จริง-เท็จ แผนเด็ดโฆษณา ฟิลเตอร์เทพ-แอร์ ฆ่าหวัด09 ..... นักวิชาการชี้ เป็นไป ไม่ได้
////www.thaisarn.com/th/news_reader.php?newsid=479492//www.thaihealth.or.th/node/14376ที่มา : หนังสือพิมพ์ ASTV ผู้จัดการ
จริง-เท็จ แผนเด็ดโฆษณา ฟิลเตอร์เทพ-แอร์ฆ่าหวัด09
นักวิชาการชี้
เป็นไปไม่ได้ สถานการณ์ หวัด 2009 ยังไม่คลี่คลายสักเท่าใดนัก และยังปรากฏผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่แทบทุกวัน โดยเฉพาะช่วงระบาดระลอกใหม่นี้ คนจำนวนไม่น้อยเกิดความวิตกไม่อยากให้ตัวเองและคนในครอบครัวต้องได้รับเชื้อ ต่างก็หาวิธีป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นเจลล้างมือหรือหน้ากากอนามัย
ด้าน อุตสาหกรรมการผลิตสินค้าที่ป้องกันเชื้อโรคดังกล่าว ต่างก็ผลิตสินค้าของตัวออกมาเป็นจำนวนมาก เพื่อสนองต่อความต้องการของลูกค้า ไม่เว้นแม้กระทั่ง เครื่องปรับอากาศ หลายยี่ห้อต่างก็แข่งกันโหมโฆษณานวัตกรรมใหม่ๆ ของบริษัทตัวเองว่า กรองแบคทีเรียได้บ้างล่ะ หรือบางยี่ห้อถึงกับอวดอ้างว่าฆ่าเชื้อหวัด 2009ได้ด้วยซ้ำ!
จริงหรือไม่จริงอย่างไร งานนี้ผู้บริโภคเองก็ไม่แน่ใจ แต่ก็มีไม่น้อยที่เชื่อในคำโฆษณาจนซื้อหาไปติดที่บ้าน
ผศ.ดร.กอบชัย ภัทรกุลวณิชย์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ให้ความกระจ่างในมายาภาพแห่งการโฆษณาว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ที่ผมคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยก็เพราะฟิลเตอร์ที่กรองเชื้อโรคได้มันเป็นฟิลเตอร์เฉพาะมาก เรียกว่า
เฮปป้าฟิลเตอร์ (HEPA) และ ราคาแพงมาก ราคาน่าจะเท่าเครื่องแอร์หรืออาจจะแพงกว่าด้วย ปกติฟิลเตอร์ชนิดนี้จะใช้ในห้องผ่าตัดหรือห้องเพาะเลี้ยงที่ใช้เพาะเชื้อ เพาะเนื้อเยื่อโดยเฉพาะที่ต้องการให้ปลอดเชื้อโรคจริงๆ เท่านั้น ผมเชื่อว่า
ไม่มีทางที่อุตสาหกรรมแอร์บ้านจะนำมาใส่ในเครื่องปรับอากาศแล้ว ขายในราคาปกติเท่านี้ได้ ผศ.ดร. กอบชัย กล่าวถึงประเด็นการฆ่าเชื้อโรคว่า ที่มีการโฆษณาว่า
ฆ่าเชื้อโรคได้ด้วยประจุไฟฟ้ายังไม่ยืนยันว่าสามารถทำได้ หรือไม่ เพราะเท่าที่ศึกษา ยังหาเอกสารพิสูจน์ไม่ได้ และ เอกสารการวิจัยที่มี ก็มีเฉพาะที่บริษัทวิจัยเองและรับรองตัวเองว่าสามารถทำได้เท่านั้น ยังไม่เคยเห็นเอกสารการวิจัยจากแหล่งอื่นๆ
แต่เรื่องกรองไวรัสและแบคทีเรียได้นี่ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
ขนาด ฝุ่นละอองเล็กๆนี่ยังกรองไม่ได้เลยครับ ส่วนเรื่องกรองหวัดหรือฆ่าหวัด 2009 ผมก็ไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ หากโฆษณากันว่าได้นี่คงต้องขอดู เพราะในฟิลเตอร์ปกติอย่าว่าแต่แบคทีเรีย เชื้อหวัดซึ่งเป็นไวรัสที่เล็กกว่าแบคทีเรียตั้งหลายเท่านี้กรองไม่ได้แน่ นอนครับ
ผศ.ดร. กอบชัย แนะนำวิธีการเลือกแอร์ด้วยเอาปัจจัยของการกรองสิ่งปนเปื้อนในอากาศเป็น ประเด็นหลักในการเลือกว่า ดีที่สุดคือสอบถามผู้ขายถึงขนาดฟิลเตอร์ที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศนั้นๆ
ต้องถามเลยว่าขนาดฟิลเตอร์เท่าไหร่ ที่กรองได้จริงๆ ต้องเล็กกว่า 1 ไมโครเมตร ถ้าฟิลใหญ่กว่านี้กรองไม่ได้
ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีววิทยาจากรั้วสีชมพูอธิบายต่อถึงเรื่องที่หลายคนอยากรู้ไม่แพ้กันนั่นก็คือการเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ว่าควรเลือกซื้อแยกชิ้นเป็นเครื่องปรับอากาศชิ้นหนึ่งกับเครื่องฟอกอากาศชิ้นหนึ่ง
โดย หลักแล้วแอร์มีหน้าที่ทำความเย็น ผมแนะนำว่าควรจะดูประสิทธิภาพการทำความเย็น การประหยัดไฟ เพราะแอร์ธรรมดาราคาจะอยู่ระดับหนึ่ง แต่แอร์ที่มีเครื่องฟอกอากาศในตัวจะอีกราคาหนึ่ง แพงกว่า ถ้าอยากได้เครื่องฟอกอากาศก็ควรจะซื้อต่างหากเพราะจริงๆ แล้วมันเป็นคนละจุดประสงค์การใช้งาน ควรใช้แยกกันดีกว่า
อาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจุลชีวะฯรายนี้กล่าวโดยสรุปว่า แม้อนาคตอาจมีการคิดค้นแอร์ที่มีฟิลเตอร์ฆ่าเชื้อโรคขนาดเล็กอย่างไวรัสได้ จริงๆ แต่หากเราออกจากบ้านไปเจออากาศข้างนอกก็ยังคงเจอเชื้อโรคอยู่ดี
ใน อากาศปกติมันมีอยู่แล้ว ทั้งเชื้อโรค รา ไวรัส แบคทีเรีย แต่ตัวที่มันร้ายจริงๆ มีไม่มากนัก ถึงติดแอร์ในบ้าน ออกไปมันก็ต้องเจอเชื้อโรค
ผมอยากให้ดูเป้าหมายจริงๆ ของแอร์มากกว่า ว่า มันทำให้อากาศเย็น ไม่ได้มีไว้ฆ่าเชื้อโรคโดยตรง มันเป็นเรื่องของการโฆษณา แอร์มันก็แค่ทำความเย็น ทุกบริษัททำได้ แต่ทำอย่างไรให้มูลค่ามันเพิ่ม ก็ต้องเพิ่มฟีเจอร์การใช้ต่างๆ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้น ซึ่งผมว่ามันเป็นความฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น เหมือนเราใช้เครื่องซักผ้าปกติ ใส่ผงซักฟอก มันก็สะอาด และฆ่าแบคทีเรียระดับหนึ่ง แต่ถ้าเราเลือกแบบนาโนซิลเวอร์ที่กำจัดแบคทีเรียได้มากขึ้น แต่ราคาแพงกว่ามาก มันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนักเพราะแบบธรรมดามันก็ใช้ได้อยู่แล้ว
ในขณะที่หน่วยงานผู้รับผิดชอบโดยตรงอย่าง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) โดยรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอย่าง
นพปฎล เมฆเมฆา กล่าว ว่า 2-3 ปีที่ผ่านมามีการโฆษณาเครื่องปรับอากาศในลักษณะกรอง จับ หรือฆ่าเชื้อโรคได้เป็นจำนวนมาก ทางสคบ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้ตรวจสอบผู้ผลิตหลายยี่ห้อ
เรา ให้เขาพิสูจน์ เขาก็มีผลการวิจัยมาให้ แต่เท่าที่พบก็คือ มันเป็นการวิจัยของบริษัทแอร์เอง พื้นที่ทดลองในห้องวิจัยก็ไม่มาก ทดลองในพื้นที่จำกัด พอจับเชื้อได้ 4-5 ตัว ก็โฆษณาว่าจับเชื้อโรคได้
แต่พอเอามาใช้กับแอร์ซึ่งมีพื้นที่กว้างกว่าเราก็เกรงผู้บริโภคเข้าใจผิด จึงให้เขาใส่คำในโฆษณาด้วยว่าเป็นผลการทดลองจากห้องทดลอง ถ้าไม่ใส่ก็ถือว่ามีความผิด ปกปิดรายละเอียดสำคัญ ซึ่งถ้าเจตนาทำจะมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 50,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนเคสที่ทำป้ายใหญ่แต่คำชี้แจงรายละเอียดเล็กเราก็เชิญมาคุย ขอให้ปรับปรุง เพราะเชื่อว่าคนขับรถผ่านไปมาคงอ่านไม่ทัน
รอง เลขาฯ นพปฎล กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมาในปี 2549-2550 มีการโฆษณาประเภทนี้อยู่มาก ส่วนใหญ่จะโฆษณาว่ากำจัดต้นเหตุภูมิแพ้ ฆ่าเชื้อ H1N1 ซึ่งเป็นการโฆษณาที่ตรวจสอบแล้วว่าไม่เป็นความจริง ก็จับปรับไป 10 กว่าบริษัท
ปี นี้สคบ.ก็เชิญบริษัทแอร์มาคุยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ขอให้เน้นการโฆษณาไปที่ความคงทน ความประหยัดไฟ และประสิทธิภาพการทำงาน อย่าเน้นไปในเรื่องฆ่าเชื้อโรคอะไรมากนัก เขาก็บอกว่าบอกเขาช้าไป เขาทำโฆษณาไปแล้ว ผมก็เลยบอกไปว่า ถ้าทำออกมาเกินจริงก็ต้องดำเนินคดีนะ แล้วมันก็จะเหนื่อยกันทุกฝ่าย
อยากฝากเตือนไปถึงผู้บริโภคด้วยว่า
หากต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ทุกชนิด ควรทำการบ้านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ซื้อก่อนจัดตัดสินใจ อย่าเชื่อคำโฆษณาโดยไม่หาข้อมูล รองเลขาฯ นพปฎลทิ้งท้าย
//www.bloggang.com/viewblog.php?id=cmu2807&date=23-02-2009&group=7&gblog=18
อย. .. สำหรับเรื่อง ยา อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ อาหารเสริม
//newsser.fda.moph.go.th/fda1556web/all_over_bk.php
//www.fda.moph.go.th/prac/complain/complain.shtml
ท่าน สามารถร้องเรียน - แจ้งเบาะแส เมื่อท่านประสบปัญหาหรือพบเห็นการกระทำ ที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ สุขภาพ กับกองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภคได้โดยส่งเมล์มาที่
complain@fda.moph.go.th
ประเด็นที่สามารถร้องเรียน อย.
เมื่อผู้บริโภคประสบปัญหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ ประเด็นที่ผู้บริโภคสามารถร้องเรียน อย. ได้แก่
พบความบกพร่องของผลิตภัณฑ์ที่เห็นได้ชัดเจน เช่น เสียก่อนหมดอายุ ไม่มีฉลากภาษาไทย การแสดงฉลากไม่ครบถ้วน เป็นต้น
พบโฆษณาโอ้อวด หลอกลวง หรือทำให้เข้าใจผิด ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาโดยวิธีใด
พบการผลิต นำเข้า หรือขายยา และวัตถุเสพติด โดยไม่ได้รับอนุญาต
พบการผลิต นำเข้า หรือขาย ผลิตภัณฑ์สุขภาพปลอม
พบ การผลิต หรือขาย ผลิตภัณฑ์ที่ห้าม หรือมีสารที่ห้ามใช้ เช่น ยาชุด ครีมทาฝ้า ที่มีสารปรอท-แอมโมเนีย หรือไฮโดรควิโนน หรือกรดวิตามินเอ อาหารที่ผสมสารบอแรกซ์ สารฟอกขาวหรือ กรดซาลิซิลิค เป็นต้น
ได้รับอันตรายจากการบริโภค หรือใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ ทั้งที่ได้ปฏิบัติตามวิธีใช้ คำแนะนำ หรือข้อควรระวังตามที่ระบุบนฉลากแล้ว
พบการทุจริตและประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานภายใน อย.
หมายเหตุ :
ชื่อ และการติดต่อกลับ (E-mail หรือ เบอร์โทร ของท่าน) มีประโยชน์มากในการดำเนินงานของกองพัฒนาศักยภาพผุ้บริโภค เนื่องจากในหลายกรณี ข้อมูลที่ท่านให้อาจไม่ครบถ้วน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ การขอข้อมูลเพิ่มเติมในบางกรณี ทำให้การดำเนินงานลุล่วงด้วยดี ตามเจตนารมณ์ของท่านที่ได้กรุณาร้องเรียน-แจ้งเบาะแสมาทางเรา
| สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา | 88/24 ถนนติวานนท ์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี 11000 โทรศัพท์ 0 2590 7000 |
ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนมายังช่องทางอื่นๆ ได้ ดังนี้
สายด่วน อย.โทร. 1556,
อีเมล 1556@fda.moph.go.th และ
ตู้ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
//www.consumerthai.org
0- 2248 - 3734 - 7
E - mail : webmaster@consumerthai.org
สำนักงาน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ( สคบ. )
//www.ocpb.go.th
โทร 1166
E-mail consumer@ocpb.go.th
//www.ocpb.go.th/main_contact.asp
เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 0-2143-9760
0-2141-3534-36
รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค -
0-2141-3407
กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา 0-2143-9770
- ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ 0-2143-0401-04
- ฝ่ายควบคุม 0-2143-0398-0400
กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก 0-2143-9768,
- ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ 0-2143-0391-93
- ฝ่ายควบคุม 0-2143-0387-89
กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา 0-2143-9767
- ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์ 0-2143-0380-82
- ฝ่ายควบคุม 0-2143-0377-78
สำนักกฎหมายและคดี 0-2143-9762-63
- ส่วนกฎหมาย 0-2143-0363, 0-2143-0354
- ส่วนคดี 0-2143-0359-61
- ส่วนขายตรงและตลาดแบบตรง 0-2143-9764
โดย: หมอหมู 2 มีนาคม 2553 15:43:50 น.