรับตัว แต่ก็ไม่สำเร็จ เจ้า 'หวังหวัง' เป็นไข้หวัดและเป็นปอดบวมด้วย เจ้าหน้าที่ต้องเร่งรักษาจนหายในที่สุด

แต่วิบากกรรมก็ไม่จบแค่นั้น เพราะสวนสัตว์บ้านใหม่ของมันและเจ้าฟุหนี่ไม่มีไม้ไผ่ชนิดที่ทั้งสองตัวคุ้นเคย เดือดร้อนถึงทางการออสเตรเลียต้องบินไปนำเข้าไม้ไผ่จากแหล่งอื่นในออสเตรเลีย คล้ายกับสวนสัตว์ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ต้องส่งไม้ไผ่จากรัฐแมรี่แลนด์มาเลี้ยงแพนด้าในสวนสัตว์

ขณะที่การขนส่งไม้ไผ่เพื่อไปเลี้ยงแพนด้าตามสวนสัตว์เป็นเรื่องยากลำบากเช่นกัน เพราะต้องใช้เวลานานในการขนส่ง ไม้ไผ่จึงไม่สดเหมือนที่แพนด้าคุ้นเคยในถิ่นบ้านเกิด อีกทั้งไม้ไผ่จะต้องผ่านการตรวจกักเชื้อโรคเป็นเวลาถึง 1-2 เดือนด้วย และแพนด้าเป็นสัตว์ที่ต้องกินไม้ไผ่ตลอดเวลา สวนสัตว์บางแห่งจึงต้องเริ่มลงทุนปลูกไม้ไผ่ในบริเวณใกล้เคียงบ้างแล้ว

เรียกได้ว่าวิบากกรรมนี้ ลำบากทั้งแพนด้า ลำบากทั้งคน!

credit :  khaosod