bloggang.com mainmenu search

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยนะครับสำหรับ iPhone รุ่นใหม่จาก Apple ที่คราวนี้เปิดตัวพร้อมกันถึงสองรุ่นคือ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ที่มาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ขึ้นตามข่าวลือก่อนหน้านี้ โดย iPhone 6 นั้นจะเป็นรุ่นที่มาพร้อมหน้าจอ 4.7 นิ้ว และ iPhone 6 Plus ก็คือรุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้วนั่นเอง

iphone_6_iphone_6_plus

ก่อนอื่นเรามาดูกันที่หน้าจอก่อนเลยครับ ซึ่ง Apple บอกว่า iPhone 6 ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอ “Retina HD Display” โดยรุ่น 4.7 นิ้วมาพร้อมกับความละเอียด 1334×750 พิกเซล (326ppi) และ iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด 1920×1080 พิกเซล (401ppi) มากกว่า iPhone 5s 1 ล้านพิกเซล และ 2 ล้านพิกเซลตามลำดับ

ไอโฟน 6 รุ่นใหม่นี้มาพร้อมกับฮาร์ดแวร์หลายอย่างที่เปลี่ยนใหม่ครับ ยกตัวอย่างเช่นในส่วนของบอดี้ ที่มีความบางเพียง 6.9 มม. สำหรับ i6 และ 7.1 มม. สำหรับ i6 Plus

DSC_4509

ทางด้านชิปประมวลผล ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ CPU ตัวใหม่ Apple A8 64-bit ที่ให้พลังแรงขึ้น 25% ในขณะที่มีขนาดเล็กลง 13% และกินพลังงานน้อยลง 50% เมื่อเทียบกับชิป Apple A7 แถมชิปตัวใหม่นี้ยังมีพร้อมกับระบบ Motion Coprocessor ที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูลการออกกำลังกายของคุณด้วย

Apple ย้ำถึงด้านการใช้พลังงานว่า iPhone 6 นี้สามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ถึง 50 ชั่วโมง, เล่นวีดีโอได้ 11 ชั่วโมง, เล่นเน็ตผ่าน WiFi ได้ 11 ชั่มโมง และเล่นผ่าน LTE ได้ 10 ชั่วโมง

ส่วน iPhone 6 Plus นั้นแม้จะมาพร้อมจอที่ใหญ่กว่า แต่ก็มาพร้อมกับการใช้พลังงานที่น่าประทับใจมากครับ โดยสามารถฟังเพลงได้ 80 ชม., ดูวีดีโอได้ 14 ชม., และเล่นเน็ตผ่าน Wi-Fi และ LTE ได้ 12 ชม.ต่อเนื่อง

ด้านการเชื่อมต่อ iPhone 6 ทั้งสองรุ่นรองรับการเทคโนโลยี Voice Over LTE (VoLTE), รองรับ LTE 20 แบนด์ เช่น 802.11ac ที่มีความเร็วมากกว่า WiFi ทั่วไป 3 เท่า และรองรับ WiFi Calling  รวมไปถึงรองรับ NFC ด้วย

การถ่ายภาพ และวีดีโอ

iphone_6_camera

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มาพร้อมกับระบบการถ่ายภาพแบบใหม่ครับ ที่มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับไฟแฟลชทรูโทน และระบบ “Focus Pixel” ที่ตัวเลนส์จะสามารถขยับเข้าหรือออกอัตโนมัติเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด รวมไปถึงยังมีระบบใหม่คือ tone mapping และ noise reduction ที่จะปรับภาพอัตโนมัติเพื่อให้ภาพคมชัด และสีสันตรงที่สุด

ตัวกล้องของ iPhone 6 จะมาพร้อมกับระบบกันภาพสั่นแบบ Digital นะครับ แต่ของ iPhone 6 Plus จะหรูกว่า คือมาพร้อมกับระบบ OIS หรือระบบการกันสั่นภาพด้วยเลนส์นั่นเอง

ด้านการถ่ายภาพ ไอโฟนทั้งสองรุ่นสามารถถ่ายวีดีโอได้ที่ความละเอียดระดับ Full HD ที่ 30fps และ 60fps แต่ไฮไลท์จะอยู่ที่ระบบ Slo-Mo ที่เพิ่ม fame-rate เป็น 240fps จากเดิม 120fps ทำให้สามารถถ่ายภาพแบบสโลโมชั่นได้ภาพที่ช้าลง และมีความละเอียดมากขึ้น

การใช้งาน Facetime ด้วยกล้องหน้าก็อัพเกรดขึ้นเช่นกัน โดยตัวกล้องจะคมชัด และสว่างขึ้นด้วยกล้องหน้ารูรับแสง f2.2 ทำให้ภาพสว่างขึ้น 81% รวมไปถึงสามารถถ่ายวีดีโอแบบ HDR ผ่านกล้องหน้าได้แล้ว

DSC_4610 DSC_4619 DSC_4623 DSC_4626 DSC_4621 DSC_4629 DSC_4616 (1)

ราคา และวันวางจำหน่าย

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะมีให้เลือก 3 สีครับ คือ เงิน, ทอง และดำ โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 19 กันยายน 2014 นี้เป็นต้นไป โดยจะวางขายในประเทศกลุ่มแรก ประกอบไปด้วย สหรัฐฯ, ฝรั่งเศส, ฮ่องกง, แคนาดา, เยอรมัน, สิงคโปร์, อังกฤษ, ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น (ไม่มีประเทศไทยแฮะ) โดยมีราคาดังนี้ (ราคานี้เป็นราคาสำหรับติดสัญญาการใช้งาน 2 ปีในต่างประเทศ)

iPhone 6 รุ่น 16GB ราคา $199
iPhone 6 รุ่น 64GB ราคา $299
iPhone 6 รุ่น 128GB ราคา $399

iPhone 6 Plus รุ่น 16GB ราคา $299
iPhone 6 Plus รุ่น 64GB ราคา $399
iPhone 6 Plus รุ่น 128GB ราคา $499

iphone_6_prices

DSC_4727

DSC_4719 DSC_4692 DSC_4459 DSC_4421 DSC_4434

source: theverge, macrumors

Create Date :10 กันยายน 2557 Last Update :10 กันยายน 2557 7:26:45 น. Counter : 1836 Pageviews. Comments :0