bloggang.com mainmenu search

เข้าสู่ฤดูแห่งความรักทั้งที ใครที่กำลังคบหาดูใจกับคนรักอยู่ก็อาจจะกำลังวางแผนฉลองวาเลนไทน์กันแบบโรแมนติกสุดๆไปเลยใช่ไหมล่ะค่ะ บางคู่ก็ขยันอัพรูปคู่ลง Facebook, Instagram, Twitter แล้วก็มีแต่เพื่อนๆแห่มาอิจฉา แถมยังเชียร์กันยกใหญ่ว่า “แต่งเลย แต่งเลย” อีกต่างหาก บางคู่ก็ไม่มีแผนจะแต่งงานกันจริงๆ แต่บางคู่ก็แค่รออีกฝ่ายเอ่ยปากขอเท่านั้นแหละ ว่าแต่ว่า...เราจะรู้ได้ยังไงว่าคู่ของเรารักกัน สนิทกัน และพร้อมที่จะแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้วจริงๆ มาอ่าน 27 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคู่ของคุณถึงเวลาที่จะต้องแต่งงานกันเสียที ที่ นำมาฝากกันดีกว่าค่ะ

คุณอยู่ด้วยกัน และไม่ทะเลาะกัน (คือจริงๆอาจจะมีบ้าง แต่ก็แฮปปี้ดี และออกจะเหงาๆด้วยซ้ำถ้าอีกคนไม่อยู่) คุณเลิกหยิบมือถือของกันและกันมาเช็คเบอร์โทรออก, Message, Facebook, LINE, Instagram, WhatsApp, แอพ BeeTalk, Tinder และอีกสารพัดสิ่ง (ไม่เหมือนช่วง 6 เดือนแรกที่คบกัน) ฝ่ายหญิงเริ่มเซฟรูปชุดเจ้าสาว เมคอัพ ทรงผม การ์ดงานแต่งและการตกแต่งต่างๆไว้ใน Pinterest, Instagram, Facebook ในคอมหรือในมือถือ
คุณลืมความรู้สึกตื่นเต้นของการออกเดทไปแล้ว เพราะตอนนี้การไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆ คุณไม่ระแวงสงสัยหากอีกคนไม่อยู่ ถึงจะเหงาแต่ก็เป็นช่วงเวลาที่คุณจะแอบดูรายการทีวีที่คุณชอบแต่เขาไม่ชอบได้ คุณไม่เคยทวงเงินหยุมหยิมกัน 10-20-50 บาท เรื่องเล็กจะตาย คุณเคยคุยกันเรื่องมีลูก ชื่อลูก เพศของลูก และไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรเลย (แถมยังตื่นเต้นอีกต่างหาก) คุณเคยคุยว่าจะหาหมาแมวหรือสัตว์อื่นๆมาเลี้ยงด้วยกัน (ก็เหมือนๆกับจะเลี้ยลูกด้วยกันนั่นแหละเนอะ)
คุณสามารถบอก password ใน Facebook, LINE, e-mail หรือแม้กระทั่งรหัสบัตรเอทีเอ็มโดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยแม้แต่น้อย คุณไปดูคอนเสิร์ตของวงที่อีกฝ่ายชอบได้โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการบีบบังคับ ฝ่ายผู้ชายชอบที่จะเห็นหน้าฝ่ายผู้หญิงแบบ no makeup มากกว่า (หา....นั่นคือการพิสูจน์รักแท้เหรอ?) คุณรู้สึกโอเคที่จะมีกันและกันเพียงสองคนอย่างนี้ไปตลอดจนชั่วชีวิต โดยพร้อมที่จะหยุดชีวิตโสดไว้เพียงเท่านี้จริงๆ คุณเริ่มพูดถึงเรื่องในอนาคตด้วยคำว่า “เมื่อไรที่เราจะ....”แทนที่จะพูดว่า “ถ้าเกิดว่าเราจะ....” คุณรู้สึกว่าอีกฝ่ายสามารถเติมเต็มชีวิตของคุณให้สมบูรณ์ได้ คุณไม่ยอมนอนหลับจนกว่าจะเคลียร์เรื่องที่ทะเลาะกันให้จบ (หรืออย่างน้อยก็พยายามทำเป็นว่าไม่มีอะไรค้างคาใจกันแล้วจริงๆ) คุณสามารถถามเรื่องญาติพี่น้องของอีกฝ่ายได้เต็มที่ โดยที่อีกฝ่ายก็เต็มใจที่จะตอบ คุณเริ่มวางแผนที่จะเก็บเงินด้วยกัน คุณจะรู้สึกแปลกๆเหงาๆ เวลาอีกฝ่ายไม่อยู่ข้างๆในเวลาที่ปกติเขาต้องอยู่ตลอด คุณรู้ความลับของอีกฝ่าย ที่เขาไม่เคยบอกใครเลย และถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี เขาก็ยังรักคุณเหมือนเดิม
คุณรู้ว่าอีกฝ่ายชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทั้งเรื่องอาหารการกินทั่วไป ไปจนถึงเรื่องความชอบส่วนตัว ฝ่ายหญิงเซฟรูปแหวนแต่งงานที่ชอบเอาไว้เรียบร้อยแล้ว (ที่เหลือก็แค่แอบเอาให้ฝ่ายชายดูเนียนๆในเวลาที่เหมาะสม) คุณรู้ว่าคุณสนิทและใกล้ชิดกันมาก และก็รู้สึกดีที่เป็นแบบนี้ ไม่มีความรู้สึกรำคาญที่อีกฝ่ายอยู่ใกล้ๆตลอดเวลา คุณไม่อยากให้อีกฝ่ายไปในที่ๆคุณไปด้วยไม่ได้ (แม้ว่าเขาจะไปทำงานก็เถอะ) คุณเปิดบัญชีธนาคารร่วมกัน
คุณบอกตัวเองได้เลยว่าคุณเลิกรัก เลิกคิดถึง หรืออาลัยอาวรณ์แฟนเก่าได้อย่างเด็ดขาดแล้วจริงๆ คุณอยากแต่งงานเพราะอยากแต่งจริงๆ อยากประกาศว่ามีคู่แล้วจริงๆ ไม่ใช่เพื่อแค่อยากสนุกหรือแต่งเพื่อญาติหรือใครๆก็ตาม คุณรู้ว่าไม่ว่าจะของขวัญชิ้นโตหรือสารพัดเซอร์ไพรส์ ก็ไม่เท่ากับการดูแลเอาใจใส่เรื่องเล็กๆน้อยๆกันทุกวัน (แต่ตอนขอแต่งงานต้องเอาให้แกรนด์ที่สุด จำไว้นะ)

คู่ไหนเป็นมากกว่านี้เกินครึ่งบ้าง? เตรียมเก็บเงิน ฟิตหุ่น ดูแลผิว แล้วร่อนการ์ดเชิญเพื่อนมางานแต่งงานของตัวเองกันได้เลย!

Source : Cosmopolitan.co.uk
Create Date :06 กุมภาพันธ์ 2558 Last Update :6 กุมภาพันธ์ 2558 7:26:28 น. Counter : 1137 Pageviews. Comments :0