หน้าตาพาทุกข์ สุพจน์ซื้อเสื้อยี่ห้อดังมาตัวหนึ่งราคานับหมื่น เช้านี้ได้ฤกษ์สวมใส่เป็นครั้งแรก แต่เกรงว่าคนจะไม่สังเกต เวลาเดินจึงอกผายไหล่ผึ่งและนวยนาดเป็นพิเศษ สักพักก็ถามลูกน้องว่า"มีคนกำลังมองฉันไหม ?""ไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย" ลูกน้องตอบสุพจน์จึงผ่อนคลายลง เดินตามสบาย แล้วพูดว่า "ตอนนี้ไม่มีคนมอง พักผ่อนสักนิดดีกว่า"เสียเงินนับหมื่นซื้อเสื้อแล้วยังไม่พอ ต้องเสียแรงอวดมันให้คนเห็นด้วย แทนที่สุพจน์จะเป็น "นาย" ของเสื้อ เสื้อกลับมาเป็น "นาย"ของเขาแทน นี่ถ้าเสื้อเกิดมีรอยขีดข่วนหรือเกี่ยวตะปูจนขาด เขาคงเสียใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับแต่จะว่าไปแล้วตัวการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็ คือ "หน้าตา"สมัยนี้ถ้าอยากให้คนชมว่าเท่ ทันสมัย สะสวย หล่อเหลา มีเทสต์ ก็ต้องไปหาซื้ออะไรต่ออะไรมาใส่ตัว ไม่ว่าเสื้อ กางเกง รองเท้า กระเป๋า นาฬิกา ล้วนแล้วแต่ราคาแพง ๆ ทั้งนั้น ซื้อมาแล้วไม่พอ ต้องหาทางอวดให้คนเห็นชัด ๆ ด้วยในทำนองเดียวกันเวลาจะกินหรือดื่มอะไร ก็ต้องเลือกแบรนด์ดัง ๆ หรือร้านเด่น ๆ เช่น อยู่ติดถนนใหญ่ คนข้างนอกมองเข้ามาเห็นทุกคำที่ดื่มกิน เวลาดื่มกินจึงต้องวางมาด ยิ่งถ้าเป็นกาแฟ ก็ต้องทำท่าครุ่นคิดนิดหน่อยราวกับกำลังคิดโปรเจ็คต์ร้อยล้าน หรือไม่ก็ทำทีว่ามีความสุขเต็มที่กับชีวิตอย่างที่เห็นในโฆษณาปัญหาก็คือใคร ๆ เขาก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้นเพราะฉะนั้นถ้าจะให้เด่นกว่าใคร ก็ต้องมีอย่างที่คนอื่นไม่มี หรือทำก่อนที่คนอื่นจะทำ เพราะฉะนั้นก็ต้องขวนขวายไล่ล่าหาของแพงยี่ห้อดังที่ไม่ซ้ำรุ่นกับใคร และทำตัวให้ "เดิ้น" ล้ำหน้าคนอื่นอยู่เสมอ ชีวิตที่มีหน้าตาเป็นแรงขับจึงวิ่งไม่หยุด เป็นชีวิตที่ไม่น่าจะมีความสุขสำหรับคนที่มีเงิน หน้าตาหมายถึงการใช้ของแพง ๆ ส่วนคนที่มีอำนาจหรือมีชื่อเสียง หน้าตาหมายถึงการเป็นที่รู้จักและเคารพนบนอบ คนประเภทหลังนี้เวลาไปไหน จะคอยชำเลืองว่ามีใครรู้จัก ถ้าเป็นดาราแต่ไม่มีใครมาทักทายหรือขอลายเซ็นก็จะรู้สึกเป็นทุกข์ ถ้าเป็นรัฐมนตรีหรือนายพล เข้าไปในร้านอาหารแต่พนักงานเสิร์ฟไม่รู้จัก ก็อาจคำรามในใจว่า "รู้ไหมว่าข้าเป็นใคร ?" คนที่รู้สึกแบบนี้ กินอาหารจะอร่อยได้อย่างไร อยู่ที่ไหนก็ไม่เป็นสุข เพราะแบกเอาตำแหน่งหรือชื่อเสียงไปตลอดเวลาหน้าตานั้นแม้จับต้องไม่ได้ แต่ไปอยู่กับใคร ก็ทำให้ชีวิตหนักอึ้งและไม่เป็นสุข เพราะต้องคอยปรนเปรอมันอยู่ตลอดเวลา ถ้าปล่อยให้มันครองใจเมื่อใด ก็เท่ากับยอมให้มันมาชักใยทุกอิริยาบถ จะยืน จะนอน จะนั่งก็เพื่อมันสถานเดียวลำพูนซื้อเตียงประดับเพชรมาราคานับล้าน แต่อยู่ในห้องไม่มีใครมองเห็น เขาจึงแกล้งป่วยเพื่อให้ญาติมิตรเข้าไปเยี่ยมถึงเตียงพุแคเป็นคนหนึ่งที่เข้าไปเยี่ยม เขามีถุงเท้าใหม่คู่หนึ่ง อยากให้คนอื่นได้ดู จึงนั่งไขว่ห้างดึงชายกางเกงขึ้นสูงลำพูนจึงถามพุแคว่า "เป็นโรคอะไรเหรอ ?""เป็นโรคเดียวกับแกไงล่ะ" พุแคตอบ ที่มา...สาระขันขัน คติธรรมในขำขัน โดย สามสลึง เครือข่ายพุทธิกา//www.dhammajak.net/ Create Date :11 กรกฎาคม 2554 Last Update :11 กรกฎาคม 2554 6:46:28 น. Counter : Pageviews. Comments :0 twitter google Comment *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก