bloggang.com mainmenu search
คือ ผมจองตั๋วไปเที่ยวกัน 3วัน 2คืน มากัน3คน (แฟน,ผม,เพื่อน) 
ซึ่งเรา happy มากๆ แต่วันขากลับดันไม่ happy ครับ
เรื่องคือ ตอนนั้นเป็นเวลา 4โมงเย็น ผมต้องบิน6โมงเย็น คือคิดว่ายังไงเราก็ทัน แค่วิ่งซื้อ iPhone6
แต่มันไม่จบแค่นั้นครับ ผมไปร้านแห่งๆนึง ใน China Town (ตึกเขียวๆ ข้างในเหมือน MBKบ้านเรา)
เข้าไป ร้านแรกๆเลยคับ เค้ามีขาย iPhone6 (ซึ่งผมเดินดูในห้างแล้ว ว่าช่วงนี้ หมดstock กันทุกที่ เว้นแต่ที่นี้)
ผมก็ไม่ได้นึกคิดอะไรมาก ผมเลยถามว่า" iPhone6 ราคาเท่าไร"
เค้าบอก "850เหรียญ" (850x25=21,250.-) แต่ก็แอบงงว่าทำไมราคาเค้าขายถูกจัง 
ผมก็เลยถามเค้าว่า "เครื่องสามารถใช้ในไทยได้ใช่ไหม?" 
เค้าบอก "ใช่ เครื่องไม่ติดLock สามารถใช้ได้ทุกที่" (ผมเลยขอยืมเงินเพื่อน เงินแฟน อีกคนละ200เหรียญ)
ผมเลยถามไปอีกว่า "ไม่ติดสัญญาใช่ไหม?"
เค้าบอก "ใช่"
ผมเลยยื่นเงินให้เค้าไป เพื่อนก็อยากได้อีกคน เลยซื้อด้วยบัตรเดบิต ส่วนผมเงินสด
เค้าก็เขียนบิลขึ้นมา ทำเป็น2บิล ผมกับเพื่อนผม ผมก็อ่อ บิลเงินสดเหมือนบ้านเราปกติ 
ผมก็อยากจะเช็คตัวเครื่อง(เพราะซิลนี้แหะแบบมาใหม่ๆเลย) แต่เค้ายังไม่ให้เรามีโอกาสเช็ค 
เค้าก็เลยหยิบใบนึงๆมาคำว่า "Waranty" ซึ่งผมกับเพื่อนๆก็คิดว่ามันคือใบการรับประกัน แบบปกติทั่วไป 
เช่น ตกน้ำ,จอแตก เป็นต้น ซึ่งในใบนั้นมีให้เลือก การรับประกัน คือ "2ปี/3ปี" ผมก็เอา2ปี เพื่อนเอา3ปี
เค้าก็ให้เราเซ็นนู้นนี่นั้น เราก็เลยบอกว่า "Plese hurryup i have fight goback to bkk today"
เค้าบอก "แป๊ปเดียว เดินทางแค่15นาที" ผมก็อยากจะรีบๆซื้อ รีบๆไปขึ้นเครื่อง ซื้อแค่นี้ไม่น่าจะเสียเวลาอะไร
เสร็จแล้ว เค้ามากรอกราคาทีหลัง ในใบ "Waranty" เขียนว่า "69.99เหรียญ/เดือน(1,750.-)" 
คือผมต้องมาติดสัญญา2ปี ละต้องมาผ่อนอีกอ่ะหน่ะหรอ?? มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ 
เราเลยบอกให้ยกเลิก "Waranty" เราต้องการแค่ "iPhone6 Only"
เค้าบอก "ยกเลิกไม่ได้ คุณเซ็นแล้ว และตอนนี้คุณต้องจ่ายเพิ่มตอนนี้คือ 69.99เหรียญ ค่าWaranty2ปี"
ซึ่งที่เราคิดกันเข้าใจกัน คือ คำว่า "Waranty" มันแค่ประกันเครื่องไม่ใช่ "contract" แบบนี้สิ
เราก็ไม่รู้จะทำยังไง เราจะยกเลิกก็ไม่ให้ เราก็รีบๆจะเอาตัวเครื่องมาละรีบขึ้นเครื่องเลย เชิงยินยอมเค้ามา
เพราะใจนึงก็อยากได้เครื่อง กับ ใจนึงเราก็ต้องรีบวิ่งไปขึ้นเครื่อง เดี๋ยวจะตกเครื่อง.
เค้าเลยถามผมต่อว่า "You have credit card."
ผมตอบ "ไม่มี"
เค้าบอก "ได้ไง ไม่มีละจะจ่ายยังไง?"
ผมเลยส่งบัตรเดรบิตไปแทน เค้าก็จะไปตัดเงิน แต่ตัดไม่ผ่านเพราะมันไม่ใช่เครดิด 
ผมก็บอก "ละจะทำยังไง ผมไม่มีเงินเหลือแล้ว บัตรเครดิดก็ไม่มี"
เค้าบอก "งั้นเอาเครื่องอื่นไปแทนได้ไหม?" คือ เครื่องเพื่อน+เครื่องผม แลกได้แค่ iPhone5 = 1เครื่องอ่ะ 
คือ 850+850=1,700เหรียญ(42,500บาท) ผมเลยเริ่มไม่ยอมล่ะ มันชักจะโอเวอร์เกินไปแล้ว
ตัวผมเองก็ไม่ได้ซื้อซิมโทรศัพท์ที่สิงค์โปรมาใช้ด้วย เพราะจะประหยัดเงินให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
น้ำก็เอาขวดไปเดินกรอกหาที่มีเครื่องกรองเติมฟรี ข้าวก็กินแค่พออิ่มถูกๆ ทั้งหมดใน3วัน ใช้เงินไปแค่ 3-4พันบาทเอง 
ตั๋วบินก็จองข้ามปี เพื่อจะได้ราคาถูกที่สุดคุ้มที่สุด wi-fi ก็หาฟรี เอาตาม STARBUCKS กว่าจะได้เล่น ละอัพรูปในแต่ละที
แต่เราไม่คิดไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอกับตัวแบบนี้ ผมรู้สึกเสียดายเงินและ เจ็บใจทำอะไรไม่ได้ ใจลึกๆอยากจะบ้าพลัง สีหน้าผมนี่พังร้านได้อ่ะ
ผมเลยบอก "You call police ok" แต่เค้าก็ทำเป็นเฉยใส่ผม (ผมจะติดต่อโทรเองก็ไม่ได้ ไม่มีซิมมือถือ)
ผมเลยเดินไปร้านข้างๆ บอก "Help me pls. I want call to police" 3-4ร้าน ไม่มีใครอยากช่วยเหลือผมเลย
คือ ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ในตัวก็ไม่เหลือเงินแล้ว และ โทรหาใครก็ไม่ได้ แถมต้องมาตกเครื่องอีก
ผมเลยเดินไปเจอร้านนึง เค้ารับฟังและเจอคนอยากจะช่วยผมจริงๆ ผมเลยขอบคุณเค้ามาก น้ำตาผมแทบตก
เค้าเลยโทรหาตำรวจให้ เค้าบอกร้านนี้เคสแบบนี้ประจำ ตำรวจมาที่นี้แทบทุกวัน (ผมก็อึ้ง)
พอPoliceมา เค้าก็ยื้อไม่ยอมคืนเงิน ยือดึงผมจนเสียเวลาที่จะบินกลับไทยได้ 
จนผมโวยวายเพราะโดนเค้ากดดันในที่สุดจนได้ ว่า "ผมจะเอา iPhone5 มาทำไม? ต้วผมเองก็ยังใช้ iPhone5S อยู่เนี่ย"
ในที่สุดเค้าก็ยอม คืนเงินให้ แต่เค้าจะขอหักไป 400เหรียญ ผมก็ไม่ยอมอีก
จนเค้าบอกสุดๆ ว่าเค้าเสียค่าธรรมเนียม ค่าหักจากแบงค์เท่านั้นเท่านี้ เค้าคืนให้สุดๆแค่ 1,500เหรียญ
ผมเลยยอม แต่ยังไม่จบง่ายๆ ผมเลยจะไปแจ้งความเอาเรื่องอีกให้ถึงที่สุด เลยจะยาวไปสถานีตำรวจต่อ
ไป "Report เอาเรื่องไว้สักหน่อย" แต่ไม่รู้จะทำยังไง ใจอยากไม่ให้คนอื่นต้องมาโดนแบบผมอีก
พอผมได้เงินแล้วเลยกลับไปร้านคนนั้นที่ช่วยเหลือผม ผมเลยซื้อของร้านเค้าเป็นการตอบแทน ละขอบคุณเค้า
พอจบเรื่อง ผมก็ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจ แจ้งขอ "Report"
แม้แต่ตำรวจเองตอนที่เค้าเขียนใบบันทึกประจำวัน เค้าก็บอก "อย่าซื้อมือถือที่ สิงค์โปร นะ" พอเสร็จ
ก็รีบมาสนามบินต่อ เพื่อมาติดต่อเค้าเตอร์ พร้อมเอกสารที่ตำรวจออกให้ เผื่อเค้าจะให้ได้บินฟรี แต่เปล่าครับ
ต้องมาเสียค่าเครื่องใหม่ อีก70เหรียญ(1,750.-/คน) นี้ยังดีที่ถูกนะคับ เพราะเค้าให้ราคาคนตกเครื่อง
ไปถามอีกสายการบิน ของ Singapore Airline เค้าคิด 614เหรียญ(15,350.-/คน) แพงเวอร์ๆ ไม่มีตังค์คับ
เลยได้ Taiger Air บินรอบ 6โมงเช้า ไปแทน (นอนรอที่สนามบินอีก เพราะไม่มีที่นอน)
นี้ละคับคือเรื่องที่อยากจะฝากกัน อยากจะฝากแชร์ให้พี่น้องทุกๆคนทราบ และส่งต่อการแชร์นี้ไปเลื่อยๆ
(เดียวผมจะกลับมาอัพรูปให้ดูหน้าร้านที่เค้าขายให้ดูทีหลังนะคับ เพราะตอนนี้ผมยังติดอยู่สนามบินใช้ iPad เล่าเรื่องราวให้ฟังได้แค่นั้นครับ)
ลิงค์สำรองข่าว : //pantip.com/topic/32641889
(ผมเป็นคนเขียนเองนะครับ)
Create Date :29 กันยายน 2557 Last Update :29 กันยายน 2557 21:43:26 น. Counter : 1040 Pageviews. Comments :0