bloggang.com mainmenu search

"สุบิน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวัยชรา

ลุงนิมิตเป็นเพื่อนบ้านผมในซอยอินทามระ ใกล้ๆ กับสี่แยกถนนวิภาวดีรังสิต ที่กรุงเทพฯ นี่เอง แม้จะเกษียณอายุจากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่มาสิบกว่าปีแล้ว แต่คุณลุงก็ยังดูสดชื่น แข็งแรงกว่าคนในวัยเดียวกันอีกหลายๆ คน

ตอนเช้าๆ เย็นๆ เพื่อนบ้านและคนในซอยที่ผ่านไปมา มักจะมองผ่านรั้วโปร่งๆ เข้าไปเห็นชายชรารูปร่างผอมสูง ผมขาวโพลน นุ่งกางเกงแพร สวมเสื้อคอกลม กำลังรดน้ำต้นไม้บ้าง เดินเล่นบ้างเป็นประจำ

ผมเคยสังเกตว่าตอนใกล้จะพลบค่ำ ลุงนิมิตมักจะนั่งเงียบๆ อยู่ที่เก้าอี้สนาม มีหนังสือและกาน้ำชาวางอยู่บนโต๊ะ แต่ดูเหมือนว่าแกจะสนใจกับดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้ามากกว่า

ร่างนั้นยืดตรง นัยน์ตาเหม่อลอยไปสู่ขอบฟ้าแดงฉาน เหมือนจะเปล่งแสงอาลัยอาวรณ์เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะลับฟ้าไป...

ชายชราจ้องมองไปที่นั่นก็จริง แต่ดูเหมือนกำลังมองไปสู่ความว่างเปล่าก่อนจะกะพริบตา ถอนใจยาว...นั่งนิ่งเงียบคล้ายจะสำนึกดีถึงวัยชราของตนเอง ที่ไม่แตกต่างกับตะวันใกล้ลับฟ้า...เหลือแต่ความเปลี่ยวเหงาอันน่าวังเวงใจ

ลุงนิมิตอยู่ตัวคนเดียวในบ้านไม้เก่าๆ สองชั้น แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่น้อยร่มครึ้ม รวมทั้งไม้ดอกไม้ใบที่ปลูกไว้ในดินและกระถาง...นั่นคือเพื่อนสนิทแท้จริงในบั้นปลายของชีวิต ขณะที่วาระสุดท้ายกำลังใกล้เข้ามาทุกที ตามกฎของชีวิตที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป

ป้าวาดภรรยาของแกลาลับไปหลายปีแล้วด้วยโรคหัวใจ พวกลูกๆ ทั้งหญิงและชายต่างก็แยกย้ายกันไปมีครอบครัว แต่ก็ยังพาลูกเต้าแวะเวียนมาเยี่ยมพ่อเป็นประจำ

ได้ข่าวว่าลูกๆ ชวนไปอยู่ด้วย แต่ลุงนิมิตบอกว่าอยากอยู่คนเดียว หรืออยู่กับป้าวาดที่นี่มากกว่า!

ผมคุ้นเคยกับครอบครัวนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว เคยไปวิ่งเล่นกับลูกๆ ของลุงและป้าที่ดูใจดี หาขนมนมเนยให้กิน พอเติบโตก็ได้สังเกตว่าบ้านนี้มีหนังสือมากมายกว่าทุกบ้านที่เคยพบเห็นมาก่อน

ลุงนิมิตเห็นผมสนใจก็พาไปชม และแนะนำให้รู้จักหนังสือต่างๆ ไม่ว่าวรรณคดี วรรณกรรมเด่นๆ ทั้งของไทยและของโลก นวนิยายหลากรส สารคดี เรื่องท่องเที่ยว เรื่องตลก รวบรวมคำคมและสุภาษิต ไปจนถึงประวัติ ศาสตร์และชีวประวัติของบุคคลสำคัญ

เห็นผมสนใจเล่มไหนเป็นพิเศษ แกก็อนุญาตให้ยืมไปอ่านที่บ้านได้ และนั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมกลายเป็นหนอนหนังสือเหมือนลุงนิมิตมาจนถึงทุกวันนี้

สิ่งที่สะดุดใจก็คือรูปถ่ายทั้งเก่าและใหม่ ไม่ว่าในห้องรับแขกหรือห้องพักผ่อน...หลังจากป้าวาดเสียชีวิตไม่นาน เหลือแต่ลุงนิมิตคนเดียวในบ้าน ผมชมว่าเมื่อหนุ่มๆ คุณลุงรูปหล่อมาก แกก็ยิ้ม แววตาสดใสวูบหนึ่งก่อนจะเลื่อนลอยไป

"ขอบใจ...ตอนแรกลุงก็คิดยังงั้นเหมือนกัน แต่เมื่อมองดูหลายๆ ครั้ง ดูให้ดี...แปลกนะ! ลุงว่านั่นน่ะไม่ใช่ลุงหรอก แต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่ลุงมาอาศัยเขาอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว!"

ผมอ้าปากค้าง ทั้งรู้สึกหวาดๆ และงุนงงจนพูดอะไรไม่ออก ลุงนิมิตก็ชี้ให้ดูรูปถ่ายที่ในเครื่องแบบเต็มยศก่อนจะเกษียณได้ไม่นาน

"ดูรูปนี้ซี เห็นไหม...ไม่มีความหล่อเหลาอะไรเหลือแล้ว มีแต่ตาแก่หน้าตาเหี่ยวย่น...ขนาดช่างเขาแต่งรูปแล้วนะ! นี่...รูปหลังเกษียณที่เป็นโฉมหน้าแท้จริง! ไง...หน้าซูบ ตีนกาเกาะเต็ม มุมปากเหี่ยวๆ กับเหนียงห้อย นัยน์ตาไร้แววสดชื่นเหมือนก่อน...ใครก็ไม่รู้!"

อีกครั้งที่ผมอ้าปากค้าง แถมหนาวเยือกที่ต้นคอชอบกล เสียงของลุงนิมิตยังดังวู่หวิวเหมือนลมพัดมาจากที่ไกลแสนไกล

"ตาแก่ที่ไหนก็ไม่รู้...แย่ยิ่งกว่าหนุ่มคนเก่าที่ไม่ใช่ลุงเสียอีก" มีเสียงถอนใจยาว "ลุงรู้สึกเหมือนมาอาศัยร่างนี้อยู่ ตั้งแต่มันยังเด็กๆ จนเป็นหนุ่มเป็นแน่น แล้วก็แก่เฒ่าร่วงโรยไปคาตา...เหมือนบ้านที่เราเคยอยู่มาหลายสิบปีนี่เอง เดี๋ยวเดียวมันก็กลายเป็นบ้านเก่าไปแล้ว"

ทั้งงุนงงระคนขนลุก ได้ยินเสียงเศร้าๆ ของคุณลุงดังแว่วมาว่า...อีกไม่ช้าลุงก็ต้องทิ้งบ้านเก่าหลังนี้แล้ว ไปหาบ้านหลังใหม่อยู่! เฮ้อ...ไม่รู้ว่าเคยอาศัยอยู่กินมากี่สิบหลังกัน?

ในที่สุด ลุงนิมิตก็จากไปบนที่นอน...หลับไม่ตื่น! ผมกับเพื่อนบ้านเข้าไปดูศพก็เห็นนอนหงายลืมตาโพลง
มุมปากเหี่ยวย่นมีรอยยิ้มนิดๆ เหมือนได้พบเห็นใครหรืออะไรที่รอคอยมานานแสนนาน...ขอให้ลุงจงไปพบบ้านใหม่สวยๆ งามๆ น่าอยู่อาศัยต่อไปเถิด...

ผมนึกบอกกล่าวคุณลุงและบอกตัวเอง...เมื่อวันนั้นจะต้องมาถึงแน่นอน!

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
Create Date :18 ธันวาคม 2555 Last Update :18 ธันวาคม 2555 8:19:43 น. Counter : 1600 Pageviews. Comments :0