bloggang.com mainmenu search
ผู้หญิง

เกิดเป็นหญิงแท้จริงต้องระวัง (Momypedia)
โดย พริบพราย

มาดูกันว่า โรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ที่มาเยี่ยมเยือนผู้หญิงเราโดยเฉพาะนั้นมีอะไรบ้าง เพื่อใช้ดูแลและป้องกันตัวเองค่ะ

การดูแลตัวเองทั้งในเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย พยายามรักษาจิตใจให้แจ่มใส เฝ้าระวังระไวและตรวจตราตัวเองอยู่สม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันเราไม่ให้เฉียดกรายเข้าใกล้โรคภัยที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงเราโดย เฉพาะ ได้แก่ เนื้องอกมดลูก มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม และกระดูกพรุน

การดูแลสุขภาพสม่ำเสมออย่างหนึ่ง นอกจากจะไปตรวจสุขภาพประจำปีแบบเดียวกับหนุ่ม ๆ เขาแล้ว ผู้หญิงเราควรจะไปหาหมอเพื่อตรวจภายในกันปีละหน แต่สาวปูนนี้มีเหมือนกันที่ยังเหนียมอายอยู่ บางคนก็กลัวว่าตรวจแล้วพบเนื้อร้ายหรือความผิดปกติต้องขึ้นเขียงผ่า จึงหลีกเลี่ยงไม่ค่อยยอมไปตรวจกัน ชะล่าใจแบบนี้เท่ากับเป็นการเสี่ยงนะคะ

สิ่งที่ดีที่สุดคือการตรวจเป็นการตรวจประจำ ถ้าตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็สามารถรักษาให้หายได้แม้จะเป็นมะเร็ง ที่พบแล้วเจอแจ๊กพ็อตเพราะว่าในชีวิตนี้ไม่เคยไปตรวจภายในเลย หรือชะล่าใจอย่างที่เล่าล่ะค่ะ

เตรียมตัวไปตรวจภายใน

เตรียมใจยังไม่พอค่ะ ต้องเตรียมให้พร้อมสำหรับการตรวจด้วย ควรเลือกวันหลังประจำเดือนหมดไปก่อน งดมีเพศสัมพันธ์ก่อนไปตรวจ 24 ชั่วโมง ไม่สวนล้างช่องคลอด 3 วันก่อนไปตรวจ รักษาอาการติดเชื้อหรืออักเสบที่ช่องคลอด เช่น เชื้อราในช่องคลอดให้หาย เพราะสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้ผลการตรวจออกมาไม่แน่นอน

การตรวจภายในจะทำให้พบความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นกับระบบภายในอวัยวะสืบ พันธุ์ของผู้หญิง ที่ควรระวัง คือ เนื้องอกในมดลูกและมะเร็งปากมดลูก

เนื้องอกมดลูก

ทุกวันนี้พบจำนวนผู้หญิงเป็นเนื้องอกมดลูกมากขึ้นกว่าแต่ก่อน บางคนอาจไม่มีอาการผิดปกติ แต่เมื่อเนื้องอกโตขึ้นเรื่อย ๆ อาจทำให้ประจำเดือนมามาก นาน หรือบ่อยเกินไปอาจทำให้โลหิตจาง หรือไปกดทับกระเพาะปัสสาวะทำให้ปัสสาวะลำบาก หรือปวดปัสสาวะบ่อย ๆ ปวดหน่วง ๆ ในท้องน้อย ถ้ากดทับช่วงทวารหนัก จะทำให้มีอาการท้องอืด ท้องผูก เท้าบวม หรือสังเกตได้อีกอย่างว่าอาจเป็นคนที่มีลูกยาก

เนื้องอกเกิดจากเซลล์กล้ามเนื้อผนังมดลูกที่เจริญเติบโตผิดปกติ จนเป็นก้อนอยู่ในผนังมดลูก แรก ๆ อาจเล็กนิดเดียว แล้วค่อย ๆ โตขึ้น สำหรับคนไม่เป็นปัญหาก็ไม่ต้องไปจัดการอะไร เพียงแต่ติดตามดูว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป ถ้าใกล้จะถึงวัยหมดประจำเดือนเนื้องอกจะเล็กลงไปเอง เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนจะไปกระตุ้นการเจริญเติบโตของเนื้องอกลดลง เนื้องอกนี้ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยพัฒนาไปเป็นเซลล์มะเร็ง

การรักษามีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการของเนื้องอกว่าหนักหนาแค่ไหน บางรายกินยา บางรายผ่าตัดออกเฉพาะเนื้องอก เก็บมดลูกไว้เผื่อมีลูกได้ต่อไป แต่แบบนี้ก็อาจเป็นเนื้องอกได้อีก ถ้าเนื้องอกใหญ่มาก มีหลายก้อน หรือเกิดความผิดปกติมากหมอจะพิจารณาตัดมดลูกออกไป ส่วนจะตัดรังไข่ไปด้วยหรือไม่ก็ต้องดูว่าจำเป็นต้องเก็บรังไข่ไว้สร้าง ฮอร์โมนเพื่อรักษาสมดุลในร่างกายหรือเปล่า หรือกรณีที่ประจำเดือนมากผิดปกติ แต่เนื้องอกเล็กมีไม่หลายก้อนนัก ก็ใช้การจี้ทำลายเยื่อบุโพรงมดลูกและเนื้องอกในโพรงมดลูก

ยังไม่ทราบสาเหตุชัดเจนว่า เจ้าเนื้องอกมาโผล่ตรงมดลูกได้อย่างไร แต่สาเหตุหลักก็หนีไม่พ้นลักษณะการดำเนินชีวิตสภาพแวดล้อม อาหารที่เรากินเข้าไป และความเครียดซึ่งเป็นสาเหตุของทุกโรค


มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูก

เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ผู้หญิงไม่น้อยต้องเสียชีวิตไป เพราะไม่ได้ตรวจตั้งแต่เนิ่น ๆ ทั้งที่เป็นเรื่องป้องกันได้ เพราะยิ่งพบเร็วยิ่งมีโอกาสหายขาดได้มาก

สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เอชพีวี (HPV - Huma Papilloma Virus) เชื้อไวรัสนี้ใช้เวลานานนับ 10 ปี กว่าจะก่อตัวเป็นมะเร็งปากมดลูกขั้นรุนแรง ถ้าพบก่อนรักษาหายขาดได้ ไม่นำไปสู่การก่อตัวของมะเร็งปากมดลูก

ผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน หรือมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายเพียงคนเดียว แต่เขามีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงหลายๆ คน หญิงรักเดียวใจเดียวก็มีสิทธิ์รับเชื้อได้ ยังพบอีกว่าผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์ก่อนอายุ 20 ปีก็เสี่ยงต่อมะเร็งปากมดลูกด้วยเพราะมดลูกในวัยนี้ยังไม่เจริญเติบโตเต็ม ที่ มีโอกาสที่เชื้อจะเข้าไปทำอันตรายง่ายกว่า เตือนลูกสาววัยรุ่นของเราไว้นะคะว่า ค่านิยมตะวันตกมาแรงแซงค่านิยมไทย เรื่องรักนวลสงวนตัว อย่างไรข้อเท็จจริงเรื่องมะเร็งปากมดลูกยังคงเป็นเช่นนี้อยู่

บุหรี่และเหล้ายาทั้งหลายที่เราดูดและดื่มเข้าไป ยังคงเป็นผู้ร้ายหน้าเก่าตัวเดิมที่จะลดภูมิต้านทานของร่างกาย เปิดโอกาสให้เชื้อเอชพีวีเล่นงานง่ายขึ้น

มะเร็งเต้านม

ทรวงอกคือจุดอ่อนอีกจุดหนึ่งของผู้หญิงค่ะ เราอาจใส่ใจแต่เรื่องความสวยงามว่ามีขนาดเล็กใหญ่ หย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลกมากน้อยแค่ไหนแล้ว แต่ความสวยงามไม่น่าจะเป็นปัญหาหนักอกเท่ากับสุขภาพของทรวงอก มะเร็งเต้านมน่ะสิคะออกจะน่ากลัวอยู่ เกิดมาเป็นผู้หญิงเมื่อไหร่ ไม่ว่าวัยไหนก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมค่ะ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายข้อ

เราจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านมถ้า

มีคนในครอบครัวเคยเป็นมะเร็งเต้านม

ไม่มีลูก หรือมีลูกคนแรกหลัง อายุ 30 ปี

ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่

คนที่ใช้ยาคุมกำเนิดก็มีโอกาสเสี่ยงมากกว่าคนที่ไม่เคยกินเลย

ใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดเทนเป็นเวลานาน (ราว ๆ 10 ปีขึ้นไป) หลังจากวัยหมดประจำเดือน

คนที่ดื่มเหล้าวันละ 1 แก้ว จะมีโอกาสเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่พวกคอแป๊บคอทองแดงดื่มวันละ 2-5 แก้วทุกวัน มีสิทธิ์เสี่ยงมากกว่าคนที่อ้วนมาแต่เกิด

ชอบกินอาหารประเภทเนื้อแดงไขมัน

มะเร็งเต้านมป้องกันได้

เราจะไม่ตกไปอยู่ในกลุ่มที่เสี่ยงต่อมะเร็งเต้านม ถ้ารู้จักดูแลรักษาตัวเองอย่างสม่ำเสมอค่ะด้วยการ


ออกกำลงกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 4 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย เฉลี่ยเกลี่ยกันไปไม่ใช่วันเดียว 4 ชั่วโมงรวด อาจว่ายน้ำ วิ่ง บริหารตามวิดีโอ เล่นกีฬาที่ชอบ หรือกวาดเช็ดถูบ้าน

ลดอาการเนื้อสัตว์ประเภทเนื้อแดง เปลี่ยนมากินปลาแทน กินผัก ผลไม้ ธัญพืชในสัดส่วนที่มากขึ้น

เหล้าบุหรี่ละไว้

ตรวจหน้าอกตัวเองเดือนละครั้ง หาความผิดปกติ อาจมีสัญญาณเตือน เช่น มีก้อนเนื้อในหน้าอก มีรอยบุ๋มย่นเหมือนเปลือกฟักทอง บางส่วนเป็นสะเก็ด หัวนมเปลี่ยนแปลงไป เช่น หดตัว เจ็บเต้านม เส้นเลือดดำขอด หรือความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ

ไปหาหมอตรวจเต้านมปีละครั้งตั้งแต่อายุ 20 พออายุ 35 ปีขึ้นไป เริ่มตรวจเมมโมแกรมปีละครั้ง
ถ้าตรวจพบมะเร็งเต้านม แล้วรีบรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ มีโอากาสรักษาหายได้

ตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตัวเอง

ควรตรวจทุกเดือน ระยะเวลาที่เหมาะที่สุดคือหลังประจำเดือนหมดไปแล้ว 7-10 วัน เพราะช่วงนี้เต้านมไม่คัดตึง มีก้อนแข็งน้อยที่สุด ถ้าตั้งครรภ์อยู่หรือวัยหมดประจำเดือนแล้ว ควรตรวจเดือนละครั้งอาจกำหนดเลยไปเช่น ทุกวันที่ 1 ของเดือนจะได้ไม่ลืม


มะเร็งเต้านม


วิธีตรวจ 3 วิธี ที่ตรวจได้ด้วยตนเองคือ

ยืนหน้ากระจก

สังเกตและเปรียบเทียบขนาด รูปร่าง ลักษณะ รอยบุ๋ม เว้า รอยย่น นูนของเต้านมและหัวนมทั้งสองข้าง ปล่อยแขนข้างลำตัวตามสบาย แล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเหนือศีรษะ จากนั้นใช้มือเท้าสะเอวเกร็งกล้ามเนื้อไหล่ให้ช่วงอกตึงขึ้น สังเกตลักษณะต่าง ๆ ต่อไปลองนั่งโค้งตัวมาข้างหน้ามือทั้งสองวางบนเข่า สังเกตหาความผิดปกติ

นอนราบ

นอนราบใช้ผ้าพับหรือหมอนใบเล็ก ๆ รองใต้ไหล่ข้างที่จะตรวจ ยกแขนซ้ายเหนือศีรษะ ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางข้างขวาคลำทั่วเต้านมและรักแร้ คลำวนแบบก้นหอยจากส่วนบนของเต้านมถึงฐานนมรอบรักแร้ จากนั้นตรวจข้างขวาแบบเดียวกัน

ขณะอาบน้ำ

ถ้ามีเต้านมขนาดเล็กให้ยกมือข้างซ้ายขึ้นเหนือศีรษะ ใช้มือขวาคลำสำรวจแบบเดียวกับท่านอน เสร็จแล้วตรวจอีกข้าง ถ้ามีเต้านมใหญ่ ให้ใช้มือข้างซ้ายประคองเต้านมซ้ายตรวจคลำหาจากด้านล่าง ส่วนมือขวาคลำจากด้านบน แล้วตรวจอีกข้างหนึ่งด้วยวิธีเดียวกัน

กระดูกพรุน

กระดูกพรุนอาจดูไม่รุนแรงเท่ากับมะเร็งในระบบสืบพันธ์แต่มองข้ามเรื่องนี้ไป ไม่ได้ค่ะถ้าเราเกิดเป็นหญิง เพราะเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน หรือได้รับการผ่าตัดเอารังไข่ออกไป ร่างกายจะหยุดผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนนี้ทำหน้าที่ดูแลกระดูกให้แข็งแรง คอยดูดซึมแคลเซียมสารจำเป็นสำหรับสร้างความแข็งแกร่ง เมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน จึงมักพบปัญหากระดูกพรุนได้ง่ายกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า

กระดูกที่มีความหมายหนาแน่นของเนื้อกระดูกน้อย จะอ่อนแอเปราะบาง หักง่าย ข้อมือ สะโพก สันหลังบริเวณเอว จะเป็นส่วนที่ควรระวัง

สำหรับคนที่มีการสะสมแคลเซียมสร้างความแข็งแรงในกระดูกมาตั้งแต่เล็ก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ มีโอกาสรับแสงแดดยามเช้าเป็นประจำ กินอาหารที่ประกอบด้วยแคลเซียมเพียงพอ ปัญหากระดูกพรุนในวัยนี้จะไม่มากมายเท่ากับคนที่วัน ๆ เอาแต่นั่งทำงานในตึก ไม่เคยหาเวลาออกกำลังกาย

การออกกำลังกายจะมีผลดีต่อการสร้างกระดูก ถ้าได้ออกกำลังกายวันละ 20 นาทีเป็นอย่างน้อย ไปวิ่งในสวนเดินไปทำงานในช่วงแต่เช้าตั้งแต่ 7 โมงถึง 9 โมงเช้าจะดีต่อกระดูกมาก

เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมาก อาหารที่รสเค็มจัด โปรตีน และฟอสฟอรัสจะเพิ่มการสูญเสียแคลเซียมไปกับการปัสสาวะมากกว่าคนที่ไม่ดื่ม

การสูบบุหรี่ หรือกินยาบางชนิด เช่นยาในกลุ่มสเตียรอยด์ ก็จะทำให้เนื้อกระดูกบางลงเช่นกัน

มีความเข้าใจว่าการซื้อแคลเซียมชนิดเม็ดกิน จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างกระดูก แต่ความจริงแล้วไม่สามารถกินได้ตามใจชอบ ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ การกินแคลเซียมทดแทนเข้าไปโดยไม่ได้ออกกำลังกายเลย แคลเซียมก็ไม่ได้เข้าไปสร้างเสริมกระดูกแต่อย่างใด ถ้าคุณหมอไม่ได้บอกว่าเราต้องกินแคลเซียมเม็ด เลือกแคลเซียมที่หาได้ง่าย ๆ ในอาหารประจำวันดีกว่าค่ะ เช่น กุ้งแห้ง งาดำ กะปิ ปลาเล็ก ปลาน้อย ใบแมงลัก ปลานิล ส้มเขียวหวาน ยอดคะน้า นมหรือเต้าหู้ เลือกกินอย่างเหมาะสมและออกกำลังกายสม่ำเสมอไว้แต่เนิ่น ๆ เท่ากับการเป็นการสะสมทุนไว้ใช้ยามแก่ค่ะ

การดูแลสุขภาพของตัวเองสม่ำเสมอนั้น ก็เพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บมิให้มากล้ำกราย เป็นของฝากจากผู้หญิงสู่ผู้หญิงด้วยกันค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Create Date :15 พฤษภาคม 2554 Last Update :15 พฤษภาคม 2554 9:01:23 น. Counter : Pageviews. Comments :0